พาณิชย์ ดึงตำรวจภาค 1 แจงคดีแขกขาวฉกเพชร 100 ล้าน ในงานบางกอกเจมส์ จับกุมคนร้ายและยึดของกลางบางส่วนได้แล้ว ยังไม่มีประวัติศาสตร์ซ้ำรอยแน่ เพราะครั้งต่อไป ต้องมีมาตรการที่รัดกุมขึ้น พร้อมระบุ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่นอกอาคาร ถือว่าเป็นความประมาทของผู้เสียหาย ขาดความระมัดระวังทรัพย์สินของตนเอง ทั้ง 2 กรณีจึงไม่ได้อยู่ในความรับผิดชอบของผู้จัดงาน
กรมส่งเสริมการส่งออก สมาคมผู้ค้าอัญมณีไทยและเครื่องประดับ และกองบัญชาการตำรวจภูธร ภาค 1 ร่วมเปิดแถลงข่าว กรณีมีกลุ่มคนร้ายข้ามชาติโจรกรรมเครื่องประดับเพชรและอัญมณีในงานบางกอกเจมส์ แอนด์ จิวเวลรี่แฟร์ 2009 รวมของกลางกว่า 65 ล้านบาท โดยระบุว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 1 ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรปากเกร็ด ดำเนินการจับกุมผู้ก่อการร้ายข้ามชาติที่โจรกรรมได้แล้วบางคน สำหรับรายแรกสามารถจับกุมได้ 3 คน มูลค่า 50 ล้านบาท ขณะนี้ได้รับคืนมาบ้างแล้ว ส่วนรายที่ 2 อยู่ระหว่างจับกุมมีมูลค่าสูญหายประมาณ 15 ล้านบาท
พล.ต.ต.ปิยะ สอนตระกูล รองผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 1 กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจขอยืนยันว่า ตลอดการจัดงานไม่มีสินค้าใดสูญหาย มีระบบป้องกันอย่างเต็มที่ แต่ทั้ง 2 กรณี กลุ่มคนร้ายได้กระทำนอกอาคารชาเลนเจอร์ ซึ่งอยู่นอกเหนือการดูแลของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่สำคัญผู้เสียหายนำกระเป๋าเพชรพลอยไปจัดอีกงานภายในบริเวณเมืองทองธานี ซึ่งถือว่าเป็นความประมาทของผู้เสียหาย ขาดความระมัดระวังทรัพย์สินของตนเอง ทั้ง 2 กรณีจึงไม่ได้อยู่ในความรับผิดชอบของผู้จัดการบางกอกเจมส์ฯ แต่คงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจและผู้จัดการจะต้องดูแล ซึ่งต่อไปจะมีมาตรการเข้มงวดตรวจสอบ โดยเฉพาะผู้ร่วมจัดงานทุกส่วนอย่างเข้มงวดกรณีพิเศษ และจะมีการเฝ้าระวัง โดยเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งการจัดงานครั้งต่อไปจะต้องวางกรอบการดูแลทั้งภายในบริเวณงานและนอกงาน
ด้าน นายราเชนทร์ พจนสุนทร อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก กล่าวถึงมาตรการดูแลการจัดงานบางกอกเจมส์ โดยระบุว่า ที่ผ่านมา ค่อนข้างรัดกุม แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์โจรกรรมก็จะต้องวางกรอบดูแลความปลอดภัยในงานร่วมกันใหม่
