กรมส่งเสริมการส่งออก เผย ไข้หวัดใหญ่ 2009 ไม่กระทบจัดงานแฟร์ใหญ่ในประเทศ มั่นใจคนร่วมงานคึกคัก ส่วนการส่งออกครึ่งปีหลัง เริ่มเห็นสัญญาณดีขึ้น หลังราคาน้ำมัน ตลาดหุ้นดีดตัวสูง สะท้อนตลาดมีกิจกรรมทางเศรษฐกิจ
นายราเชนทร์ พจนสุนทร อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก เปิดเผยว่า สถานการณ์ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ที่มีผู้ติดเชื้อในประเทศไทยหลายรายนั้นจะไม่กระทบต่อการจัดงานแสดงสินค้าที่กำลังจะมีขึ้น แม้จะมีความเป็นห่วงของนักธุรกิจบางกลุ่มที่อาจไม่ต้องการเดินทางมายังประเทศกลุ่มเสี่ยง แต่หากการจัดงานสามารถสร้างความมั่นใจและมีมาตรการดูแลอย่างถูกต้อง เข้มงวด และมีการอำนวยความสะดวกให้กับผู้ซื้อที่จะมาร่วมงานได้เพียงพอ เชื่อว่า จะทำให้ปัญหาความกังวลดังกล่าวหมดไป
ทั้งนี้ ทางกรมมีแผนจะจัดงานแสดงสินค้าระดับนานาชาติในช่วงนี้จำนวน 3 งาน ได้แก่ งานแสดงสินค้าเมดอินไทยแลนด์ งานแสดงสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับ (บางกอกเจมส์) และงานแสดงสินค้าของขวัญของชำร่วย (BIG&BIH) ซึ่งผลจากการหารือกับเอกชนที่ร่วมจัดงานได้เสนอแผนสร้างความมั่นใจให้กับผู้ซื้อต่างประเทศ ทั้งความปลอดภัยสาธารณะสุข การอำนวยความสะดวกในการเดินทางมาร่วมงานและการพักอยู่ในประเทศไทย เพื่อดึงดูดให้ผู้ซื้อต่างประเทศยืนยันการร่วมงานเหมือนเช่นทุกปี
“จริงๆ แล้วตัวไข้หวัดใหญ่นี้ วงการแพทย์บอกว่า ไม่อันตรายอะไร ผู้เสียชีวิตก็มีจำนวนน้อยมากส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ และการระบาดดังกล่าวผู้ติดเชื้อก็หายเอง แต่เพื่อให้เกิดความมั่นใจ ก็จะต้องนำเสนอแผนดูแลผู้มาร่วมงานที่ชัดเจน ซึ่งยอมรับว่าผู้ซื้อจากบางประเทศ เช่น ญี่ปุ่น อาจกังวลในเรื่องนี้อยู่บ้าง” นายราเชนทร์ กล่าว
นายราเชนทร์ กล่าวว่า สำหรับทิศทางการส่งออกในช่วงครึ่งปีหลัง ขณะนี้ยังไม่ได้ประเมินสถานการณ์แต่ได้สั่งการให้ทูตพาณิชย์รวมรวมข้อมูลและนำเสนอมายังกรม กำหนดให้นำข้อมูลจากวงการค้าและภาวะเศรษฐกิจโดยรวมแต่ละประเทศมาวิเคราะห์ร่วมกัน ซึ่งกรม พร้อมจะปรับแผนกิจกรรมส่งเสริมการส่งออก และกลยุทธ์การผลักดันการส่งออกให้เหมาะสมกับสถานการณ์ในขณะนั้น เช่น หากเศรษฐกิจสหรัฐฯ ฟื้น ก็อาจต้องระดมกิจกรรมไปยังตลาดดังกล่าวเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่า สถานการณ์เศรษฐกิจโลกขณะนี้ยังไม่นิ่ง การจะปรับแผนใดๆ ต้องดำเนินการอย่างรอบคอบ
“เบื้องต้นกรมประเมินว่า เศรษฐกิจโลกเริ่มส่งสัญญาณที่ดี วิเคราะห์จากราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นเฉลี่ย 70 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล และทิศทางตลาดหลักทรัพย์ที่หลายประเทศเริ่มมีทิศทางเพิ่มขึ้น สะท้อนว่า มีกิจกรรมทางเศรษฐกิจ มีการใช้จ่ายของผู้บริโภคเพิ่มขึ้นแล้ว แต่การส่งออกจะถึงจุดต่ำสุดแล้วหรือยัง คงตอบไม่ได้ในขณะนี้ แต่กรมเห็นว่ามาตรการกระตุ้นการส่งออกยังคงต้องดำเนินการต่อไป ทั้ง บายเออร์เครดิต และการคืนภาษีมุมน้ำเงิน ซึ่งล่าสุด ได้นำเสนอให้ นางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ พิจารณาแล้ว” นายราเชนทร์ กล่าว
นายราเชนทร์ พจนสุนทร อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก เปิดเผยว่า สถานการณ์ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ที่มีผู้ติดเชื้อในประเทศไทยหลายรายนั้นจะไม่กระทบต่อการจัดงานแสดงสินค้าที่กำลังจะมีขึ้น แม้จะมีความเป็นห่วงของนักธุรกิจบางกลุ่มที่อาจไม่ต้องการเดินทางมายังประเทศกลุ่มเสี่ยง แต่หากการจัดงานสามารถสร้างความมั่นใจและมีมาตรการดูแลอย่างถูกต้อง เข้มงวด และมีการอำนวยความสะดวกให้กับผู้ซื้อที่จะมาร่วมงานได้เพียงพอ เชื่อว่า จะทำให้ปัญหาความกังวลดังกล่าวหมดไป
ทั้งนี้ ทางกรมมีแผนจะจัดงานแสดงสินค้าระดับนานาชาติในช่วงนี้จำนวน 3 งาน ได้แก่ งานแสดงสินค้าเมดอินไทยแลนด์ งานแสดงสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับ (บางกอกเจมส์) และงานแสดงสินค้าของขวัญของชำร่วย (BIG&BIH) ซึ่งผลจากการหารือกับเอกชนที่ร่วมจัดงานได้เสนอแผนสร้างความมั่นใจให้กับผู้ซื้อต่างประเทศ ทั้งความปลอดภัยสาธารณะสุข การอำนวยความสะดวกในการเดินทางมาร่วมงานและการพักอยู่ในประเทศไทย เพื่อดึงดูดให้ผู้ซื้อต่างประเทศยืนยันการร่วมงานเหมือนเช่นทุกปี
“จริงๆ แล้วตัวไข้หวัดใหญ่นี้ วงการแพทย์บอกว่า ไม่อันตรายอะไร ผู้เสียชีวิตก็มีจำนวนน้อยมากส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ และการระบาดดังกล่าวผู้ติดเชื้อก็หายเอง แต่เพื่อให้เกิดความมั่นใจ ก็จะต้องนำเสนอแผนดูแลผู้มาร่วมงานที่ชัดเจน ซึ่งยอมรับว่าผู้ซื้อจากบางประเทศ เช่น ญี่ปุ่น อาจกังวลในเรื่องนี้อยู่บ้าง” นายราเชนทร์ กล่าว
นายราเชนทร์ กล่าวว่า สำหรับทิศทางการส่งออกในช่วงครึ่งปีหลัง ขณะนี้ยังไม่ได้ประเมินสถานการณ์แต่ได้สั่งการให้ทูตพาณิชย์รวมรวมข้อมูลและนำเสนอมายังกรม กำหนดให้นำข้อมูลจากวงการค้าและภาวะเศรษฐกิจโดยรวมแต่ละประเทศมาวิเคราะห์ร่วมกัน ซึ่งกรม พร้อมจะปรับแผนกิจกรรมส่งเสริมการส่งออก และกลยุทธ์การผลักดันการส่งออกให้เหมาะสมกับสถานการณ์ในขณะนั้น เช่น หากเศรษฐกิจสหรัฐฯ ฟื้น ก็อาจต้องระดมกิจกรรมไปยังตลาดดังกล่าวเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่า สถานการณ์เศรษฐกิจโลกขณะนี้ยังไม่นิ่ง การจะปรับแผนใดๆ ต้องดำเนินการอย่างรอบคอบ
“เบื้องต้นกรมประเมินว่า เศรษฐกิจโลกเริ่มส่งสัญญาณที่ดี วิเคราะห์จากราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นเฉลี่ย 70 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล และทิศทางตลาดหลักทรัพย์ที่หลายประเทศเริ่มมีทิศทางเพิ่มขึ้น สะท้อนว่า มีกิจกรรมทางเศรษฐกิจ มีการใช้จ่ายของผู้บริโภคเพิ่มขึ้นแล้ว แต่การส่งออกจะถึงจุดต่ำสุดแล้วหรือยัง คงตอบไม่ได้ในขณะนี้ แต่กรมเห็นว่ามาตรการกระตุ้นการส่งออกยังคงต้องดำเนินการต่อไป ทั้ง บายเออร์เครดิต และการคืนภาษีมุมน้ำเงิน ซึ่งล่าสุด ได้นำเสนอให้ นางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ พิจารณาแล้ว” นายราเชนทร์ กล่าว
