คาดทีโอทีเลือกเอกชนช่วยทำตลาด (MVNO)บริการ 3G เฟสแรกที่จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการ 3 ธ.ค.นี้ 3 รายคือสามารถ ล็อกซเล่ย์และบริษัท 365 แฉ KK ไอซีทีดองเรื่องถอนวาระ 3G ทั่วประเทศจากครม. ที่ส่งกลับมาตั้งแต่ 14 ส.ค.ที่ผ่านมา ทำโครงการล่าช้ากว่า 3 เดือน
นายธีรวุฒิ บุณยโสภณ ประธานบอร์ดบริษัท ทีโอที กล่าวว่า ขณะนี้มีเอกชนที่เสนอขอเป็นผู้เช่าใช้โครงข่าย (MVNO) เพื่อทำตลาดให้บริการโทรศัพท์มือถือ 3G เฟสแรกจำนวน 4 ราย ได้แก่ บริษัท สามารถเทลคอม บริษัท ล็อกซเล่ย์ บริษัท 365 และบริษัท อินเตอร์แนชั่นเนิลเอนจีเนียริง หรือไออีซี ซึ่งบอร์ดคาดว่าจะคัดเลือกให้เหลือราว 2-3 รายและจะได้ข้อสรุปไม่เกินวันที่ 1 พ.ย.นี้
ทั้งนี้ทีโอทีได้กำหนดเลขหมายสำหรับให้บริการ3Gเฟสแรกประมาณ 5 แสนเลขหมาย โดยจะแบ่งให้กับ MVNO จำนวน 4 แสนเลขหมาย และที่เหลืออีก 1 แสนเลขหมายทีโอทีจะเป็นคนทำการตลาดเอง
นายจง ดิลกสมบัติ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทสามารถไอ-โมบาย กล่าวว่า ได้แจ้งความจำนงเป็น MVNO โครงการ 3G เฟสแรกของทีโอทีไปแล้ว โดยขณะนี้อยู่ระหว่างรอการตอบรับ สำหรับการทำการตลาด 3G นั้นยืนยันว่าบริษัทมีศักยภาพ เพราะมีความสามารถในการจัดหาเครื่องลูกข่าย 3G เพราะบริษัทเป็นผู้ผลิตมือถือยี่ห้อไอ-โมบาย นอกจากนี้บริษัทยังมีคอนเทนต์ที่พร้อมให้บริการหลากหลายรูปแบบ และยังมีช่องทางการจำหน่ายจำนวนมากกระจายทั่วประเทศ
นอกจากนี้บริษัทสนใจที่จะเข้าไปร่วมทำMVNO โครงการ 3Gกับทีโอทีทั่วประเทศหากการลงทุนสร้างโครงข่ายทั่วประเทศของทีโอทีแล้วเสร็จอีกด้วย
‘เราได้รับใบอนุญาต MVNO จากกทช.แล้ว พร้อมเต็มที่เพื่อจะทำการตลาดภายใต้โครงข่าย 3G ของทีโอที’
ทั้งนี้ทีโอทีจะเปิดให้บริการ 3G เฟสแรกในวันที่ 3 ธ.ค.ที่จะถึงนี้ที่ลานเซ็นทรัลเวิล์ด ภายใต้คอนเช็ปต์ ‘3G -3ธ.ค.-3โมงเย็น’พร้อมกับจะมีการถ่ายทอดสดการเปิดให้บริการโทรศัพท์มือถือ 3G อย่างเป็นทางการ ส่วนความคืบหน้า 3G เฟสแรก ได้ทยอยติดตั้งอุปกรณ์ 3G แล้วกว่า 100 สถานีฐานจาก 533สถานีฐาน นอกจากนี้ทีโอทีมีแผนจะขอเจรจากับการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) เพื่อขอติดตั้งอุปกรณ์ตามแนวรางรถไฟแอร์พอร์ตลิงค์เพื่อให้ลูกค้าสามารถใช้บริการโทรศัพท์มือถือ3G ได้ตั้งแต่มักกะสันจนถึงสนามบินสุวรรณภูมิ คาดว่าจะใช้เงินลงทุนไม่เกิน 50 ล้านบาทและภายในเดือนพ.ย.นี้จะเริ่มทดลองการให้บริการได้อย่างแน่นอน
นอกจากนี้กระทรวงไอซีทียังได้ถอนเรื่องโครงการ 3G ทั่วประเทศจากครม.หลังจากเสนอเปลี่ยนวิธีการประมูลและแหล่งเงินกู้ โดยจะยึดแนวทางมติครม.เดิมคือใช้การประมูลแบบอินเตอร์เนชั่นแนล บิดดิ้ง และใช้เอ็กซพอร์ต เครดิตเพราะเกรงว่าจะส่งผลทำให้การเปิดบริการทั่วประเทศล่าช้าจากที่กำหนด โดยแค่จะแจ้งให้ ครม.รับทราบเพื่อขอลดเงินลงทุนในโครงการ 3G ทั่วประเทศเหลือไม่เกิน 2 หมื่นล้านบาท จากเดิมครม.อนุมัติให้ 29,000 ล้านบาทส่วนแผนการติดตั้งสถานีฐานจะเน้นในย่านชุมชนจากเดิมกระจายการติดตั้งให้ครอบคลุมทั่วประเทศสำหรับระยะเวลาการเปิดประมูลคาดว่าจะสามารถดำเนินการ ได้ในต้นปี 2553 และไม่เกินเดือนมิ.ย.-ก.ค.53 ก็จะได้ผู้ชนะการประมูล
‘เรื่องการถอนวาระ 3G ออกจากครม.ถูกส่งมายังกระทรวงไอซีทีตั้งแต่วันที่ 14 ส.ค.ที่ผ่านมา แต่เรื่องกลับถูกเก็บไว้เงียบ แม้แต่รมว.ไอซีทีก็ไม่รู้ ทั้งๆที่โครงการนี้จำเป็นกับทีโอทีเป็นอย่างมาก เพื่อความต่อเนื่องในการให้บริการหลังเปิดเฟสแรกและการเมืองก็เปิดไฟเขียวแล้ว ทำให้โครงการนี้ล่าช้ามากกว่า 3 เดือนแล้ว เหตุผลจริงๆคงต้องไปถาม KK ที่กระทรวงไอซีที ที่มีอำนาจจริงว่าทำไมต้องดองเรื่องไว้ หรือรับงานใครมาเพื่อทำให้โครงการล่าช้าให้นานที่สุด’แหล่งข่าวกล่าวและว่าในส่วน MVNO คาดว่าคงเลือกเพียง 3 รายประกอบด้วยสามารถ ไอ-โมบายกับล็อกซเล่ย์ รายละ 1.5 แสนเลขหมายและบริษัท 365 อีก 1 แสนเลขหมาย
นายธีรวุฒิ บุณยโสภณ ประธานบอร์ดบริษัท ทีโอที กล่าวว่า ขณะนี้มีเอกชนที่เสนอขอเป็นผู้เช่าใช้โครงข่าย (MVNO) เพื่อทำตลาดให้บริการโทรศัพท์มือถือ 3G เฟสแรกจำนวน 4 ราย ได้แก่ บริษัท สามารถเทลคอม บริษัท ล็อกซเล่ย์ บริษัท 365 และบริษัท อินเตอร์แนชั่นเนิลเอนจีเนียริง หรือไออีซี ซึ่งบอร์ดคาดว่าจะคัดเลือกให้เหลือราว 2-3 รายและจะได้ข้อสรุปไม่เกินวันที่ 1 พ.ย.นี้
ทั้งนี้ทีโอทีได้กำหนดเลขหมายสำหรับให้บริการ3Gเฟสแรกประมาณ 5 แสนเลขหมาย โดยจะแบ่งให้กับ MVNO จำนวน 4 แสนเลขหมาย และที่เหลืออีก 1 แสนเลขหมายทีโอทีจะเป็นคนทำการตลาดเอง
นายจง ดิลกสมบัติ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทสามารถไอ-โมบาย กล่าวว่า ได้แจ้งความจำนงเป็น MVNO โครงการ 3G เฟสแรกของทีโอทีไปแล้ว โดยขณะนี้อยู่ระหว่างรอการตอบรับ สำหรับการทำการตลาด 3G นั้นยืนยันว่าบริษัทมีศักยภาพ เพราะมีความสามารถในการจัดหาเครื่องลูกข่าย 3G เพราะบริษัทเป็นผู้ผลิตมือถือยี่ห้อไอ-โมบาย นอกจากนี้บริษัทยังมีคอนเทนต์ที่พร้อมให้บริการหลากหลายรูปแบบ และยังมีช่องทางการจำหน่ายจำนวนมากกระจายทั่วประเทศ
นอกจากนี้บริษัทสนใจที่จะเข้าไปร่วมทำMVNO โครงการ 3Gกับทีโอทีทั่วประเทศหากการลงทุนสร้างโครงข่ายทั่วประเทศของทีโอทีแล้วเสร็จอีกด้วย
‘เราได้รับใบอนุญาต MVNO จากกทช.แล้ว พร้อมเต็มที่เพื่อจะทำการตลาดภายใต้โครงข่าย 3G ของทีโอที’
ทั้งนี้ทีโอทีจะเปิดให้บริการ 3G เฟสแรกในวันที่ 3 ธ.ค.ที่จะถึงนี้ที่ลานเซ็นทรัลเวิล์ด ภายใต้คอนเช็ปต์ ‘3G -3ธ.ค.-3โมงเย็น’พร้อมกับจะมีการถ่ายทอดสดการเปิดให้บริการโทรศัพท์มือถือ 3G อย่างเป็นทางการ ส่วนความคืบหน้า 3G เฟสแรก ได้ทยอยติดตั้งอุปกรณ์ 3G แล้วกว่า 100 สถานีฐานจาก 533สถานีฐาน นอกจากนี้ทีโอทีมีแผนจะขอเจรจากับการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) เพื่อขอติดตั้งอุปกรณ์ตามแนวรางรถไฟแอร์พอร์ตลิงค์เพื่อให้ลูกค้าสามารถใช้บริการโทรศัพท์มือถือ3G ได้ตั้งแต่มักกะสันจนถึงสนามบินสุวรรณภูมิ คาดว่าจะใช้เงินลงทุนไม่เกิน 50 ล้านบาทและภายในเดือนพ.ย.นี้จะเริ่มทดลองการให้บริการได้อย่างแน่นอน
นอกจากนี้กระทรวงไอซีทียังได้ถอนเรื่องโครงการ 3G ทั่วประเทศจากครม.หลังจากเสนอเปลี่ยนวิธีการประมูลและแหล่งเงินกู้ โดยจะยึดแนวทางมติครม.เดิมคือใช้การประมูลแบบอินเตอร์เนชั่นแนล บิดดิ้ง และใช้เอ็กซพอร์ต เครดิตเพราะเกรงว่าจะส่งผลทำให้การเปิดบริการทั่วประเทศล่าช้าจากที่กำหนด โดยแค่จะแจ้งให้ ครม.รับทราบเพื่อขอลดเงินลงทุนในโครงการ 3G ทั่วประเทศเหลือไม่เกิน 2 หมื่นล้านบาท จากเดิมครม.อนุมัติให้ 29,000 ล้านบาทส่วนแผนการติดตั้งสถานีฐานจะเน้นในย่านชุมชนจากเดิมกระจายการติดตั้งให้ครอบคลุมทั่วประเทศสำหรับระยะเวลาการเปิดประมูลคาดว่าจะสามารถดำเนินการ ได้ในต้นปี 2553 และไม่เกินเดือนมิ.ย.-ก.ค.53 ก็จะได้ผู้ชนะการประมูล
‘เรื่องการถอนวาระ 3G ออกจากครม.ถูกส่งมายังกระทรวงไอซีทีตั้งแต่วันที่ 14 ส.ค.ที่ผ่านมา แต่เรื่องกลับถูกเก็บไว้เงียบ แม้แต่รมว.ไอซีทีก็ไม่รู้ ทั้งๆที่โครงการนี้จำเป็นกับทีโอทีเป็นอย่างมาก เพื่อความต่อเนื่องในการให้บริการหลังเปิดเฟสแรกและการเมืองก็เปิดไฟเขียวแล้ว ทำให้โครงการนี้ล่าช้ามากกว่า 3 เดือนแล้ว เหตุผลจริงๆคงต้องไปถาม KK ที่กระทรวงไอซีที ที่มีอำนาจจริงว่าทำไมต้องดองเรื่องไว้ หรือรับงานใครมาเพื่อทำให้โครงการล่าช้าให้นานที่สุด’แหล่งข่าวกล่าวและว่าในส่วน MVNO คาดว่าคงเลือกเพียง 3 รายประกอบด้วยสามารถ ไอ-โมบายกับล็อกซเล่ย์ รายละ 1.5 แสนเลขหมายและบริษัท 365 อีก 1 แสนเลขหมาย