ควอลลีเทค คาด ไตรมาส 2 นี้ กำไรและรายได้โต 60% และ 20% ตามลำดับ จากไตรมาสแรก ตั้งเป้าทั้งปีรายได้เพิ่ม 20% หรืออยู่ที่ 270 ล้านบาท จากงานในมือมูลค่า 200 ล้านบาท ทยอยรับรู้ครึ่งปีหลังและบางส่วนต้นปีหน้า เผยเตรียมหารือบอร์ดเพื่อขอมติปันผลระหว่างกาลสัปดาห์หน้าก่อนชงเข้าที่ประชุม 8 ส.ค.นี้ คาดผลงานครึ่งปีแรกสวย
นายสรรพัชญ์ รัตคาม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ควอลลีเทค จำกัด (มหาชน) หรือ QLT เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 2552 อยู่ที่ 270 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% จากปีก่อนที่มีรายได้อยู่ที่ 245 ล้านบาท และคาดว่า แนวโน้มผลประกอบการในไตรมาส 2/52 บริษัทจะมีกำไรสุทธิที่เติบโตขึ้น 60% และรายได้ที่โตขึ้น 20% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
ทั้งนี้ ช่วงครึ่งปีแรกบริษัทคาดว่าจะมีรายได้อยู่ที่ประมาณ 135 ล้านบาท จากปัจจุบันที่บริษัทยังมีมูลค่างานในมือ (Backlog) อยู่ที่ 200 ล้านบาท โดยจะสามารถทยอยรับรู้ได้ในครึ่งปีหลัง 140 ล้านบาท และรับรู้ในปี 2553 อีก 50-60 ล้านบาท และคาดว่า ในช่วงครึ่งปีหลังจะได้งานเพิ่มขึ้นอีก 40-50 ล้านบาท จาก 3 โครงการ โดยเป็นงานทดสอบอยู่ในอุตสาหกรรมพลังงานและปิโตรเคมี ซึ่งปัจจุบันกำลังอยู่ระหว่างการเสนอราคา
สำหรับผลการดำเนินงานที่เติบโต ผลจากการเน้นรับงานบริการที่มีมาร์จินสูง รวมทั้งบริหารจัดการด้านต้นทุนให้ดี และยังได้รับสิทธิประโยชน์จากบีโอไอ โดยทำให้เสียภาษีเงินได้นิติบุคคลลดลงจากช่วง 6 เดือนในปีก่อนส่งผลให้กำไรในครึ่งปีแรกของบริษัท เติบโตอย่างก้าวกระโดดเป็น 60% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
ปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนรายได้จากงานทดสอบโดยไม่ทำลาย (NDT) อยู่ที่ 60% และจากงานตรวจสอบเพื่อรับรองคุณภาพงานอยู่ที่ 40% ทั้งนี้ งานตรวจสอบและรับรองเป็นงานที่มีมาร์จินสูงกว่างานทดสอบโดยไม่ทำลายและในอนาคตบริษัทตั้งเป้าการปรับสัดส่วนรายได้สัดส่วนอย่างละ 50% และเป็นงานที่มาจากลูกค้าเดิม 70-80%
“รูปแบธุรกิจของเราก็มีบ้างที่ได้ผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจ แต่น้อยเพราะเราค่อนข้างระมัดระวังเป็นอย่างดี ส่วนที่เราห่วงก็คือปัจจัยภายใน เรื่องการจัดการบุคลากรในองค์กรและการบริหารงานที่ดีเพราะเราคุมได้ แต่ปัญหาเศรษฐกิจเราไม่สามารถควบคุมได้” นายสรรพัชญ์ กล่าว
ทั้งนี้ บริษัทอยู่ระหว่างเจรจากันพันธมิตรจากเนเธอร์แลนด์และแคนาดา เพื่อร่วมลงทุนในโครงการท่อแก๊สของ ปตท.เส้นที่ 4 ใช้เงินลงทุนประมาณ 40 ล้านบาท ขณะนี้ยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจนเพราะต้องรอให้มีการลงทุนก่อน ซึ่งการร่วมทุนต้องขึ้นอยู่กับการเจรจา โดยบริษัทจะใช้กระแสเงินสดจากการระดมทุน
อย่างไรก็ตาม บริษัทเตรียมหารือกับคณะกรรมการบริษัทเพื่อพิจารณาการจ่ายเงินปันผลงวดระหว่างกาล (1 ม.ค.- 30 มิ.ย.) สัปดาห์หน้า เพราะคาดว่าผลประกอบการช่วงครึ่งปีแรกน่าจะออกมาเป็นที่น่าพอใจ โดยจะขอมติเห็นชอบจากที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท 8 ส.ค.นี้ โดยบริษัทมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลไม่ต่ำกว่า 40% ของกำไรสุทธิ
นายสรรพัชญ์ รัตคาม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ควอลลีเทค จำกัด (มหาชน) หรือ QLT เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 2552 อยู่ที่ 270 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% จากปีก่อนที่มีรายได้อยู่ที่ 245 ล้านบาท และคาดว่า แนวโน้มผลประกอบการในไตรมาส 2/52 บริษัทจะมีกำไรสุทธิที่เติบโตขึ้น 60% และรายได้ที่โตขึ้น 20% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
ทั้งนี้ ช่วงครึ่งปีแรกบริษัทคาดว่าจะมีรายได้อยู่ที่ประมาณ 135 ล้านบาท จากปัจจุบันที่บริษัทยังมีมูลค่างานในมือ (Backlog) อยู่ที่ 200 ล้านบาท โดยจะสามารถทยอยรับรู้ได้ในครึ่งปีหลัง 140 ล้านบาท และรับรู้ในปี 2553 อีก 50-60 ล้านบาท และคาดว่า ในช่วงครึ่งปีหลังจะได้งานเพิ่มขึ้นอีก 40-50 ล้านบาท จาก 3 โครงการ โดยเป็นงานทดสอบอยู่ในอุตสาหกรรมพลังงานและปิโตรเคมี ซึ่งปัจจุบันกำลังอยู่ระหว่างการเสนอราคา
สำหรับผลการดำเนินงานที่เติบโต ผลจากการเน้นรับงานบริการที่มีมาร์จินสูง รวมทั้งบริหารจัดการด้านต้นทุนให้ดี และยังได้รับสิทธิประโยชน์จากบีโอไอ โดยทำให้เสียภาษีเงินได้นิติบุคคลลดลงจากช่วง 6 เดือนในปีก่อนส่งผลให้กำไรในครึ่งปีแรกของบริษัท เติบโตอย่างก้าวกระโดดเป็น 60% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
ปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนรายได้จากงานทดสอบโดยไม่ทำลาย (NDT) อยู่ที่ 60% และจากงานตรวจสอบเพื่อรับรองคุณภาพงานอยู่ที่ 40% ทั้งนี้ งานตรวจสอบและรับรองเป็นงานที่มีมาร์จินสูงกว่างานทดสอบโดยไม่ทำลายและในอนาคตบริษัทตั้งเป้าการปรับสัดส่วนรายได้สัดส่วนอย่างละ 50% และเป็นงานที่มาจากลูกค้าเดิม 70-80%
“รูปแบธุรกิจของเราก็มีบ้างที่ได้ผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจ แต่น้อยเพราะเราค่อนข้างระมัดระวังเป็นอย่างดี ส่วนที่เราห่วงก็คือปัจจัยภายใน เรื่องการจัดการบุคลากรในองค์กรและการบริหารงานที่ดีเพราะเราคุมได้ แต่ปัญหาเศรษฐกิจเราไม่สามารถควบคุมได้” นายสรรพัชญ์ กล่าว
ทั้งนี้ บริษัทอยู่ระหว่างเจรจากันพันธมิตรจากเนเธอร์แลนด์และแคนาดา เพื่อร่วมลงทุนในโครงการท่อแก๊สของ ปตท.เส้นที่ 4 ใช้เงินลงทุนประมาณ 40 ล้านบาท ขณะนี้ยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจนเพราะต้องรอให้มีการลงทุนก่อน ซึ่งการร่วมทุนต้องขึ้นอยู่กับการเจรจา โดยบริษัทจะใช้กระแสเงินสดจากการระดมทุน
อย่างไรก็ตาม บริษัทเตรียมหารือกับคณะกรรมการบริษัทเพื่อพิจารณาการจ่ายเงินปันผลงวดระหว่างกาล (1 ม.ค.- 30 มิ.ย.) สัปดาห์หน้า เพราะคาดว่าผลประกอบการช่วงครึ่งปีแรกน่าจะออกมาเป็นที่น่าพอใจ โดยจะขอมติเห็นชอบจากที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท 8 ส.ค.นี้ โดยบริษัทมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลไม่ต่ำกว่า 40% ของกำไรสุทธิ