xs
xsm
sm
md
lg

แก๊งแขกขาวอาละวาดอีก! ยกเซฟหนุ่มลอดช่องสูญ 6 ล้าน

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

นายเซน ซิงเซี่ย อายุ 27 ปี ชาวสิงค์โปร์ ผู้เสียหายชี้ให้ดูตู้เซฟที่ตั้งเรียงรายอยู่ แต่ตู้เซฟที่ตนใส่เงินสดไว้ได้ถูกคนร้ายยกหายไป
หนุ่มลอดช่องนำเงินสด 6 ล้าน ที่ได้จากการโชว์เครื่องเพชรงานเจมส์แอนด์จิวเวลรีแฟร์ ใส่ตู้เซฟโรงแรม เจอแก๊งแขกขาวปลอมตัวเป็นนักท่องเที่ยวอิตาลี ทำทีขอเช่าห้อง ก่อนยกเซฟหลบหนี เจ้าตัวเซ็งโรงแรมสุดชุ่ยไม่ติดกล้องวงจรปิด ด้านตำรวจเร่งสเกตช์ภาพคนร้ายเพื่อล่าตัวมาดำเนินคดี

วันนี้ (20 ก.ย.) เมื่อเวลา 11.00 น. นายเซน ซิงเซี่ย อายุ 27 ปี ชาวสิงค์โปร์ ได้เดินทางเข้าแจ้งความต่อ ร.ต.อ.เอกมันต์ ลือเรือง พนักงานสอบสวน (สบ 1) สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ได้ถูกคนร้ายไม่ทราบจำนวนขโมยยกตู้เซฟที่ตนเองได้นำเงินสดทั้งเงินไทย และเงินดอลลาร์สหรัฐ รวมมูลค่าประมาณ 6 ล้านบาท ใส่เก็บไว้ในทางตู้เซฟของโรงแรมอิสติน เลคไซค์ ภายในเมืองทองธานี โดยเงินจำนวนดังกล่าวเป็นเงินที่ได้จากการที่ตนเองนำเครื่องเพชรและอัญมณีมาออกแสดงในงานบางกอกเจมส์แอนด์จิวเวลรีแฟร์ ครั้งที่ 44 ซึ่งจัดขึ้นที่อาคารชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1-3 และงานเพิ่งสิ้นสุดเมื่อวานที่ผ่านมา

โดยนายเซนให้การต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ได้เข้าพักที่ห้องพักหมายเลข 754 ชั้นของโรงแรม ซึ่งเข้าพักมาตั้งแต่วันที่ 13 กันยายนที่ผ่านมา ก่อนงานแสดงจะเริ่มได้ 2 วัน เมื่อวานนี้ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของงานแสดงเครื่องเพชร หลังจากที่ตนเองได้จัดการแพกกิ้งส่งเครื่องเพชรที่นำมาแสดงกลับไปยังประเทศสิงคโปร์ของตนเองแล้ว ก็เดินทางกลับมายังที่พักที่โรงแรมดังกล่าวในช่วงเย็น จากนั้นจึงได้เช่าตู้เซฟหมายเลข 6 ของทางโรงแรมเพื่อเก็บเงินสดจำนวนดังกล่าวซึ่งเป็นห้องเก็บตู้เซฟ อยู่ด้านข้างของเคาน์เตอร์ทางโรงแรม เพราะเกรงว่าหากนำติดตัวไว้ในห้องนอนจะไม่ปลอดภัย หลังจากนั้นก็เข้าห้องพักผ่อนเพื่อจะเตรียมเดินทางกลับประเทศสิงค์โปรในตอนสายๆ ของอีกวัน

ปรากฏว่าเมื่อจัดเตรียมข้าวของเรียบร้อยและเดินมาที่ห้องตู้เซฟเพื่อจะไขนำเงินสดที่เก็บอยู่ในตู้เซฟ กลับปรากฏว่าตู้เซฟเบอร์ 6 ของตนได้หายไปอย่างไร้ร่องรอย จึงได้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่โรงแรมที่อยู่หน้าห้องมาช่วยดู ก็ทำให้รู้ว่าตู้เซฟที่ตนนำเงินสดเป็นเงินไทย 5 แสนบาทและเงินดอลลาร์สหรัฐ 1.6 แสนเหรียญ รวมแล้วคิดเป็นเงินไทยประมาณ 6 ล้านบาท ได้ถูกคนร้ายโจรกรรมไปเสียหาย จึงได้โทรศัพท์ปรึกษากลุ่มเพื่อนนักธุรกิจที่ค้าเพชรคนไทยมาช่วยพาเข้าแจ้งความ

นายเซนกล่าวด้วยสีหน้าเคร่งเครียดว่า ตนเดินทางเข้าออกประเทศไทยเพื่อนำเครื่องเพชรและอัญมณีมาร่วมจัดงานที่ประเทศไทยแล้ว 2 ครั้ง ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 ที่ตนเดินทางมาร่วมงานและเข้าพักที่โรงแรมแห่งนี้ โดยไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะถูกคนร้ายเข้ามาโจรกรรมยกเซฟไป ทั้งๆ ฝากเซฟไปกับทางโรงแรม และห้องเซฟก้อยู่หน้าเคาน์เตอร์แท้ๆ ยังถูกคนร้ายก่อเหตุยกตู้เซฟไปได้ ตนรู้สึกผิดหวังกับมาตรฐานความปลอดภัยของโรงแรมที่ไม่มีระบบป้องกันที่รัดกุม ปล่อยให้ลูกค้าที่มาพักสามารถเข้าห้องเก็บเซฟไปนั่งเล่นอินเตอร์เน็ตที่มีอยู่ภายในได้ และก็ไม่มีกล้องวงจรปิดติดเพื่อดูแลความปลอดภัยให้ลูกค้าด้วย หากสามารถติดตามนำทรัพย์สินตนเองกลับคืนมาได้ ตนพร้อมจะมอบรางวัลให้กับผู้ที่ชี้เบาะแสด้วย

ภายหลังจากรับแจ้งเหตุแล้ว ในเวลาต่อมา พ.ต.ต.ภูษิต ร่มไทร สว.สส.สภ.ปากเกร็ด พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจำนวนหนึ่งเดินทางมาตรวจสอบยังที่เกิดเหตุและสอบปากคำพนักงานทั้งหมด จนทำให้ทราบก่อนเกิดเหตุในช่วงเย็นหลังจากที่นายเซนได้เดินทางกลับที่พักและนำเงินสดเข้าไปเก็บในตู้เซฟของโรงแรมที่ชั้นล่าง ซึ่งเป็นตู้เซฟขนาดย่อม วางเรียงรายซ้อนกันเป็นชั้น ไม่ได้ฝังติดกับกำแพง ได้มีชาวต่างชาติกลุ่มหนึ่งลักษณะคล้ายแขกขาว ประมาณ 4 คน ขับรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้ายาริส สีขาว เข้ามาทำทีขอเปิดห้องพัก โดยแจ้งชื่อว่า นายซัลวาตอเร เป็นชาวอิตาลี พร้อมกับจ่ายเงินสดจำนวน 2,800 บาท เป็นค่าเปิดห้องพัก เพื่อพนักงานนำกุญแจที่พักมาให้และขอดูชื่อจากพาสปอร์ต นายซัลวาตอเร่ กลับอ้างว่าพาสสปอร์ตอยู่ที่แฟนสาวซึ่งกำลังเดินทางมาที่โรงแรม ก่อนที่นายซัลวาตอเรจะขอพนักงานโรงแรมให้เปิดตู้เซฟเพื่อนำทรัพย์สินไปเก็บ

จากนั้นกลุ่มนายซัลวาตอเรจะฉวยจังหวะที่พนักงานของทางโรงแรมเผลอช่วยกันยกตู้เซฟขึ้นรถเก๋งออกไป โดยไม่ได้เข้าพักทั้งๆ ที่จ่ายเงินค่าห้องพักไว้แล้ว ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งสเก็ตช์ภาพ รูปพรรณสัณฐานของคนร้ายรายนี้เพื่ออกหมายจับต่อไป ซึ่งคาดว่ากลุ่มคนร้ายรายนี้จะเป็นขบวนการที่เชื่อมโยงเกี่ยวข้องกับการโจรกรรมเครื่องเพชรในงานแสดงเพชรและอัญมณีที่ก่อเหตุลงมือกับผู้เสียหาย 2 ราย เมื่อวานนี้ด้วย

ส่วนความคืบหน้าในการติดตามกลุ่มคนร้ายที่ลงมือชิงเครื่องเพชรของนายอภิวัฒน์ ติยะสุขสวัสดิ์ และนายโมฮาเหม็ด เฟโรส สองพ่อค้าเพชรไปกว่า 65 ล้านเมื่อวานนี้ ในวันนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องประกอบด้วย ตำรวจการท่องเที่ยว ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบ ชุดสืบสวนภูธรภาค 1 และชุดสืบสวน สภ.ปากเกร็ด ได้ร่วมกันประชุมวางแผนในการติดตามตัวกลุ่มคนร้ายแล้ว พร้อมกับเตรียมออกหมายจับภาพของคนร้ายที่ได้จากกล้องวงจรปิดที่บันทึกไว้ได้ในขณะที่เกิดเหตุแล้ว
เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ เพื่อหาร่องรอยคนร้าย
กำลังโหลดความคิดเห็น