บอร์ด บางจากปิโตรเลียม เปิดโครงการร่วมลงทุนระหว่างนายจ้างและลูกจ้าง หรือ EJIP เพื่อลงทุนซื้อหุ้นสะสมของบริษัท ระยะเวลาตั้งแต่ 1 ต.ค.52 ถึง 30 ก.ย. 54 โดยจะหักเงินเดือนผู้ที่มีสิทธิและสมัครใจเข้าร่วมโครงการ 5 % ของเงินเดือนและบริษัทฯจ่ายสมทบ 7.5 % ของเงินเดือนผู้ที่ร่วมโครงการทุกเดือน หวังช่วยรักษาเสถียรภาพราคาหุ้น
นายอนุสรณ์ แสงนิ่มนวล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด ( มหาชน ) ( BCP ) แจ้งมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 9/2552 เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2552 ว่าบอร์ดได้มีการอนุมัติและกำหนดระยะเวลาโครงการร่วมลงทุนระหว่างนายจ้างและลูกจ้าง ( Employee Joint Investment Program - EJIP ) ซึ่งเป็นไปตามประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ( สำนักงาน ก.ล.ต. )ที่ สจ.12/2552 เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2552 เรื่องการจัดทำและเปิดเผยรายงานการถือหลักทรัพย์ของกรรมการ ผู้บริหารและผู้สอบบัญชี โดย EJIP เป็นโครงการลงทุนซื้อหุ้นสะสมของบริษัทเป็นรายงวดเพื่อเป็นรูปแบบหนึ่งของการให้ผลตอบแทนกับพนักงาน ผู้บริหารของบริษัทฯ
โดย ระยะเวลาโครงการ ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2552 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2554 รวมระยะเวลา 2 ปี และผู้ที่มีสิทธิเข้าร่วมโครงการพนักงาน ผู้บริหารของบริษัทฯ โดยเป็นไปตามความสมัครใจของผู้ที่มีสิทธิเข้าร่วมโครงการ และยอมรับที่จะปฏิบัติตามข้อกำหนดและเงื่อนไขของโครงการ กฎระเบียบอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ไม่รวมถึงกรรมการบริษัท
สำหรับรูปแบบโครงการนั้น บริษัทฯ จะหักเงินเดือนผู้ที่มีสิทธิ และสมัครใจเข้าร่วมโครงการในอัตราไม่เกินร้อยละ 5 ของเงินเดือนในแต่ละเดือนจนกว่าจะสิ้นสุดโครงการเพื่อสะสมเข้ากองทุน และบริษัทฯจะจ่ายสมทบในอัตราร้อยละ 7.5 ของเงินเดือนผู้ที่ร่วมโครงการทุกเดือน โดยนำเงินสะสมดังกล่าวรวมกับเงินสมทบของบริษัทฯ ไปซื้อหุ้น BCP และ/หรือ BCP-DR1 ในตลาดหลักทรัพย์ฯ ภายในวันที่บริษัทฯ กำหนดของทุกเดือน
ขณะที่เงื่อนไขการถือครองหลักทรัพย์นั้น พนักงาน ผู้บริหารของบริษัทฯ ที่เข้าร่วมโครงการมีสิทธิขายหุ้น BCP และ/หรือ BCP-DR1 โดยตรงในตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งมีเงื่อนไขดังนี้คือเมื่อโครงการมีอายุครบ 6 เดือน ( 31 มีนาคม 2553) สามารถขายหุ้นได้ไม่เกินจำนวนหุ้นที่ซื้อใน 6 เดือนแรกและเมื่อโครงการมีอายุครบ 1 ปี 6 เดือน ( 31 มีนาคม 2554) สามารถขายหุ้นได้ไม่เกินจำนวนหุ้นที่ซื้อในเดือนที่ 1 ถึงเดือนที่ 12 ซึ่งเมื่อครบกำหนดอายุโครงการ ( 30 กันยายน 2554 ) สามารถขายหุ้นได้ทั้งจำนวน ทั้งนี้ บริษัทฯ จะดำเนินการนำเสนอโครงการนี้ เพื่อขอความเห็นชอบจาก สำนักงาน ก.ล.ต. ต่อไป
อนึ่ง โครงการ EJIB 3 แห่ง เป็นอีกหนึ่งโครงการที่ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) มองว่าจะเป็นการเพิ่มแรงจูงใจให้กับพนักงานบริษัทจดทะเบียน ซึ่งขณะนี้ ตลท. ดำเนินการพบปะผู้บริหารของบริษัทจดทะเบียน เพื่อดึงเข้าโครงการดังกล่าว โดยระยะแรก ๆ จะเน้นบริษัทขนาดใหญ่มีสภาพคล่องในการซื้อขายสูงและมีกำไรดี รวมทั้งมีพนักงานจำนวนมาก ขณะที่ ตลท.เผยว่าบริษัทที่ออกหุ้นอีสป (ESOP) ไม่ประสบผลสำเร็จหลายแห่งเตรียมหันเข้าโครงการ EJIB แต่ก็อยู่ระหว่างศึกษาขั้นตอนการดำเนินการ หวังช่วยรักษาเสถียรภาพราคาหุ้นและสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุน ที่สำคัญส่งผลดีต่อตลาดทุนไทย โดยบริษัทแรกที่เข้าร่วมโครงการดังกล่าวคือ บริษัท ซีพี ออลล์ หรือ CPALL
นายอนุสรณ์ แสงนิ่มนวล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด ( มหาชน ) ( BCP ) แจ้งมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 9/2552 เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2552 ว่าบอร์ดได้มีการอนุมัติและกำหนดระยะเวลาโครงการร่วมลงทุนระหว่างนายจ้างและลูกจ้าง ( Employee Joint Investment Program - EJIP ) ซึ่งเป็นไปตามประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ( สำนักงาน ก.ล.ต. )ที่ สจ.12/2552 เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2552 เรื่องการจัดทำและเปิดเผยรายงานการถือหลักทรัพย์ของกรรมการ ผู้บริหารและผู้สอบบัญชี โดย EJIP เป็นโครงการลงทุนซื้อหุ้นสะสมของบริษัทเป็นรายงวดเพื่อเป็นรูปแบบหนึ่งของการให้ผลตอบแทนกับพนักงาน ผู้บริหารของบริษัทฯ
โดย ระยะเวลาโครงการ ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2552 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2554 รวมระยะเวลา 2 ปี และผู้ที่มีสิทธิเข้าร่วมโครงการพนักงาน ผู้บริหารของบริษัทฯ โดยเป็นไปตามความสมัครใจของผู้ที่มีสิทธิเข้าร่วมโครงการ และยอมรับที่จะปฏิบัติตามข้อกำหนดและเงื่อนไขของโครงการ กฎระเบียบอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ไม่รวมถึงกรรมการบริษัท
สำหรับรูปแบบโครงการนั้น บริษัทฯ จะหักเงินเดือนผู้ที่มีสิทธิ และสมัครใจเข้าร่วมโครงการในอัตราไม่เกินร้อยละ 5 ของเงินเดือนในแต่ละเดือนจนกว่าจะสิ้นสุดโครงการเพื่อสะสมเข้ากองทุน และบริษัทฯจะจ่ายสมทบในอัตราร้อยละ 7.5 ของเงินเดือนผู้ที่ร่วมโครงการทุกเดือน โดยนำเงินสะสมดังกล่าวรวมกับเงินสมทบของบริษัทฯ ไปซื้อหุ้น BCP และ/หรือ BCP-DR1 ในตลาดหลักทรัพย์ฯ ภายในวันที่บริษัทฯ กำหนดของทุกเดือน
ขณะที่เงื่อนไขการถือครองหลักทรัพย์นั้น พนักงาน ผู้บริหารของบริษัทฯ ที่เข้าร่วมโครงการมีสิทธิขายหุ้น BCP และ/หรือ BCP-DR1 โดยตรงในตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งมีเงื่อนไขดังนี้คือเมื่อโครงการมีอายุครบ 6 เดือน ( 31 มีนาคม 2553) สามารถขายหุ้นได้ไม่เกินจำนวนหุ้นที่ซื้อใน 6 เดือนแรกและเมื่อโครงการมีอายุครบ 1 ปี 6 เดือน ( 31 มีนาคม 2554) สามารถขายหุ้นได้ไม่เกินจำนวนหุ้นที่ซื้อในเดือนที่ 1 ถึงเดือนที่ 12 ซึ่งเมื่อครบกำหนดอายุโครงการ ( 30 กันยายน 2554 ) สามารถขายหุ้นได้ทั้งจำนวน ทั้งนี้ บริษัทฯ จะดำเนินการนำเสนอโครงการนี้ เพื่อขอความเห็นชอบจาก สำนักงาน ก.ล.ต. ต่อไป
อนึ่ง โครงการ EJIB 3 แห่ง เป็นอีกหนึ่งโครงการที่ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) มองว่าจะเป็นการเพิ่มแรงจูงใจให้กับพนักงานบริษัทจดทะเบียน ซึ่งขณะนี้ ตลท. ดำเนินการพบปะผู้บริหารของบริษัทจดทะเบียน เพื่อดึงเข้าโครงการดังกล่าว โดยระยะแรก ๆ จะเน้นบริษัทขนาดใหญ่มีสภาพคล่องในการซื้อขายสูงและมีกำไรดี รวมทั้งมีพนักงานจำนวนมาก ขณะที่ ตลท.เผยว่าบริษัทที่ออกหุ้นอีสป (ESOP) ไม่ประสบผลสำเร็จหลายแห่งเตรียมหันเข้าโครงการ EJIB แต่ก็อยู่ระหว่างศึกษาขั้นตอนการดำเนินการ หวังช่วยรักษาเสถียรภาพราคาหุ้นและสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุน ที่สำคัญส่งผลดีต่อตลาดทุนไทย โดยบริษัทแรกที่เข้าร่วมโครงการดังกล่าวคือ บริษัท ซีพี ออลล์ หรือ CPALL
