เรียลตี้เวิลด์ ชี้ ไตรมาสแรกปี 53 ตลาดแข่งดุ ผู้ประกอบการแห่ออกแคมเปญกระตุ้นการขายระบายสต๊อกก่อนหมดมาตรการภาษี เชื่อยอดขายไตรมาสแรกปีหน้าสูงกว่าปลายปีนี้ หลังผู้บริโภคเร่งซื้อ-โอนก่อนสิ้น มี.ค. เพื่อรับประโยชน์จากมาตรการ
นายวิศิษฐ์ คุณาทรกุล ประธานและกรรมการผู้จัดการบริษัท เรียลตี้ เวิลด์ อัลไลแอนซ์ จำกัด กล่าวว่า การปรับตัวของเศรษฐกิจในทิศทางที่ดีขึ้น ส่งผลให้ในช่วงไตรมาส 3 เป็นต้นมา ตลาดอสังหาฯเริ่มมีการฟื้นตัวอย่างชัดเจน โดยเฉพาะตลาดบ้านใหม่ ซึ่งมีอัตราการฟื้นตัวที่ดีมาก เนื่องจากได้รับปัจจัยบวกจากมาตรภาษีจากภาครัฐ อัตราดอกเบี้ยที่ยังอยู่ในระดับต่ำ สภาพคล่องในระบบที่มีอยู่จำนวนมากทำให้สถาบันการเงินแข่งขันปล่อยสินเชื่อในภาคธุรกิจมากขึ้น
ทั้งนี้ การเน้นปล่อยสินเชื่อในกลุ่มธุรกิจอสังหาฯของสถาบันการเงิน เนื่องจากเป็นสินเชื่อที่มีความเสี่ยงต่ำเมื่อเทียบกับสินเชื่อประเภทอื่นๆ ส่งผลให้การฟื้นตัวของภาคอสังหาฯเป็นไปในทิศทางที่ดี ทำให้บ้านใหม่ได้ รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากกลุ่มผู้บริโภค โดยตลาดที่มีอัตราการขยายตัวสูงสุดของปีนี้ ยังคงเป็นคอนโดมิเนียม และทาวน์เฮาส์
โดยในปีนี้คาดว่ายอดขายรวมของที่อยู่อาศัยประเภทคอนโดฯจะมีจำนวนสูงถึง 140,000 หน่วย แบ่งเป็นคอนโดฯใหม่ 70,000 หน่วย และเป็นคอนโดฯมือสอง 70,000 หน่วย อย่างไรก็ตามเชื่อว่าในปีหน้าตลาดคอนโดฯจะยังขยายตัวต่อเนื่อง แต่คอนโดฯที่เกิดใหม่จะมีราคาขยับสูงขึ้นจากปีนี้ สังเกตได้จากในปีที่ผ่านมาโครงการคอนโดฯที่เกิดขึ้นใหม่ มีราคาขายที่สูงขึ้นกว่าโครงการที่มีการเปิดตัวไปก่อนหน้า
“ในปีนี้โครงการคอนโดฯที่เกิดใหม่ ไม่มีโครงการไหนที่มีราคาขายเริ่มต้นที่ 500,000 บาท แต่ส่วนใหญ่โครงการที่เกิดใหม่จะมีราคาว่า 700,000 บาท สะท้อนให้เห็นได้ชัดเจนว่าโครงการที่พัฒนาใหม่มีราคาขายที่ขยับตัวสูงขึ้น”
นายวิศิษฐ์ กล่าวว่า สำหรับแนวโน้มตลาดในปี53 คาดว่าจะขยายตัวสูงกว่าในช่วงต้นปีและปลายปี52 นอกจากนี้ อัตราการแข่งขันก็จะทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในช่วงไตรมาสแรก ซึ่งเป็นช่วงที่ผู้ประกอบการจะเร่งระบายสินค้าออกให้มากที่สุด เพื่อให้ทันต่อการมอบโอนก่อนหมดสิ้นเดือน มี.ค. 53 ซึ่งมาตรการด้านภาษีจะหมดอายุลง
ทั้งนี้ มั่นใจว่าในช่วงต้นปีหน้ายอดขายที่อยู่อาศัยจะปรับตัวสูงกว่าช่วงปลายปี52 เพราะการสนับสนุนของภาครัฐ ทั้งในด้านภาษีที่จะหมดอายุลง และการสนับสนุนให้สถาบันการเงินปล่อยกู้ในภาคธุรกิจของรัฐบาล นอกจากนี้ ยังเป็นช่วงเริ่มต้นการกระจายเม็ดเงินเข้าสู้โครงการก่อสร้างต่างๆ ในโครงการไทยเข้มแข็งด้วย ซึ่งปัจจัยดังกล่าวจะช่วยสร้างให้เกิดความเชื่อมั่น ทั้งในกลุ่มนักลงทุนในประเทศต่างประเทศ และผู้บริโภค
“ขณะนี้ ยังไม่ชัดเจนเรื่องการต่อมาตรการภาษีภาคอสังหาฯ ซึ่งผู้ประกอบการคาดว่ามาตรการจะไม่ได้รับการต่ออายุ ทำให้ภาคอสังหาฯจะมีการอัดแคมเปญกระตุ้นการขายอย่างพร้อมเพียงกัน และดุเดือดกว่าในปีนี้ นอกจากนี้ ในส่วนของผู้บริโภคเองก็จะเร่งตัดสินใจซื้อและโอนให้ได้ก่อนสิ้นเดือน มี.ค.53 จะมีผลดีต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ และการขยายตัวของจีดีพี ซึ่งจะส่งผลต่ออัตราการขยายตัวโดยรวมของจีดีพีในปี 53 ด้วย”
นายวิศิษฐ์ คุณาทรกุล ประธานและกรรมการผู้จัดการบริษัท เรียลตี้ เวิลด์ อัลไลแอนซ์ จำกัด กล่าวว่า การปรับตัวของเศรษฐกิจในทิศทางที่ดีขึ้น ส่งผลให้ในช่วงไตรมาส 3 เป็นต้นมา ตลาดอสังหาฯเริ่มมีการฟื้นตัวอย่างชัดเจน โดยเฉพาะตลาดบ้านใหม่ ซึ่งมีอัตราการฟื้นตัวที่ดีมาก เนื่องจากได้รับปัจจัยบวกจากมาตรภาษีจากภาครัฐ อัตราดอกเบี้ยที่ยังอยู่ในระดับต่ำ สภาพคล่องในระบบที่มีอยู่จำนวนมากทำให้สถาบันการเงินแข่งขันปล่อยสินเชื่อในภาคธุรกิจมากขึ้น
ทั้งนี้ การเน้นปล่อยสินเชื่อในกลุ่มธุรกิจอสังหาฯของสถาบันการเงิน เนื่องจากเป็นสินเชื่อที่มีความเสี่ยงต่ำเมื่อเทียบกับสินเชื่อประเภทอื่นๆ ส่งผลให้การฟื้นตัวของภาคอสังหาฯเป็นไปในทิศทางที่ดี ทำให้บ้านใหม่ได้ รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากกลุ่มผู้บริโภค โดยตลาดที่มีอัตราการขยายตัวสูงสุดของปีนี้ ยังคงเป็นคอนโดมิเนียม และทาวน์เฮาส์
โดยในปีนี้คาดว่ายอดขายรวมของที่อยู่อาศัยประเภทคอนโดฯจะมีจำนวนสูงถึง 140,000 หน่วย แบ่งเป็นคอนโดฯใหม่ 70,000 หน่วย และเป็นคอนโดฯมือสอง 70,000 หน่วย อย่างไรก็ตามเชื่อว่าในปีหน้าตลาดคอนโดฯจะยังขยายตัวต่อเนื่อง แต่คอนโดฯที่เกิดใหม่จะมีราคาขยับสูงขึ้นจากปีนี้ สังเกตได้จากในปีที่ผ่านมาโครงการคอนโดฯที่เกิดขึ้นใหม่ มีราคาขายที่สูงขึ้นกว่าโครงการที่มีการเปิดตัวไปก่อนหน้า
“ในปีนี้โครงการคอนโดฯที่เกิดใหม่ ไม่มีโครงการไหนที่มีราคาขายเริ่มต้นที่ 500,000 บาท แต่ส่วนใหญ่โครงการที่เกิดใหม่จะมีราคาว่า 700,000 บาท สะท้อนให้เห็นได้ชัดเจนว่าโครงการที่พัฒนาใหม่มีราคาขายที่ขยับตัวสูงขึ้น”
นายวิศิษฐ์ กล่าวว่า สำหรับแนวโน้มตลาดในปี53 คาดว่าจะขยายตัวสูงกว่าในช่วงต้นปีและปลายปี52 นอกจากนี้ อัตราการแข่งขันก็จะทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในช่วงไตรมาสแรก ซึ่งเป็นช่วงที่ผู้ประกอบการจะเร่งระบายสินค้าออกให้มากที่สุด เพื่อให้ทันต่อการมอบโอนก่อนหมดสิ้นเดือน มี.ค. 53 ซึ่งมาตรการด้านภาษีจะหมดอายุลง
ทั้งนี้ มั่นใจว่าในช่วงต้นปีหน้ายอดขายที่อยู่อาศัยจะปรับตัวสูงกว่าช่วงปลายปี52 เพราะการสนับสนุนของภาครัฐ ทั้งในด้านภาษีที่จะหมดอายุลง และการสนับสนุนให้สถาบันการเงินปล่อยกู้ในภาคธุรกิจของรัฐบาล นอกจากนี้ ยังเป็นช่วงเริ่มต้นการกระจายเม็ดเงินเข้าสู้โครงการก่อสร้างต่างๆ ในโครงการไทยเข้มแข็งด้วย ซึ่งปัจจัยดังกล่าวจะช่วยสร้างให้เกิดความเชื่อมั่น ทั้งในกลุ่มนักลงทุนในประเทศต่างประเทศ และผู้บริโภค
“ขณะนี้ ยังไม่ชัดเจนเรื่องการต่อมาตรการภาษีภาคอสังหาฯ ซึ่งผู้ประกอบการคาดว่ามาตรการจะไม่ได้รับการต่ออายุ ทำให้ภาคอสังหาฯจะมีการอัดแคมเปญกระตุ้นการขายอย่างพร้อมเพียงกัน และดุเดือดกว่าในปีนี้ นอกจากนี้ ในส่วนของผู้บริโภคเองก็จะเร่งตัดสินใจซื้อและโอนให้ได้ก่อนสิ้นเดือน มี.ค.53 จะมีผลดีต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ และการขยายตัวของจีดีพี ซึ่งจะส่งผลต่ออัตราการขยายตัวโดยรวมของจีดีพีในปี 53 ด้วย”