ไทยยานยนต์ กรุ๊ป เดินหน้ารุกธุรกิจยานยนต์ ตั้งเป้านำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เน้นความโปร่งใส ลบภาพธุรกิจครอบครัว หวังในอนาคตขายรถเกิน 10 ยี่ห้อ โชว์รูมรวมกว่า 30 แห่ง เผยเศรษฐกิจผ่านจุดเลวร้ายที่สุดไปแล้ว พร้อมเปิดแผนดึงรถจีน“เฌอรี่” เข้ามาผลิตในเมืองไทย ล่าสุดทุ่ม 200 ล้านบาท เปิดโชว์รูมขายรถบีเอ็มดับเบิลยูแห่งใหม่ บนถนนวิภาวดี
นายวิทิต ลีนุตพงษ์ ประธานกรรมการบริหาร ไทยยานยนต์ กรุ๊ป ผู้ดำเนินธุรกิจรถยนต์รายใหญ่ เปิดเผยว่า เป้าหมายของบริษัทฯในการดำเนินธุรกิจ หลังจากแยกตัวออกมาจากกลุ่มยนตรกิจเดิม คือการเข้าไปเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของประเทศไทย หรือ SET โดยระหว่างนี้บริษัทกำลังอยู่ในระหว่างการขยายกิจการเพื่อสร้างรากฐานให้แข็งแกร่ง
“การเข้าไปจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของไทย จะส่งผลดีต่อทั้งลูกค้าของเราและผู้ถือหุ้น รวมถึงภาพลักษณ์ที่ดีของบริษัท ด้านความโปร่งใส พร้อมตรวจสอบได้เสมอ และยังเป็นสิ่งที่ช่วยลบภาพของการบริหารแบบเดิมที่เรียกว่า บริหารแบบลูกเจ้าสัว ซึ่งไม่เป็นมืออาชีพ”
นายวิทิต กล่าวว่า การจะเข้าจดทะเบียนได้ บริษัทฯ ต้องมีความพร้อมก่อน ซึ่งคงจะกำหนดเวลาแน่นอนไม่ได้ โดยขณะนี้มีการปรับองค์กรใหม่หมดเช่น ด้านบุคลากรมีการนำคนรุ่นใหม่และมืออาชีพเข้ามาเสริมการทำงานมากขึ้น สร้างพนักงานให้ทำงานอย่างมีความสุข และรักษาระดับรายได้ให้มีเข้ามาอย่างสม่ำเสมอ
ส่วนขนาดของธุรกิจ ปัจจุบันบริษัทฯ เป็นตัวแทนจำหน่ายทั้งแบบขายส่ง(Whole Sale)ได้แก่ แบรนด์ โฟล์คสวาเกนกับเฌอรี่ และแบบขายปลีก(Retail) ได้แก่ โฟล์คสวาเกน, เฌอรี่, บีเอ็มดับเบิลยู, ฟอร์ด และมาสด้า โดยมีโชว์รูมขายรวมกัน 13 แห่ง ยอดขายรวมทั้งหมดเกือบ 1 หมื่นล้านบาทต่อปี
“จุดที่จะบ่งชี้ว่า บริษัทฯ พร้อมจะเข้าตลาดหลักทรัพย์ได้ คือจำนวนโชว์รูมต้องมีประมาณ 30 แห่งทั่วประเทศ และมีแบรนด์ที่ขายมากกว่า 10 แบรนด์ขึ้นไป รวมถึงการเป็นดีลเลอร์ขายรถยนต์แบรนด์หลักอย่าง โตโยต้า, ฮอนด้า หรืออีซูซุ ยี่ห้อใดยี่ห้อหนึ่งหรือทั้งหมดก็ได้หากบริษัทฯแม่ยินยอม เรามีเงินทุนพร้อม” นายวิทิต กล่าว
ในด้านของเป็นตัวแทนจำหน่ายรถยนต์เฌอรี่ นายวิทิต กล่าวว่า บริษัทฯ ได้เสนอแผนการย้ายไลน์ผลิตรถยนต์เฌอรี่พวงมาลัยขวาจากประเทศจีนให้มาตั้งอยู่ที่ประเทศไทย เพื่อเป็นศูนย์กลางการผลิตและกระจายรถพวงมาลัยขวาไปทำตลาดยังประเทศต่างๆ ซึ่งทางเฌอรี่กำลังรุกเข้าไปเปิดตลาดใหม่เช่น ประเทศออสเตรเลียและแอฟริกาใต้ เป็นต้น โดยกำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาของเฌอรี่ ประเทศจีน
ขณะที่ยอดจำหน่ายของรถเฌอรี่ในเมืองไทย หลังการเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่องานมอเตอร์ โชว์ ที่ไบเทค ช่วงต้นปีที่ผ่านมา ได้รับการตอบรับเป็นที่น่าพอใจ มียอดจองราว 300-400 คัน และส่งมอบให้ลูกค้าไปแล้วราว 100 กว่าคัน โดยส่วนที่เหลือกำลังทยอยส่งมอบ
ส่วนการลงทุนล่าสุด ไทยยานยนต์ เปิดโชว์รูมขายรถยนต์ บีเอ็มดับเบิลยู แห่งใหม่ ริมถนนวิภาวดี ภายใต้การบริหารงานของ บริษัท บาเซโลนา มอเตอร์ จำกัด งบประมาณการลงทุน 200 ล้านบาท รองรับการขายรถยนต์และรถจักรยานยนต์ของบีเอ็มดับเบิลยูแบบครบวงจร
นายวิทิต ลีนุตพงษ์ ประธานกรรมการบริหาร ไทยยานยนต์ กรุ๊ป ผู้ดำเนินธุรกิจรถยนต์รายใหญ่ เปิดเผยว่า เป้าหมายของบริษัทฯในการดำเนินธุรกิจ หลังจากแยกตัวออกมาจากกลุ่มยนตรกิจเดิม คือการเข้าไปเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของประเทศไทย หรือ SET โดยระหว่างนี้บริษัทกำลังอยู่ในระหว่างการขยายกิจการเพื่อสร้างรากฐานให้แข็งแกร่ง
“การเข้าไปจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของไทย จะส่งผลดีต่อทั้งลูกค้าของเราและผู้ถือหุ้น รวมถึงภาพลักษณ์ที่ดีของบริษัท ด้านความโปร่งใส พร้อมตรวจสอบได้เสมอ และยังเป็นสิ่งที่ช่วยลบภาพของการบริหารแบบเดิมที่เรียกว่า บริหารแบบลูกเจ้าสัว ซึ่งไม่เป็นมืออาชีพ”
นายวิทิต กล่าวว่า การจะเข้าจดทะเบียนได้ บริษัทฯ ต้องมีความพร้อมก่อน ซึ่งคงจะกำหนดเวลาแน่นอนไม่ได้ โดยขณะนี้มีการปรับองค์กรใหม่หมดเช่น ด้านบุคลากรมีการนำคนรุ่นใหม่และมืออาชีพเข้ามาเสริมการทำงานมากขึ้น สร้างพนักงานให้ทำงานอย่างมีความสุข และรักษาระดับรายได้ให้มีเข้ามาอย่างสม่ำเสมอ
ส่วนขนาดของธุรกิจ ปัจจุบันบริษัทฯ เป็นตัวแทนจำหน่ายทั้งแบบขายส่ง(Whole Sale)ได้แก่ แบรนด์ โฟล์คสวาเกนกับเฌอรี่ และแบบขายปลีก(Retail) ได้แก่ โฟล์คสวาเกน, เฌอรี่, บีเอ็มดับเบิลยู, ฟอร์ด และมาสด้า โดยมีโชว์รูมขายรวมกัน 13 แห่ง ยอดขายรวมทั้งหมดเกือบ 1 หมื่นล้านบาทต่อปี
“จุดที่จะบ่งชี้ว่า บริษัทฯ พร้อมจะเข้าตลาดหลักทรัพย์ได้ คือจำนวนโชว์รูมต้องมีประมาณ 30 แห่งทั่วประเทศ และมีแบรนด์ที่ขายมากกว่า 10 แบรนด์ขึ้นไป รวมถึงการเป็นดีลเลอร์ขายรถยนต์แบรนด์หลักอย่าง โตโยต้า, ฮอนด้า หรืออีซูซุ ยี่ห้อใดยี่ห้อหนึ่งหรือทั้งหมดก็ได้หากบริษัทฯแม่ยินยอม เรามีเงินทุนพร้อม” นายวิทิต กล่าว
ในด้านของเป็นตัวแทนจำหน่ายรถยนต์เฌอรี่ นายวิทิต กล่าวว่า บริษัทฯ ได้เสนอแผนการย้ายไลน์ผลิตรถยนต์เฌอรี่พวงมาลัยขวาจากประเทศจีนให้มาตั้งอยู่ที่ประเทศไทย เพื่อเป็นศูนย์กลางการผลิตและกระจายรถพวงมาลัยขวาไปทำตลาดยังประเทศต่างๆ ซึ่งทางเฌอรี่กำลังรุกเข้าไปเปิดตลาดใหม่เช่น ประเทศออสเตรเลียและแอฟริกาใต้ เป็นต้น โดยกำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาของเฌอรี่ ประเทศจีน
ขณะที่ยอดจำหน่ายของรถเฌอรี่ในเมืองไทย หลังการเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่องานมอเตอร์ โชว์ ที่ไบเทค ช่วงต้นปีที่ผ่านมา ได้รับการตอบรับเป็นที่น่าพอใจ มียอดจองราว 300-400 คัน และส่งมอบให้ลูกค้าไปแล้วราว 100 กว่าคัน โดยส่วนที่เหลือกำลังทยอยส่งมอบ
ส่วนการลงทุนล่าสุด ไทยยานยนต์ เปิดโชว์รูมขายรถยนต์ บีเอ็มดับเบิลยู แห่งใหม่ ริมถนนวิภาวดี ภายใต้การบริหารงานของ บริษัท บาเซโลนา มอเตอร์ จำกัด งบประมาณการลงทุน 200 ล้านบาท รองรับการขายรถยนต์และรถจักรยานยนต์ของบีเอ็มดับเบิลยูแบบครบวงจร