"โบรกเกอร์"เชียร์ควบรวม TFEX กับAFET เพื่อเพิ่มผู้ลงทุน และทางเลือกในสินค้า คาดจะทำให้มีโอกาสได้เห็นสัญญาซื้อขายน้ำมันล่วงหน้าในไทยได้เร็วขึ้น “บล.โกลเบล็ก” เสนอตัวขอผลักดันสัญญาออปชั่นในตลาดอนุพันธ์โดยขอเป็นมาร์เกตเมกเกอร์ และเพิ่มสินค้าโกลด์ ออปชั่น หวังดึงนักลงทุนทองกระดาษ เข้ามาลงทุนเพิ่มวอลุ่ม พร้อมมองภาพรวมตลาดTFEX ยังมีเติบโตอีกมาก ส่วนโปรดักส์ใหม่สัญญาอัตราดอกเบี้ยล่วงหน้าที่จะมีในปี53 วงในมองว่าไม่เวิร์ค
แหล่งข่าวโบรกเกอร์ รายหนึ่งกล่าวว่า จากการพยายามเพิ่มสินค้าใหม่ให้แก่นักลงทุนของตลาดอนุพันธ์ เช่น Interest Rate Futures (สัญญาซื้อขายล่วงหน้าอัตราดอกเบี้ย)นั้น เรื่องดังกล่าวเชื่อว่าจะช่วยเพิ่มวอลุ่มให้ตลาดTFEX ได้ตามวัตถุประสงค์ของตลาดหลักทรัพย์ ฯ ในการเพิ่มสัดส่วนนักลงทุนสถาบันสำหรับตลาดอนุพันธ์ แต่โปรดักส์ใหม่นี้ จะไม่ค่อยได้รับความสนใจนักลงทุนรายย่อย เนื่องจากส่วนต่างในการทำกำไรของอัตราดอกเบี้ยมีโอกาสปรับตัวได้น้อย ซึ่งทำให้บริษัทหลักทรัพย์บางอาจอาจไม่เห็นประโยชน์ ดังนั้นโปรดักส์จะมีเพียงนักลงทุนต่างประเทศ และสถาบันเท่านั้นที่ให้ความสนใจ
สำหรับแนวคิดที่จะมีการเสนอออก สัญญาซื้อขายล่วงหน้าในอัตราแลกเปลี่ยน มองว่ามีความน่าสนใจแต่เร่องดังกล่าวต้องเกี่ยวข้องกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพราะมีผลกับนโยบายในการควบคุมค่าเงินของประเทศ แต่จะเป็นการช่วยป้องกันความเสี่ยงให้กับผู้ประกอบการด้านธุรกิจส่งออกได้ดี และเชื่อว่าจะได้รับความสนใจจากนักลงทุนมากกว่า
ส่วนแนวคิดการออกสัญญาล่วงหน้าราคาน้ำมันนั้น แหล่งข่าวกล่าวว่า ถือเป็นเรื่องยากและมีโอกาสเกิดขึ้นน้อยที่สุด เนื่องจากยังไม่สามารถสรุปได้ว่าโปรดักส์นี้จะต้องขึ้นเป็นสินค้าของใครระหว่าง TFEX และตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้า (AFET) เพราะถือว่าเป็นสินค้าโภคภัณฑ์
ดังนั้น ทางที่ดีที่สุดคือ ภาครัฐและตลาดหลักทรัพย์ฯควรเดินหน้าในเรื่องของการควบรวมทั้ง 2 ตลาดนี้ให้แล้วเสร็จ เพราะนอกจากจะสามารถออกโปรดักส์ที่มีความครอบคลุมมากขึ้น แล้ว ยังช่วยเพิ่มฐานผู้ลงทุนระหว่างกันได้ อีกทั้งจะช่วยให้ผู้ลงทุนมีโปรดักส์ในการลงทุนเพิ่มขึ้น เช่นเมื่อหุ้นอยู่ในช่วงภาวะผันผวน นักลงทุนก็อาจมาลงทุนในทองคำ หรือสินค้าเกษตรได้แทน
นายสัญญา หาญพัฒนกิจพานิช ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ทีมพัฒนาธุรกิจตลาดอนุพันธ์ บริษัทหลักทรัพย์ )(บล.) โกลเบล็ก จำกัด เปิดเผยว่า ปริมาณผู้เข้าลงทุนในโกลด์ฟิวเจอร์สมีการเติบโตเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เพราะทองคำ เป็นสินทรัพย์ที่คนไทยรู้จักและคุ้นเคยมานาน ทั้งนี้ เพื่อช่วยขยายการลงทุนในโกลด์ ฟิวเจอร์ส ทางบริษัทจึงมีแนวคิดที่จะเสนอต่อ ตลาดอนุพันธ์ (ประเทศไทย) หรือ TFEX ในการขอจัดตั้ง โกลด์ ออปชั่น ขึ้นเพื่อเพิ่มทางเลือกในการลงทุนด้านทองคำให้กับกับลูกค้า พร้อมกับขอเป็นมาร์เกตเมคเกอร์ใสเรื่องดังกล่าว
ทั้งนี้ บล.โกลเบล็ก มองว่าหากมีโกลด์ ออปชั่นเกิดขึ้นจริง จะเป็นแรงช่วยผลักดันสินค้าหลักอย่าง Set 50 Index Option ให้ได้รับความสนใจจากนักลงทุนเพิ่มขึ้น โดยส่วนหนึ่งจะได้ฐานลูกค้าที่ลงทุนในทองคำ และโกลด์ ฟิวเจอร์ส อยู่แล้ว ซึ่งเป็นกลุ่มนักลงทุนใหม่เข้ามาช่วยเสริม
“ที่ผ่านมาต้องยอมรับว่า แม้ตลาดอนุพันธ์เพิ่มเปิดมาได้ไม่นาน แต่ออปชั่น ยังมีผู้สนใจน้อย นักลงทุนไม่ชื่นชอบโปรดักส์ที่มีความซับซ้อน หรือยุ่งยาก ทั้งที่จริงแล้ว ออปชั่น สามารถสร้างผลตอบแทนได้ดีกว่าการลงทุนในโปรดักส์แบบฟิวเจอร์ส ซึ่งในประเทศอื่นๆ ออปชั่นจะมีวอลุ่มและขนาดที่โตกว่าฟิวเจอร์สหลายเท่า”
อย่างไรก็ตาม เพื่อให้โกดล์ ออปชั่น เดินหน้าไปได้ด้วยดี บริษัทต้องขอตลาดอนุพันธ์ในการเป็นมาร์เกตเมคเกอร์ด้านออปชั่นด้วย เพราะที่ผ่านมายังไม่มี บล.สมาชิกรายใด ทำหน้าที่ในส่วนนี้ถาวร โดยจะทำเพียงแต่เมื่อมีคำสั่งซื้อจากลูกค้าเท่านั้น
ขณะเดียวกันมองว่า ตลาดอนุพันธ์ยังสามารถขยายตัวเพิ่มขึ้นได้อีกในอนาคต โดยเปรียบเทียบจากบัญชีนักลงทุนที่ลงทุนในตลาดหุ้นไทย ซึ่งมีอยู่ประมาณ 6 แสนบัญชี ขณะที่บัญชีที่ลงทุนในตลาดอนุพันธ์ยังมีอยู่เพียงประมาณ 30,000 บัญชีเท่านั้น หรือน้อยกว่า 7%ของทั้งหมด
“ต่อไปการลงทุนในทองคำ จะมีรูปแบบหรือช่องทางมากขึ้น เช่นจะมีอีทีเอฟทองคำออกมาให้นักลงทุนเลือก มีกองทุนที่ลงทุนด้านทองคำ มีโกลด์ฟิวเจอร์ส ซึ่งหากมีโกลด์ ออปชั่น น่าจะเป็นการลงทุนที่ครบช่องทาง อีกทั้งบรรดากองทุนที่ลงทุนด้านนี้ ก็สามารถใช้ทั้งฟิวเจอร์สและออปชั่นของทองคำ ในการบริหารพอร์ตลงทุนได้ และจุดนี้น่าจะช่วยผลักดัน Set 50 index Option ได้ด้วย เพราะเมื่อลูกค้าสนใจเข้ามาลงทุนในโกลด์ ออปชั่น ก็จะเข้าจะวิธีและขั้นตอนในการลงทุนที่คล้ายกัน และอาจพัฒนาไปสู่การลงทุนในออปชั่นของหุ้นต่อไป”
แหล่งข่าวโบรกเกอร์ รายหนึ่งกล่าวว่า จากการพยายามเพิ่มสินค้าใหม่ให้แก่นักลงทุนของตลาดอนุพันธ์ เช่น Interest Rate Futures (สัญญาซื้อขายล่วงหน้าอัตราดอกเบี้ย)นั้น เรื่องดังกล่าวเชื่อว่าจะช่วยเพิ่มวอลุ่มให้ตลาดTFEX ได้ตามวัตถุประสงค์ของตลาดหลักทรัพย์ ฯ ในการเพิ่มสัดส่วนนักลงทุนสถาบันสำหรับตลาดอนุพันธ์ แต่โปรดักส์ใหม่นี้ จะไม่ค่อยได้รับความสนใจนักลงทุนรายย่อย เนื่องจากส่วนต่างในการทำกำไรของอัตราดอกเบี้ยมีโอกาสปรับตัวได้น้อย ซึ่งทำให้บริษัทหลักทรัพย์บางอาจอาจไม่เห็นประโยชน์ ดังนั้นโปรดักส์จะมีเพียงนักลงทุนต่างประเทศ และสถาบันเท่านั้นที่ให้ความสนใจ
สำหรับแนวคิดที่จะมีการเสนอออก สัญญาซื้อขายล่วงหน้าในอัตราแลกเปลี่ยน มองว่ามีความน่าสนใจแต่เร่องดังกล่าวต้องเกี่ยวข้องกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพราะมีผลกับนโยบายในการควบคุมค่าเงินของประเทศ แต่จะเป็นการช่วยป้องกันความเสี่ยงให้กับผู้ประกอบการด้านธุรกิจส่งออกได้ดี และเชื่อว่าจะได้รับความสนใจจากนักลงทุนมากกว่า
ส่วนแนวคิดการออกสัญญาล่วงหน้าราคาน้ำมันนั้น แหล่งข่าวกล่าวว่า ถือเป็นเรื่องยากและมีโอกาสเกิดขึ้นน้อยที่สุด เนื่องจากยังไม่สามารถสรุปได้ว่าโปรดักส์นี้จะต้องขึ้นเป็นสินค้าของใครระหว่าง TFEX และตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้า (AFET) เพราะถือว่าเป็นสินค้าโภคภัณฑ์
ดังนั้น ทางที่ดีที่สุดคือ ภาครัฐและตลาดหลักทรัพย์ฯควรเดินหน้าในเรื่องของการควบรวมทั้ง 2 ตลาดนี้ให้แล้วเสร็จ เพราะนอกจากจะสามารถออกโปรดักส์ที่มีความครอบคลุมมากขึ้น แล้ว ยังช่วยเพิ่มฐานผู้ลงทุนระหว่างกันได้ อีกทั้งจะช่วยให้ผู้ลงทุนมีโปรดักส์ในการลงทุนเพิ่มขึ้น เช่นเมื่อหุ้นอยู่ในช่วงภาวะผันผวน นักลงทุนก็อาจมาลงทุนในทองคำ หรือสินค้าเกษตรได้แทน
นายสัญญา หาญพัฒนกิจพานิช ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ทีมพัฒนาธุรกิจตลาดอนุพันธ์ บริษัทหลักทรัพย์ )(บล.) โกลเบล็ก จำกัด เปิดเผยว่า ปริมาณผู้เข้าลงทุนในโกลด์ฟิวเจอร์สมีการเติบโตเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เพราะทองคำ เป็นสินทรัพย์ที่คนไทยรู้จักและคุ้นเคยมานาน ทั้งนี้ เพื่อช่วยขยายการลงทุนในโกลด์ ฟิวเจอร์ส ทางบริษัทจึงมีแนวคิดที่จะเสนอต่อ ตลาดอนุพันธ์ (ประเทศไทย) หรือ TFEX ในการขอจัดตั้ง โกลด์ ออปชั่น ขึ้นเพื่อเพิ่มทางเลือกในการลงทุนด้านทองคำให้กับกับลูกค้า พร้อมกับขอเป็นมาร์เกตเมคเกอร์ใสเรื่องดังกล่าว
ทั้งนี้ บล.โกลเบล็ก มองว่าหากมีโกลด์ ออปชั่นเกิดขึ้นจริง จะเป็นแรงช่วยผลักดันสินค้าหลักอย่าง Set 50 Index Option ให้ได้รับความสนใจจากนักลงทุนเพิ่มขึ้น โดยส่วนหนึ่งจะได้ฐานลูกค้าที่ลงทุนในทองคำ และโกลด์ ฟิวเจอร์ส อยู่แล้ว ซึ่งเป็นกลุ่มนักลงทุนใหม่เข้ามาช่วยเสริม
“ที่ผ่านมาต้องยอมรับว่า แม้ตลาดอนุพันธ์เพิ่มเปิดมาได้ไม่นาน แต่ออปชั่น ยังมีผู้สนใจน้อย นักลงทุนไม่ชื่นชอบโปรดักส์ที่มีความซับซ้อน หรือยุ่งยาก ทั้งที่จริงแล้ว ออปชั่น สามารถสร้างผลตอบแทนได้ดีกว่าการลงทุนในโปรดักส์แบบฟิวเจอร์ส ซึ่งในประเทศอื่นๆ ออปชั่นจะมีวอลุ่มและขนาดที่โตกว่าฟิวเจอร์สหลายเท่า”
อย่างไรก็ตาม เพื่อให้โกดล์ ออปชั่น เดินหน้าไปได้ด้วยดี บริษัทต้องขอตลาดอนุพันธ์ในการเป็นมาร์เกตเมคเกอร์ด้านออปชั่นด้วย เพราะที่ผ่านมายังไม่มี บล.สมาชิกรายใด ทำหน้าที่ในส่วนนี้ถาวร โดยจะทำเพียงแต่เมื่อมีคำสั่งซื้อจากลูกค้าเท่านั้น
ขณะเดียวกันมองว่า ตลาดอนุพันธ์ยังสามารถขยายตัวเพิ่มขึ้นได้อีกในอนาคต โดยเปรียบเทียบจากบัญชีนักลงทุนที่ลงทุนในตลาดหุ้นไทย ซึ่งมีอยู่ประมาณ 6 แสนบัญชี ขณะที่บัญชีที่ลงทุนในตลาดอนุพันธ์ยังมีอยู่เพียงประมาณ 30,000 บัญชีเท่านั้น หรือน้อยกว่า 7%ของทั้งหมด
“ต่อไปการลงทุนในทองคำ จะมีรูปแบบหรือช่องทางมากขึ้น เช่นจะมีอีทีเอฟทองคำออกมาให้นักลงทุนเลือก มีกองทุนที่ลงทุนด้านทองคำ มีโกลด์ฟิวเจอร์ส ซึ่งหากมีโกลด์ ออปชั่น น่าจะเป็นการลงทุนที่ครบช่องทาง อีกทั้งบรรดากองทุนที่ลงทุนด้านนี้ ก็สามารถใช้ทั้งฟิวเจอร์สและออปชั่นของทองคำ ในการบริหารพอร์ตลงทุนได้ และจุดนี้น่าจะช่วยผลักดัน Set 50 index Option ได้ด้วย เพราะเมื่อลูกค้าสนใจเข้ามาลงทุนในโกลด์ ออปชั่น ก็จะเข้าจะวิธีและขั้นตอนในการลงทุนที่คล้ายกัน และอาจพัฒนาไปสู่การลงทุนในออปชั่นของหุ้นต่อไป”