รมว.คลัง ยันเดินหน้าแผนแปรรูปตลาดหุ้น ยันไม่เกิน 2 เดือนได้เห็นรูปร่าง ส่วนการขึ้นค่าครองชีพ 2 พันบาท ให้กับ 2 รัฐวิสาหกิจ สั่งตีกลับต้นสังกัดดูให้รอบคอบขึ้น เพราะเกรงไม่เป็นธรรมกับรัฐวิสาหกิจอีก 55 แห่ง
นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงความคืบหน้าในการแปรรูปตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) โดยระบุว่า เรื่องนี้ตนเองได้มีการพูดคุยกันกับที่ประชุมของคณะกรรมการพัฒนาตลาดทุน มีข้อเสนอว่าการปรับโครงสร้างของตลาดหลักทรัพย์ เป็นเงื่อนไขสำคัญที่จะนำไปสู่การพัฒนาตลาดหลักทรัพย์ ตนแม้จะเป็นประธานคณะกรรมการฯ แต่ก็ไม่สามารถตัดสินใจได้เพียงผู้เดียว ต้องไปดูผลได้ผลเสีย
"ที่ผ่านมาจากการศึกษาพบว่าผลประโยชน์ที่จะได้ มีมากกว่าผลเสีย ในส่วนของรัฐบาลมีจุดยืนและเงื่อนไขสำคัญคือ เราไม่อยากโอนสถานการณ์มีอำนาจผูกขาดทางตลาดจากรัฐไปสู่ภาคเอกชน เหมือนการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ"
ทั้งนี้ คณะกรรมการจะมีการประชุมหารือในเรื่องนี้ ไม่เกิน 2 เดือนคงจะได้ข้อสรุป นอกจากเรื่องของตลาดหลักทรัพย์ ก็จะมีเรื่องตารางการเปิดเสรีค่าคอมมิชชั่นในส่วนของการซื้อขายหุ้นโดยโปรกเกอร์ (บริษัทหลักทรัพย์) และข้อเสนอแนะต่อการปฏิรูปตลาดทุนครั้งสำคัญ
เมื่อถามว่า รัฐวิสาหกิจจะขอเพิ่มค่าครองชีพเดือนละ 2,000 บาท รัฐบาลมีกรอบพิจารณาอย่างไร นายกรณ์กล่าวว่า ในที่ประชุม ครม. ได้พิจารณาโดยเห็นใจทุกฝ่าย แต่เราต้องพิจารณาเพื่อให้เกิดความยุติธรรมกับประชาชนทุกกลุ่ม ข้อเท็จจริงมี 2 หน่วยงานที่ขอให้ปรับ คือ การประปานครหลวง (กปน.) และการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) ซึ่งที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นว่า การที่จะให้ขึ้นค่าครองชีพรัฐวิสาหกิจเป็นบางหน่วยงาน อาจไม่ยุติธรรมกับอีก 55 รัฐวิสาหกิจ
ดังนั้น ถ้าจะพิจารณาก็ต้องพิจารณาให้ครบถ้วนทั้งหมด รวมถึงพิจารณารัฐวิสาหกิจที่มีกำไรและขาดทุน ซึ่งรัฐวิสาหกิจที่มีกำไรอาจไมมีเหตุผลที่ดีพอ จึงมอบให้แต่ละหน่วยงานกลับไปพิจารณาว่า จะช่วยเหลืออย่างไรไม่ให้เป็นภาระกับงบประมาณมากเกินไป และยุติธรรมกับทุกองค์กร