“หมอแจ๊ค” ส่งทนายมอบกระเช้าดอกไม้เยี่ยมเลขาฯ สาว แต่ถูกปฏิเสธเพราะยังหวาดกลัวโดนถูกทำร้ายซ้ำ พ่อ-แม่ นั่งรับหน้าแทน ด้านพ่อเลขาฯ สาวยังทำใจไม่ได้กับเหตุความรุนแรงเมินมองหน้าทนายตระกูลสุขารมณ์ที่พร่ำพรรณาเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น ขอรับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลแต่ถูกบอกปัดจากอีกฝ่ายสิ้นเชิง ด้านคนก่อเหตุหลบปลีกวิเวกนุ่งขาวห่มขาวนั่งวิปัสสนาทำจิตให้สงบรอวันไปพบตำรวจ
จากกรณี น.ส.อัญชลิตา เรืองโรจน์ เลขานุการสาว ถูก นพ.พรเดชา หรือแจ๊ค สุขารมณ์ ลูกชาย นพ.เดชา สุขารมณ์ และเป็นอดีตนักร้องชื่อดัง ทารุณทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส พร้อมบังคับให้รับสารภาพว่าโกงเงินคลินิก “เอ็นวี่” ของตัวเองไป ก่อนถูกนำตัวไปกักขังหน่วงเหนี่ยวเอาไว้ในโรงพยาบาลเดชา แต่ภายหลังเจ้าตัวหลบหนีออกมาได้ ก่อนเข้าแจ้งความที่ สน.ลุมพินี และเข้าร้องเรียน นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี โดยตำรวจได้ออกหมายเรียกให้ นพ.พรเดชา เข้ามารับทราบข้อหาเมื่อวานนี้ (12 พ.ย.) แต่ทนายความได้เข้าแจ้งต่อตำรวจว่าจะขอเข้ารับทราบข้อหาในวันที่ 18 พ.ย.นี้ ตามหมายเรียกอีกฉบับนั้น
วันนี้ (13 พ.ย.) เมื่อเวลา 13.00 น. นายสุรพล สินธุนาวา ทนายความของ นพ.พรเดชา หรือ แจ๊ค สุขารมณ์ นำกระเช้าดอกไม้เยี่ยม น.ส.อัญชลิตา เรืองโรจน์ คู่กรณีที่รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลยันฮี แต่เนื่องจากสภาพจิตใจของ น.ส.อัญชลิตา ยังไม่พร้อม เพราะยังมีอาการหวาดระแวงอยู่ ทางโรงพยาบาลจึงจัดห้อง 1843 ชั้น 8 ให้นายสังกรณ์ เรืองโรจน์ อายุ 56 ปี กับ นางนิภาลัย เรืองโรจน์ อายุ 51 ปี พ่อและแม่ของ น.ส.อัญชลิตา เป็นผู้รับแทน
นายสุรพลกล่าวกับนายสังกรณ์ และนางนิภาลัยว่า ตนนำกระเช้าดอกไม้มาขอเข้าเยี่ยม น.ส.อัญชลิตา ในฐานะตัวแทนของครอบครัวสุขารมณ์ และมาด้วยความจริงใจ ต้องการจะแก้ไขสถานการณ์ให้ดีขึ้น ซึ่งตอนนี้ นพ.เดชา สุขารมณ์ กับ นพ.พรเดชา รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และจะขอรับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลทั้งหมดของ น.ส.อัญชลิตา เอง
“ตอนนี้หมอแจ๊ครู้สึกเสียใจ และไปอยู่วัดนุ่งขาวห่มขาว นั่งวิปัสนา นั่งสมาธิ กำลังทำจิตใจให้สงบ เพื่อจะไปรายงานตัวกับตำรวจในวันที่ 18 พ.ย.นี้” นายสุรพลกล่าว
จากนั้น นายสุรพลได้ขอเข้าพบ น.ส.อัญชลิตา แต่นางนิภาลัยได้ปฏิเสธ พร้อมกล่าวว่าขอบใจที่มาเยี่ยม แต่คงให้เข้าพบไม่ได้ เพราะตอนนี้ลูกสาวยังสุขภาพไม่ดี มีอาการกลัวจนใจสั่นอยู่ พอรู้ว่าฝ่าย นพ.พรเดชาจะมาเยี่ยมก็ถามตนว่า จะมาทำร้ายอะไร นำกระเช้าดอกไม้มาขอเข้าเยี่ยมอะไรอีกหรือไม่ ตอนนี้จึงไม่สามารถให้เข้าพบได้ และไม่ต้องมารับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลด้วย เนื่องจากทางโรงพยาบาล และมูลนิธิปวีณาฯ ได้รับผิดชอบส่วนนี้แล้ว ส่วนเรื่องคดีความนั้นปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม และจะไม่ขอเจรจาหรือฝากอะไรไปยัง นพ.พรเดชา ด้วย
จากนั้นนายสุรพลได้นำหมายเรียกฉบับที่ส่งไปตามภูมิลำเนา และเรียก นพ.พรเดชา มารับทราบข้อกล่าวหาในวันที่ 18 พ.ย.เวลา 12.00 น.มาให้ผู้สื่อข่าวดู พร้อมกล่าวยืนยันว่า ได้รับหมายเรียกฉบับนี้เพียงฉบับเดียว เมื่อวานนี้ (12 พ.ย.) จึงต้องเดินทางไป สน.ลุมพินี เพื่อยืนยันกับตำรวจว่าไม่ได้รับหมายเรียกฉบับที่ให้มาพบพนักงานสอบสวนในวันที่ 12 พ.ย.แต่อย่างใด และยืนยันว่า นพ.พรเดชา จะเดินทางไปพบพนักงานสอบสวนในวันที่ 18 พ.ย.นี้แน่นอน แต่เรื่องเวลานั้นอาจจะต้องดูอีกครั้งหนึ่งว่าจะไปก่อนเวลานัดหรือไม่
นายสุรพลกล่าวด้วยว่า เรื่องที่ทางพ่อแม่ยังไม่อนุญาตให้พบ น.ส.อัญชลิตา นั้นคงต้องปล่อยไปสักระยะ ให้สภาพร่างกายและจิตใจดีขึ้นเสียก่อน ซึ่งหลังจากนั้นอาจจะเปิดโอกาสให้อีกฝ่ายเข้าเยี่ยมเพื่อขอเจรจา อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ขอให้ นพ.พรเดชา อยู่ที่วัดเพื่อให้สภาพจิตใจดีขึ้นเสียก่อน ซึ่งตนคงไม่ขอบอกได้ว่าอยู่วัดไหน โดยหลังจาก นพ.พรเดชา เข้าพบพนักงานสอบสวน เพื่อรับทราบข้อหาแล้วจะให้ นพ.พรเดชา เป็นผู้แถลงเรื่องทั้งหมดเอง
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ตลอดเวลาที่นายสุรพลชี้แจงกับนางนิภาลัยนั้น นางนิภาลัยต้องนั่งจับมือนายสังกรณ์ที่ไม่ยอมมองหน้านายสุรพลแม้แต่นิดเดียว ส่วนอาการบาดเจ็บของ น.ส.อัญชลิตานั้น แพทย์ระบุไว้ในรายงานว่าอาการดีขึ้น สีหน้าสดชื่นขึ้น อาการบวมบริเวณใบหน้า ตามตัวยุบลงจากเดิม ไม่มีอาการปวดหรือเวียนศีรษะ ผลความเข้มข้นของเลือดหลังให้เลือดแล้วดีขึ้น รับประทานอาหารได้ ไม่มีคลื่นไส้ อาเจียนหรือมีไข้
จากกรณี น.ส.อัญชลิตา เรืองโรจน์ เลขานุการสาว ถูก นพ.พรเดชา หรือแจ๊ค สุขารมณ์ ลูกชาย นพ.เดชา สุขารมณ์ และเป็นอดีตนักร้องชื่อดัง ทารุณทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส พร้อมบังคับให้รับสารภาพว่าโกงเงินคลินิก “เอ็นวี่” ของตัวเองไป ก่อนถูกนำตัวไปกักขังหน่วงเหนี่ยวเอาไว้ในโรงพยาบาลเดชา แต่ภายหลังเจ้าตัวหลบหนีออกมาได้ ก่อนเข้าแจ้งความที่ สน.ลุมพินี และเข้าร้องเรียน นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี โดยตำรวจได้ออกหมายเรียกให้ นพ.พรเดชา เข้ามารับทราบข้อหาเมื่อวานนี้ (12 พ.ย.) แต่ทนายความได้เข้าแจ้งต่อตำรวจว่าจะขอเข้ารับทราบข้อหาในวันที่ 18 พ.ย.นี้ ตามหมายเรียกอีกฉบับนั้น
วันนี้ (13 พ.ย.) เมื่อเวลา 13.00 น. นายสุรพล สินธุนาวา ทนายความของ นพ.พรเดชา หรือ แจ๊ค สุขารมณ์ นำกระเช้าดอกไม้เยี่ยม น.ส.อัญชลิตา เรืองโรจน์ คู่กรณีที่รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลยันฮี แต่เนื่องจากสภาพจิตใจของ น.ส.อัญชลิตา ยังไม่พร้อม เพราะยังมีอาการหวาดระแวงอยู่ ทางโรงพยาบาลจึงจัดห้อง 1843 ชั้น 8 ให้นายสังกรณ์ เรืองโรจน์ อายุ 56 ปี กับ นางนิภาลัย เรืองโรจน์ อายุ 51 ปี พ่อและแม่ของ น.ส.อัญชลิตา เป็นผู้รับแทน
นายสุรพลกล่าวกับนายสังกรณ์ และนางนิภาลัยว่า ตนนำกระเช้าดอกไม้มาขอเข้าเยี่ยม น.ส.อัญชลิตา ในฐานะตัวแทนของครอบครัวสุขารมณ์ และมาด้วยความจริงใจ ต้องการจะแก้ไขสถานการณ์ให้ดีขึ้น ซึ่งตอนนี้ นพ.เดชา สุขารมณ์ กับ นพ.พรเดชา รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และจะขอรับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลทั้งหมดของ น.ส.อัญชลิตา เอง
“ตอนนี้หมอแจ๊ครู้สึกเสียใจ และไปอยู่วัดนุ่งขาวห่มขาว นั่งวิปัสนา นั่งสมาธิ กำลังทำจิตใจให้สงบ เพื่อจะไปรายงานตัวกับตำรวจในวันที่ 18 พ.ย.นี้” นายสุรพลกล่าว
จากนั้น นายสุรพลได้ขอเข้าพบ น.ส.อัญชลิตา แต่นางนิภาลัยได้ปฏิเสธ พร้อมกล่าวว่าขอบใจที่มาเยี่ยม แต่คงให้เข้าพบไม่ได้ เพราะตอนนี้ลูกสาวยังสุขภาพไม่ดี มีอาการกลัวจนใจสั่นอยู่ พอรู้ว่าฝ่าย นพ.พรเดชาจะมาเยี่ยมก็ถามตนว่า จะมาทำร้ายอะไร นำกระเช้าดอกไม้มาขอเข้าเยี่ยมอะไรอีกหรือไม่ ตอนนี้จึงไม่สามารถให้เข้าพบได้ และไม่ต้องมารับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลด้วย เนื่องจากทางโรงพยาบาล และมูลนิธิปวีณาฯ ได้รับผิดชอบส่วนนี้แล้ว ส่วนเรื่องคดีความนั้นปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม และจะไม่ขอเจรจาหรือฝากอะไรไปยัง นพ.พรเดชา ด้วย
จากนั้นนายสุรพลได้นำหมายเรียกฉบับที่ส่งไปตามภูมิลำเนา และเรียก นพ.พรเดชา มารับทราบข้อกล่าวหาในวันที่ 18 พ.ย.เวลา 12.00 น.มาให้ผู้สื่อข่าวดู พร้อมกล่าวยืนยันว่า ได้รับหมายเรียกฉบับนี้เพียงฉบับเดียว เมื่อวานนี้ (12 พ.ย.) จึงต้องเดินทางไป สน.ลุมพินี เพื่อยืนยันกับตำรวจว่าไม่ได้รับหมายเรียกฉบับที่ให้มาพบพนักงานสอบสวนในวันที่ 12 พ.ย.แต่อย่างใด และยืนยันว่า นพ.พรเดชา จะเดินทางไปพบพนักงานสอบสวนในวันที่ 18 พ.ย.นี้แน่นอน แต่เรื่องเวลานั้นอาจจะต้องดูอีกครั้งหนึ่งว่าจะไปก่อนเวลานัดหรือไม่
นายสุรพลกล่าวด้วยว่า เรื่องที่ทางพ่อแม่ยังไม่อนุญาตให้พบ น.ส.อัญชลิตา นั้นคงต้องปล่อยไปสักระยะ ให้สภาพร่างกายและจิตใจดีขึ้นเสียก่อน ซึ่งหลังจากนั้นอาจจะเปิดโอกาสให้อีกฝ่ายเข้าเยี่ยมเพื่อขอเจรจา อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ขอให้ นพ.พรเดชา อยู่ที่วัดเพื่อให้สภาพจิตใจดีขึ้นเสียก่อน ซึ่งตนคงไม่ขอบอกได้ว่าอยู่วัดไหน โดยหลังจาก นพ.พรเดชา เข้าพบพนักงานสอบสวน เพื่อรับทราบข้อหาแล้วจะให้ นพ.พรเดชา เป็นผู้แถลงเรื่องทั้งหมดเอง
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ตลอดเวลาที่นายสุรพลชี้แจงกับนางนิภาลัยนั้น นางนิภาลัยต้องนั่งจับมือนายสังกรณ์ที่ไม่ยอมมองหน้านายสุรพลแม้แต่นิดเดียว ส่วนอาการบาดเจ็บของ น.ส.อัญชลิตานั้น แพทย์ระบุไว้ในรายงานว่าอาการดีขึ้น สีหน้าสดชื่นขึ้น อาการบวมบริเวณใบหน้า ตามตัวยุบลงจากเดิม ไม่มีอาการปวดหรือเวียนศีรษะ ผลความเข้มข้นของเลือดหลังให้เลือดแล้วดีขึ้น รับประทานอาหารได้ ไม่มีคลื่นไส้ อาเจียนหรือมีไข้