“บีจีเอ กรุ๊ป” เผยธุรกิจรับบริหารจัดการทรัพย์สินวูบกว่า 20 % เตรียมงัดกลยุทธ์ล่อใจลูกค้าดันเป้าสร้างรายได้ในไตรมาส 3-4 ไม่น้อยกว่า 10 % พร้อมผลักดันแก้ไขเพิ่มเติมกม.สงวนสิทธิ์อาชีพบริการหลังการขายเฉพาะคนไทย
นายพิสิฐ ชูประสิทธิ์ ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการ บีจีเอ กรุ๊ป เปิดเผยว่า จากสภาพเศรษฐกิจโดยรวมที่ถดถอยและชะลอตัวตั้งแต่ไตรมาสสุดท้ายของปี 2551 ส่งผลให้ธุรกิจรับบริหารจัดการทรัพย์สินประเภทคอนโดมิเนียม และหมู่บ้านจัดสรรลดลงกว่า 20 % จากเดิมตั้งเป้ารายได้เติบโตในปี 2552 จำนวนกว่า 3 ล้านบาทต่อปี
โดยผลสำรวจข้อมูลของสมาคมนักบริหารอาคารชุดและหมู่บ้านจัดสรรแห่งประเทศไทยพบว่ามีโครงการอาคารชุดและหมู่บ้านจัดสรรจำนวนกว่า 1,000 โครงการ ที่ว่าจ้างบริษัทรับบริหารการจัดการทรัพย์สินให้แก่เจ้าของทรัพย์สินคิดเป็น 10 % เท่านั้นโดยมีบริษัทรับบริหารจัดการทรัพย์สินที่จดทะเบียนกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ จำนวนกว่า 80 ราย และมีจำนวน 30 รายที่ขึ้นทะเบียนเป็นสมาชิกของสมาคมนักบริหารอาคารชุดและหมู่บ้านจัดสรรแห่งประเทศไทย
อย่างไรก็ตาม ข้อมูลจากการสำรวจพบเพิ่มเติมว่า ยังมีผู้ประกอบธุรกิจด้านการบริหารจัดการทรัพย์สิน ซึ่งเป็นกลุ่มทุนต่างชาติเข้ามาประกอบธุรกิจในประเทศและจดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายให้บริการแก่เจ้าของทรัพย์สินอีกอย่างน้อย 10 ราย
ซึ่งในส่วนของพระราชบัญญัติอาคารชุด(พ.ร.บ.) ยังมีประเด็นที่จะต้องแก้ไขเพิ่มเติมอีกหลายประเด็น เพื่อให้สอดคล้องกับเหตุการณ์ในปัจจุบัน และไม่เป็นปัญหาและอุปสรรคด้านการบริหารจัดการทรัพย์สินโดยเฉพาะบุคคลหรือ นิติบุคคลดำรงตำแหน่งทั้ง กรรมการ และ ผู้จัดการ ที่ควรสงวนสิทธิ์เฉพาะคนไทยเพียงอย่างเดียว ไม่ควรเปิดช่อง ให้บุคคลหรือนิติบุคคลต่างด้าว เข้ามามีบทบาทในวิชาชีพด้านการบริหารการจัดการทรัพย์สิน
ประกอบกับข้อบังคับของนิติบุคคลอาคารชุด ควรเป็นแบบมาตรฐานสากล ซึ่งกรมที่ดิน สามารถดำเนินการเรื่องดังกล่าวได้ เพื่อป้องกันปัญหาและอุปสรรคจากการเอารัดเอาเปรียบระหว่างผู้จะซื้อกับผู้จะขายได้ในระดับหนึ่ง
“ส่วนพรบ.การจัดสรรที่ดินพ.ศ. 2543 พบว่า ไม่มีบทบัญญัติ หรือ ลักษณะต้องห้ามของบุคคลหรือนิติบุคคลในฐานะผู้จัดการนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร ทำให้เกิดปัญหาและอุปสรรคด้านการบริหารจัดการทรัพย์สิน และเป็นช่องโหว่ให้เกิดการทุจริตและการเอารัดเอาเปรียบระหว่างผู้จะซื้อกับ ผู้จะขายและผู้ที่เกี่ยวข้องได้เช่นเดียวกัน”
สำหรับกลยุทธ์การตลาดของบีจีเอ กรุ๊ปในครึ่งปีหลัง นายพิสิฐ กล่าวว่า จะเน้นราคาค่าบริการที่เหมาะสมสอดคล้องกับงบประมาณโครงการแต่ละโครงการ เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายให้แก่เจ้าของทรัพย์สินในสภาวะเศรษฐกิจไม่เอื้ออำนวย และตรวจสอบอุปกรณ์ทรัพย์สินและสาธารณูปโภคส่วนกลางให้ฟรี โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย อนึ่ง บีจีเอ กรุ๊ป ประกอบธุรกิจให้บริการด้านอสังหาฯนานกว่า 20 ปี มีโครงการที่เข้าไปรับผิดชอบกว่า 45 โครงการ รวมพื้นที่ 3.2 ล้านตร.ม.
นายพิสิฐ ชูประสิทธิ์ ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการ บีจีเอ กรุ๊ป เปิดเผยว่า จากสภาพเศรษฐกิจโดยรวมที่ถดถอยและชะลอตัวตั้งแต่ไตรมาสสุดท้ายของปี 2551 ส่งผลให้ธุรกิจรับบริหารจัดการทรัพย์สินประเภทคอนโดมิเนียม และหมู่บ้านจัดสรรลดลงกว่า 20 % จากเดิมตั้งเป้ารายได้เติบโตในปี 2552 จำนวนกว่า 3 ล้านบาทต่อปี
โดยผลสำรวจข้อมูลของสมาคมนักบริหารอาคารชุดและหมู่บ้านจัดสรรแห่งประเทศไทยพบว่ามีโครงการอาคารชุดและหมู่บ้านจัดสรรจำนวนกว่า 1,000 โครงการ ที่ว่าจ้างบริษัทรับบริหารการจัดการทรัพย์สินให้แก่เจ้าของทรัพย์สินคิดเป็น 10 % เท่านั้นโดยมีบริษัทรับบริหารจัดการทรัพย์สินที่จดทะเบียนกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ จำนวนกว่า 80 ราย และมีจำนวน 30 รายที่ขึ้นทะเบียนเป็นสมาชิกของสมาคมนักบริหารอาคารชุดและหมู่บ้านจัดสรรแห่งประเทศไทย
อย่างไรก็ตาม ข้อมูลจากการสำรวจพบเพิ่มเติมว่า ยังมีผู้ประกอบธุรกิจด้านการบริหารจัดการทรัพย์สิน ซึ่งเป็นกลุ่มทุนต่างชาติเข้ามาประกอบธุรกิจในประเทศและจดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายให้บริการแก่เจ้าของทรัพย์สินอีกอย่างน้อย 10 ราย
ซึ่งในส่วนของพระราชบัญญัติอาคารชุด(พ.ร.บ.) ยังมีประเด็นที่จะต้องแก้ไขเพิ่มเติมอีกหลายประเด็น เพื่อให้สอดคล้องกับเหตุการณ์ในปัจจุบัน และไม่เป็นปัญหาและอุปสรรคด้านการบริหารจัดการทรัพย์สินโดยเฉพาะบุคคลหรือ นิติบุคคลดำรงตำแหน่งทั้ง กรรมการ และ ผู้จัดการ ที่ควรสงวนสิทธิ์เฉพาะคนไทยเพียงอย่างเดียว ไม่ควรเปิดช่อง ให้บุคคลหรือนิติบุคคลต่างด้าว เข้ามามีบทบาทในวิชาชีพด้านการบริหารการจัดการทรัพย์สิน
ประกอบกับข้อบังคับของนิติบุคคลอาคารชุด ควรเป็นแบบมาตรฐานสากล ซึ่งกรมที่ดิน สามารถดำเนินการเรื่องดังกล่าวได้ เพื่อป้องกันปัญหาและอุปสรรคจากการเอารัดเอาเปรียบระหว่างผู้จะซื้อกับผู้จะขายได้ในระดับหนึ่ง
“ส่วนพรบ.การจัดสรรที่ดินพ.ศ. 2543 พบว่า ไม่มีบทบัญญัติ หรือ ลักษณะต้องห้ามของบุคคลหรือนิติบุคคลในฐานะผู้จัดการนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร ทำให้เกิดปัญหาและอุปสรรคด้านการบริหารจัดการทรัพย์สิน และเป็นช่องโหว่ให้เกิดการทุจริตและการเอารัดเอาเปรียบระหว่างผู้จะซื้อกับ ผู้จะขายและผู้ที่เกี่ยวข้องได้เช่นเดียวกัน”
สำหรับกลยุทธ์การตลาดของบีจีเอ กรุ๊ปในครึ่งปีหลัง นายพิสิฐ กล่าวว่า จะเน้นราคาค่าบริการที่เหมาะสมสอดคล้องกับงบประมาณโครงการแต่ละโครงการ เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายให้แก่เจ้าของทรัพย์สินในสภาวะเศรษฐกิจไม่เอื้ออำนวย และตรวจสอบอุปกรณ์ทรัพย์สินและสาธารณูปโภคส่วนกลางให้ฟรี โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย อนึ่ง บีจีเอ กรุ๊ป ประกอบธุรกิจให้บริการด้านอสังหาฯนานกว่า 20 ปี มีโครงการที่เข้าไปรับผิดชอบกว่า 45 โครงการ รวมพื้นที่ 3.2 ล้านตร.ม.
