xs
xsm
sm
md
lg

อวสานบ้านเอื้อฯ นช.แม้ว มาร์คสั่งเลิก 7 หมื่นหน่วย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายกรัฐมนตรีสั่งศึกษา ยกเลิกสร้างบ้านเอื้อฯ 7 หมื่นยูนิต หวั่น “การเคหะฯ” เสียค่าโง่ พร้อมตีกลับแผนการตลาด-แผนผ่อนปรนระเบียบบ้านเอื้ออาทร ขณะที่ “เสธ.หนั่น” ถามสร้างจริงหรือเปล่า หรือสร้างอยู่ในป่าในเขา รมว.คลัง หนักใจยอดหนี้บ้านเอื้อฯพุ่ง ส่วนครม.ไฟเขียวให้ขาย 2.1 แสนยูนิต จากขอมากว่า 4 แสนยูนิต เจียดเงินงบประมาณผูกพัน 4.7 พันล้านชดเชยดอกเบี้ยผู้รับเหมาตามมติ ครม.ชุดตราบาป

วานนี้ (30) การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีการพิจารณาประเด็นปัญหาของโครงการบ้านเอื้ออาทร แม้ว่าจะเป็นโครงการที่ส่งเสริมให้ผู้มีรายได้มีที่อยู่อาศัย แต่โครงการดังกล่าวกลับมีปัญหาจนสร้างความเสียหายให้แก่รัฐบาล ทั้งเรื่องการคอร์รัปชันของผู้ที่รับผิดชอบโครงการดังกล่าว มีการปั่นราคาที่ดิน และการสร้างตัวเลขของผู้ที่จะซื้อโครงการที่เกินความเป็นจริง (ดีมานด์เทียม) เพื่อให้เข้าหลักเกณฑ์ของการเคหะแห่งชาติ (กคช.) ส่งผลให้โคงการมีจำนวนหน่วยเหลือขายเพียบ และบางโครงการไปสร้างอยู่ห่างไกลความเจริญ จนกลายเป็นภาระให้แก่ผู้ซื้อ

นายวัชระ กรรณิกา รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ครม.เห็นชอบตามที่คณะกรรมการเฉพาะกิจ เพื่อพิจารณาดำเนินการแก้ไขปัญหาโครงการบ้านเอื้ออาทร ที่มี นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธาน ใน 2 มาตรการ จาก 8 มาตรการที่คณะกรรมการชุดนี้เสนอ ประกอบด้วย

1.มาตรการปรับลดหน่วยก่อสร้าง โดยเห็นชอบให้กคช.ปรับลดหน่วยก่อสร้างโครงการบ้านเอื้ออาทรจาก 4 แสนหน่วย ลดเหลือ 281,556 หน่วย (จากเดิมลดเหลือ 300,504 หน่วย) โดยให้เลือกดำเนินการเฉพาะพื้นที่ที่มีศักยภาพและมีความต้องการที่แท้จริง เพื่อ กคช.จะได้ไม่ต้องลงทุนในหน่วยที่ไม่สามารถขายได้ และไม่ต้องรับภาระดอกเบี้ยหลังจากก่อสร้างเสร็จของหน่วยที่ขายไม่ได้ ตลอดจนการลดภาระค่าใช้จ่ายในการบริหารชุมชนที่จะนำไปสู่การขาดสภาพคล่องทางการเงินของ กคช.

ทั้งนี้ นายสุชาติ ศิริโยธิพันธุ์ ผู้ว่าการ กคช.ได้ชี้แจงต่อ ครม.ว่า ขณะนี้การเคหะฯ สามารถที่จะจำหน่ายบ้านเอื้ออาทรได้จริงเพียง 210,000 หน่วย เพราะขั้นตอนการก่อสร้างมีความแตกต่างกัน บางโครงการสร้างได้เพียง 50%, 70% และ 90% ตามลำดับ

โดย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมตรี ได้มีความเห็นว่า หากขายได้เพียง 210,000 หน่วย ครม.คงจะเห็นชอบเพียงเท่านั้น ขณะที่อีก 70,000 หน่วย ให้ไปศึกษาดูว่า ถ้าจะก่อสร้างต่อไปจะคุ้มทุนหรือไม่ รวมทั้งให้พิจารณาจะขาดทุนอีกเท่าไร และหากจะยุติการสร้างบ้านเอื้ออาทรอีก 70,000 หน่วย จะขาดทุนเท่าไร และยังขอให้ไปเปรียบเทียบว่าหากสร้างเสร็จการเคหะฯจะต้องรับผิดชอบในด้านใดบ้าง

**ถมอีก 4.7 พันล.จ่ายดอกเบี้ยบ้านเอื้อฯ
นายวัชระ กล่าวว่า ครม.ยังเห็นชอบมาตรการด้านการเงิน โดยเห็นชอบในหลักการของการจัดสรรงบประมาณชดเชยภาระดอกเบี้ยเงินกู้ยืมให้แก่ กคช.จำนวน 4,792 ล้านบาท และเห็นชอบให้จัดสรรเงินชดเชยเฉพาะในงบประมาณปี 2552 จำนวน 3,587 ล้านบาท แบ่งเป็นค่าชดเชยดอกเบี้ยเงินกู้ยืมจากมติครม.ชุดก่อน เมื่อวันที่ 15 พ.ค.2550 และ 17 มิ.ย.2551 ที่ให้ขยายระยะเวลาก่อสร้างโครงการบ้านเอื้ออาทรให้ผู้รับเหมา จำนวน 1,818 ล้านบาท และค่าชดเชยดอกเบี้ยที่เกิดขึ้นจากการยกเลิกโครงการและปรับลดหน่วยก่อสร้าง 569 ล้านบาท และค่าชดเชยดอกเบี้ยที่เกิดขึ้นจากการดำเนินงานใน 6 เดือน หลังก่อสร้างเสร็จ 1,200 ล้านบาท

ขณะที่ส่วนที่เหลือจำนวน 1,204 ล้านบาท ให้ชดเชยกรณีที่ไม่สามารถแยกทรัพย์สินเอื้ออาทรออกจากบัญชีการเคหะฯ ได้แล้วเสร็จในปี 2553

นายวัชระ กล่าวอีกว่า สำหรับอีก 6 มาตรการมีการถกเถียงถึงปัญหาที่ว่า หากจะมีการขายยกโครงการจะสามารถขายให้แก่รัฐอย่างเดียว หรือขายให้แก่เอกชน โดยเฉพาะมาตรการราคาที่กคช.เสนอปรับปรุง หรือมีมาตรการจูงใจราคาที่ต่างกัน และมาตรการที่จะปรับปรุงจะต้องถึงที่สุดก่อน โดยการรับผิดชอบอาจจะต้องจัดตั้งบริษัทลูก หรือกองทุนรวมพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น

รายงานข่าวแจ้งว่า ก่อนหน้านั้น กคช.จะขอวงเงินสนับสนุนจากรัฐบาล 6,000 ล้านบาท เพื่อเป็นแผนฟื้นฟูและเสริมสภาพคล่องและชำระดอกเบี้ยคงค้างที่เกิดขึ้นจากครม.ชุดก่อน มีมติให้ขยายระยะเวลาก่อสร้างโครงการบ้านเอื้ออาทรให้ผู้รับเหมา 2 ครั้ง สิ่งที่ต้องดำเนินการเร่งด่วนให้แล้วเสร็จภายในสิ้นปีนี้ คือ ต้องหาเม็ดเงินเข้ามาเสริมสภาพคล่องให้ได้ก่อน 2,000 ล้านบาท เพื่อให้ผลการดำเนินงานของ กคช.ปีนี้ ไม่ขาดทุนติดต่อกันเป็นปีที่ 3 เพราะจะทำให้กระทรวงการคลังไม่สามารถค้ำประกันเงินกู้ให้ได้อีก

***นายกฯตีกลับแผนการตลาด-การขาย
แหล่งข่าวจากที่ประชุม ครม.แจ้งว่า 6 มาตรการที่นายกรัฐมนตรีขอให้ไปศึกษาใหม่อีกครั้ง ประกอบด้วย มาตรการด้านการตลาด ที่ กคช.เสนอขายโครงการในลักษณะยกอาคารหรือขายทั้งโครงการให้แก่หน่วยงานรัฐ รวมถึง อปท.โดยใช้เงื่อนไขที่ต้องดูแลจัดสรรที่อยู่อาศัยให้แก่ข้าราชการที่มีรายได้น้อย นำโครงการบ้านเอื้ออาทรไปหารือกับกระทรวงกลาโหมและสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่อยู่ระหว่างการจัดทำโครงการที่อยู่อาศัย และจัดทำแผนยุทธศาสตร์เชิงรุกเพื่อเพิ่มมูลค่าและสร้างแรงจูงใจ

มาตรการราคาที่ กคช.จะขอปรับราคาขายบ้านเอื้ออาทรตามทำเลและศักยภาพของโครงการ รวมทั้งปรับราคาความแตกต่างกันภายในโครงการเดียวกันให้เหมาะสมกับตลาด ทั้งนี้ ยังเสนอแนวทางการผ่อนผัน/ผ่อนปรนให้แก่ผู้มีรายได้น้อย ที่มีปัญหาการผ่อนชำระ หรือค้างชำระ โดยอาจเปลี่ยนการซื้อเป็นการเช่า หรือทำสัญญาในรูปแบบอื่นๆ ในกรณีที่ผู้ซื้อไม่ไดรับอนุมัติจากสถนบันการเงิน

มาตรการผ่อนปรนเงื่อนไขด้านกฎระเบียบที่กคช.มีอำนาจขายโครงการได้ โดยไม่จำกัดจำนวนหน่วยของผู้ซื้อแต่ละราย โดยมีเงื่อนไขให้ผู้ซื้อได้รับเงินอุดหนุนจากรัฐจำนวน 8 หมื่นบาทต่อหน่วย ขอยกเลิกการโอนจากเดิม 5 ปี โดยจะต้องคืนเงินอุดหนุนให้รัฐ มาตรการด้านพื้นฐานทั้งการแก้ปัญหาระยะยาว ทั้งการตั้งบริษัทลูก การจัดตั้งกองทุนรวมพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และองค์กรมหาชน เพื่อรับโอนธุรกรรมของโครงการ และให้จัดทำแผนแหล่งเงินสนับสนุนฉุกเฉิน หากไม่สามารถแก้ปัญหาโครงการให้เสร็จทันในปี 2552

**เสธ.หนั่นจวกสร้างบ้านในป่าขายไม่ออก
รายงานข่าวในที่ประชุม ครม.เปิดเผยว่า ระหว่างที่ผู้ว่าการกคช.ชี้แจงต่อครม.ถึงการปรับลดหน่วยสร้างบ้านเอื้อฯ 2.8 แสนหน่วย โดยในจำนวนดังกล่าวมีการจำหน่ายไปแล้ว 2.1 แสนหน่วย คงเหลือ 70,000 หน่วยที่กำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง ทำให้รัฐมนตรีหลายคนติดใจกับตัวเลขดังกล่าว

โดย พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี ถามว่า กคช.ว่า 7 หมื่นหน่วยที่ยังเหลืออยู่นั้น ก่อสร้างอยู่ที่ไหนบ้าง สร้างจริงไปเท่าไรแล้ว และที่เหลือสามารถยกเลิกได้หรือไม่ เพราะเท่าที่ทราบมีบ้านเอื้ออาทรหลายแห่งไปสร้างอยู่ในป่าในเขา ทำให้ขายไม่ได้

รายงานข่าวระบุอีกว่า ส่วน นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง ได้กล่าวว่า จากข้อมูลของธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) พบว่า มีผู้ที่กู้เงินไปซื้อบ้านเอื้ออาทรแล้วกลายเป็นหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ถึง 10% พร้อมกับถามกับผู้ว่าการการเคหะฯ ว่า ราคาขายใครเป็นผู้กำหนด ซึ่งผู้ว่าการฯระบุว่าคณะกรรมการการเคหะเป็นผู้กำหนดราคาขาย

ขณะที่ นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกฯ ได้ตั้งคำถามว่า กคช.ใช้หลักอะไรในการคำนวณเรื่องต้นทุนในการก่อสร้าง พร้อมทั้งติงกคช.ซึ่งมีหน้าที่ขายบ้านแต่กลับขายไม่ได้ ด้านตัวแทนกคช.ได้ชี้แจงว่า หลังจากนี้จะมีการตั้งราคาขายใหม่เพื่อให้ขายได้ง่ายขึ้น

“ครม.นี้ กำลังหาทางยุติโครงการบ้านเอื้ออาทร โดยที่รัฐเกิดความเสียหายน้อยที่สุด แต่ในที่ประชุมไม่ได้ พูดกันถึงว่าที่ต้องปิดฉากโครงการนี้ เพราะเป็นโครงการของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร (นช.แม้ว) แต่อย่างใด” แหล่งข่าวใน ครม.กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น