“ธรรมะ แลนด์” ฉีกรูปแบบตลาอสังหาฯ สร้างหมู่บ้านเพื่อนักปฏิบัติธรรม รายแรกของเมืองไทย ตั้งเป้ากระจายครอบคลุมทั่วทุกภาคของไทย ประเดิมโครงการแรก “ไวท์ วิลเลจ” ติดเขาใหญ่ บ้านเดี่ยวราคา 2-10 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 500 ล้านบาท
นายนพเก้า ไชยะบุรินทร์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ธรรมะ แลนด์ จำกัด (หลานชาย ดร.สิริ กรินชัย ผู้ริเริ่มสูตรวิปัสนากรรมฐาน 8 วัน 7 คืน) เปิดเผยว่า จากการได้ใกล้ชิดและปฏิบัติธรรมมาตั้งแต่เด็กๆ จนกระทั้งสามารถเป็นวิทยากรบรรยายธรรมได้ตั้งแต่ 19 ปี และล่าสุดได้รับอุปนายกยุวพุทธิกสมาคมแห่งประเทศไทย เป็นสมัยที่ 2 ปัจจุบันมีสมาชิกกว่า 10 ล้านคน จึงมีแนวความคิดที่จะสร้างเมืองแห่งธรรมะ โดยร่วมกับกลุ่มเพื่อนอีก 3 คน ได้แก่ นางรุ่งนภา วงศ์ศรีสุชน เปิดบริษัท ธรรมะ แลนด์ขึ้น
สำหรับโครงการที่บริษัทพัฒนานั้น จะมีรูปแบบเป็นหมู่บ้านธรรมะ ซึ่งส่วนประกอบสำคัญคือต้องมี ศูนย์วิปัสนากรรมฐาน นอกจากนี้ภายในบ้านทุกหลังจะต้องมีห้องปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน และยังรณรงค์ให้บ้านทุกหลังรักษ์ธรรมชาติ รักษาสิ่งแวดล้อม ซึ่งมีเป้าหมายที่จะสร้างให้ครบทุกภาคของเมืองไทย
โดยเริ่มจากเขาใหญ่ภายใต้ชื่อ “ไวท์ วิลเลจ” ตั้งอยู่บนพื้นที่ 450 ไร่ ต.โป่งตาลอง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ติดเขาใหญ่ พัฒนาเป็นบ้านเดี่ยวจำนวน 99 แปลง มีบ้านให้เลือก 5 แบบ ขนาดตั้งแต่ 100 ตร.ม.ขึ้นไป ราคาตั้งแต่ 2-10 ล้านบาท สำหรับที่ดินของบ้านเริ่มตั้งแต่ 1-15 ไร่ แล้วแต่ลูกค้าจะเลือก โดยมีราคาไร่ละ 8 แสนบาท
ทั้งนี้โครงการดังกล่าวถือเอกสารสิทธิ์ ภ.บ.ท.5 หรือใบเสร็จรับเงินจากการเสียภาษีบำรุงท้องที่ ซึ่งลูกค้าสามารถเปลี่ยนเป็นโฉนดได้หลังโอนกรรมสิทธิ์ ซึ่งลูกค้าที่ซื้อบ้านภายในโครงการจะแยกสัญญาออกเป็นสองส่วนคือที่ดินและบ้าน หลังจากซื้อที่ดินแล้วมีกำหนดให้ปลูกบ้านภายใน 1 ปี ค่าส่วนกลาง 8 บาท/ตร.วา
นอกจากนี้ โครงการไวท์ วิลเลจ ยังได้กันพื้นที่กว่า 100 ไร่เพื่อพัฒนาเป็นพื้นที่ส่วนกลาง ห้องสมุดธรรมะ นอกจากนี้บริษัทยังนำกำไรที่ได้จากการขายบ้านจำนวน 50 ล้านบาทมาสร้างศูนย์ปฏิบัติธรรมบนพื้นที่ 10 ไร่ ซึ่งสามารถรองรับนักปฏิบัติธรรมได้ 200-300 ราย รวมถึงการสร้างหอพระธาตุที่ตั้งอยู่บนยอดเขาสูงมูลค่า 15 ล้านบาท ซึ่งส่วนนี้คาดว่าจะเป็นการขอรับบริจาคจากญาติธรรมเพิ่มเติม
อย่างไรก็ตาม ในเฟสสุดท้ายหรือประมาณกลางปี 2554 จะสร้างโรงแรมขนาด 40 ห้องเพื่อรองรับผู้มาปฏิบัติธรรม ภายใต้คอนเซ็ปต์เฮลตี้ บูติค โฮเต็ลศูนย์ดูแลสุขภาพ โดยอาจจะมีหลักสูตรสอนดูแลสุขภาพให้แก่ผู้มาใช้บริการ ปัจจุบันโครงการดังกล่าวมียอดจองแล้ว 10 กว่ายูนิต คาดว่าภายหลังจากสร้างถนนและระบบสาธารณูปโภคภายในโครงการแล้วเสร็จภายใน 6 เดือนจะมียอดขายเพิ่มขึ้นมาก เพราะลูกค้าสามารถเข้าชมโครงการได้สะดวกขึ้น ส่วนห้องตัวอย่างคาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนก.พ.53 และคาดว่าจะสามารถปิดการขายได้ภายในปี 53
นายนพเก้ากล่าวต่อว่า ทางบริษัทมีแผนที่จะพัฒนาโครงการที่ 2 ในภาคใต้ คือ ภูเก็ตและหัวหิน คาดว่าจะเริ่มที่หัวหินก่อน ปัจจุบันมีที่ดินประมาณ 200 ไร่ โดยจะใช้รูปแบบการพัฒนาเดียวกับโครงการไวท์ วิลเลจ
นายนพเก้า ไชยะบุรินทร์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ธรรมะ แลนด์ จำกัด (หลานชาย ดร.สิริ กรินชัย ผู้ริเริ่มสูตรวิปัสนากรรมฐาน 8 วัน 7 คืน) เปิดเผยว่า จากการได้ใกล้ชิดและปฏิบัติธรรมมาตั้งแต่เด็กๆ จนกระทั้งสามารถเป็นวิทยากรบรรยายธรรมได้ตั้งแต่ 19 ปี และล่าสุดได้รับอุปนายกยุวพุทธิกสมาคมแห่งประเทศไทย เป็นสมัยที่ 2 ปัจจุบันมีสมาชิกกว่า 10 ล้านคน จึงมีแนวความคิดที่จะสร้างเมืองแห่งธรรมะ โดยร่วมกับกลุ่มเพื่อนอีก 3 คน ได้แก่ นางรุ่งนภา วงศ์ศรีสุชน เปิดบริษัท ธรรมะ แลนด์ขึ้น
สำหรับโครงการที่บริษัทพัฒนานั้น จะมีรูปแบบเป็นหมู่บ้านธรรมะ ซึ่งส่วนประกอบสำคัญคือต้องมี ศูนย์วิปัสนากรรมฐาน นอกจากนี้ภายในบ้านทุกหลังจะต้องมีห้องปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน และยังรณรงค์ให้บ้านทุกหลังรักษ์ธรรมชาติ รักษาสิ่งแวดล้อม ซึ่งมีเป้าหมายที่จะสร้างให้ครบทุกภาคของเมืองไทย
โดยเริ่มจากเขาใหญ่ภายใต้ชื่อ “ไวท์ วิลเลจ” ตั้งอยู่บนพื้นที่ 450 ไร่ ต.โป่งตาลอง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ติดเขาใหญ่ พัฒนาเป็นบ้านเดี่ยวจำนวน 99 แปลง มีบ้านให้เลือก 5 แบบ ขนาดตั้งแต่ 100 ตร.ม.ขึ้นไป ราคาตั้งแต่ 2-10 ล้านบาท สำหรับที่ดินของบ้านเริ่มตั้งแต่ 1-15 ไร่ แล้วแต่ลูกค้าจะเลือก โดยมีราคาไร่ละ 8 แสนบาท
ทั้งนี้โครงการดังกล่าวถือเอกสารสิทธิ์ ภ.บ.ท.5 หรือใบเสร็จรับเงินจากการเสียภาษีบำรุงท้องที่ ซึ่งลูกค้าสามารถเปลี่ยนเป็นโฉนดได้หลังโอนกรรมสิทธิ์ ซึ่งลูกค้าที่ซื้อบ้านภายในโครงการจะแยกสัญญาออกเป็นสองส่วนคือที่ดินและบ้าน หลังจากซื้อที่ดินแล้วมีกำหนดให้ปลูกบ้านภายใน 1 ปี ค่าส่วนกลาง 8 บาท/ตร.วา
นอกจากนี้ โครงการไวท์ วิลเลจ ยังได้กันพื้นที่กว่า 100 ไร่เพื่อพัฒนาเป็นพื้นที่ส่วนกลาง ห้องสมุดธรรมะ นอกจากนี้บริษัทยังนำกำไรที่ได้จากการขายบ้านจำนวน 50 ล้านบาทมาสร้างศูนย์ปฏิบัติธรรมบนพื้นที่ 10 ไร่ ซึ่งสามารถรองรับนักปฏิบัติธรรมได้ 200-300 ราย รวมถึงการสร้างหอพระธาตุที่ตั้งอยู่บนยอดเขาสูงมูลค่า 15 ล้านบาท ซึ่งส่วนนี้คาดว่าจะเป็นการขอรับบริจาคจากญาติธรรมเพิ่มเติม
อย่างไรก็ตาม ในเฟสสุดท้ายหรือประมาณกลางปี 2554 จะสร้างโรงแรมขนาด 40 ห้องเพื่อรองรับผู้มาปฏิบัติธรรม ภายใต้คอนเซ็ปต์เฮลตี้ บูติค โฮเต็ลศูนย์ดูแลสุขภาพ โดยอาจจะมีหลักสูตรสอนดูแลสุขภาพให้แก่ผู้มาใช้บริการ ปัจจุบันโครงการดังกล่าวมียอดจองแล้ว 10 กว่ายูนิต คาดว่าภายหลังจากสร้างถนนและระบบสาธารณูปโภคภายในโครงการแล้วเสร็จภายใน 6 เดือนจะมียอดขายเพิ่มขึ้นมาก เพราะลูกค้าสามารถเข้าชมโครงการได้สะดวกขึ้น ส่วนห้องตัวอย่างคาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนก.พ.53 และคาดว่าจะสามารถปิดการขายได้ภายในปี 53
นายนพเก้ากล่าวต่อว่า ทางบริษัทมีแผนที่จะพัฒนาโครงการที่ 2 ในภาคใต้ คือ ภูเก็ตและหัวหิน คาดว่าจะเริ่มที่หัวหินก่อน ปัจจุบันมีที่ดินประมาณ 200 ไร่ โดยจะใช้รูปแบบการพัฒนาเดียวกับโครงการไวท์ วิลเลจ
