นักวิเคราะห์มองความต้องการใช้พลังงานมีสูง หลังมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเริ่มได้ผล โดยเฉพาะแผนลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน ของกลุ่มประเทศเกิดใหม่ ล่าสุด "บลจ.กรุงไทย" จับจังหวะเหมาะ คลอดกองทุน"เคแทม เวิลด์ เอ็นเนอร์จี ฟันด์" ลงทุนหุ้นพลังงานทั่วโลก ผ่านกองทุน "BGF World Energy Fund" ผู้จัดการกองทุนชี้ โอกาสทำกำไร 2 เด้ง ทั้งจากราคาน้ำมัน พร้อมลุ้นกำไรหุ้นพลังงานด้วย
มิสเเจสลิม รองผู้อำนวยการสายบุคคลธนกิจ ธนาคารซิตี้เเบงก์ กล่าวว่า นักลงทุนทั่วโลกเริ่มกลับเข้ามาลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงมากขึ้น ส่งผลให้ตลาดหุ้นปรับตัวสูงขึ้น หลังจากถือเงินสดไว้หรือลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ เนื่องจากยังมีความกังวลเรื่องภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ทั้งนี้ ที่ผ่านมารัฐบาลหลายๆประเทศพยายามใช้นโยบายต่างๆเพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะการให้เกิดการบริโภคภายในประเทศ เเละการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ซึ่งเรามองว่าตลาดหุ้นในสหรัฐฯกำลังจะเข้าสู่ช่วงของการพักและสร้างฐาน ซึ่งการปรับตัวลงในช่วงหน้าร้อนของประเทศสหรัฐฯ (เดือนมิถุนายน-สิงหาคม) น่าจะเป็นโอกาสที่ดีในการลงทุน
ทั้งนี้ หากรวมทั่วโลกเเล้ว พบว่ามีงบการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานโดยรวมเฉลี่ยถึงปีละ 2 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ ทุกๆปีจนถึงปี 2558 และมากกว่าครึ่งของงบการลงทุนจะอยู่ในกลุ่มประเทศเกิดใหม่ ดังนั้น การเติบโตทางเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศเกิดใหม่ทำให้มีความต้องการใช้น้ำมันมากขึ้น และทำให้เกิดปัญหาคอขวดในโครงสร้างพื้นฐานของธุรกิจน้ำมัน ดังนั้นเราคาดว่าจะมีเม็ดเงินของบริษัทน้ำมันใหญ่และบริษัทน้ำมันแห่งชาติเข้ามาลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของธุรกิจน้ำมัน
"ความต้องการพลังงานของโลกมีอยู่เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะน้ำมัน ถ่านหิน เเละก๊าซธรรมชาติ เเต่ความสามารถในการผลิตนั้นมีค่อนข้างน้อย ซึ่งในช่วงหลายปีที่ผ่านมาการผลิตเเละการสำรวจหาเเหล่งผลิตพลังงานนั้นมีน้อยมาก เรามองว่าเมื่อเศรษฐกิจโลกเริ่มฟื้นตัวขึ้น เเน่นนอนว่าความต้องการพลังงานก็จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย "มิสเเจสลิม กล่าว
นายสมชัย บุญนำศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTAM กล่าวว่า เราเห็นโอกาสที่เศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลงนั้นเริ่มมีโอกาสฟื้นตัวขึ้นซึ่งตัวเลขบ่งชี้ทางเศรษฐกิจหลายๆประเทศก็เริ่มปรับตัวดีขึ้น ดังนั้น บลจ.จึงเห็นโอกาสที่ดีในการลงทุนในหุ้นพลังงานจึงเปิดขายหน่วยลงทุนของกองทุนเปิดเคแทม เวิลด์ เอ็นเนอร์จี ฟันด์ ( KTAM World Energy Fund : KT-Energy) ที่มีมูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาทโดยกองทุน KT-Energy เป็นกองทุนที่ลงทุนไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิในกองทุนรวมหลัก BGF World Energy Fund บริหารโดย BlackRock หนึ่งในบริษัทจัดการลงทุนที่ใหญ่ที่สุดในโลก ปัจจุบัน BGFWorld Energy Fund มีขนาดกองทุนประมาณ 91,000 ล้านบาท (ข้อมูล ณ สิ้นเดือน เมษายน 2552)
นอกจากนี้ กองทุนยังได้รับการจัดอันดับ AA ทั้งจาก S&P และบริษัทชั้นนำด้านกองทุนรวมของอังกฤษอย่าง Old Board Street Research Fund Ratings Service (OBSR) กองทุนรวมหลักจะลงทุนในตราสารทุนของบริษัททั่วโลกที่ประกอบธุรกิจด้านการสำรวจ พัฒนาผลิต และจัดจำหน่ายพลังงาน ซึ่งรวมถึงพลังงานทางเลือก ทั้งนี้ ผู้จัดการกองทุนรวมหลักสามารถหาโอกาสการลงทุนในกลุ่มพลังงาน ได้ตามความต้องการโดยไม่ถูกจำกัดด้วยมูลค่าตลาด ภูมิศาสตร์ และรูปแบบการลงทุน โดยกองทุนดังกล่าวจะเปิดขายหน่วยลงทุนตั้งเเต่วันนี้ถึง30 มิถุนายน 2552 นี้
ทั้งนี้ กองทุน BGF World Energy บริหารโดย นาย Robin Batchelor ซึ่งได้รับการยกย่องให้เป็น1 ใน 20 ผู้จัดการกองทุนที่ยอดเยี่ยมที่สุดในโลก ที่จัดอันดับโดย Forbes Magazine ในปี 2544 และยังมีทีมงานด้านทรัพยากรธรรมชาติที่มีประสบการณ์ทั้งด้านการเงินและธรณีวิทยาเป็นที่ยอมรับอย่างสูงในระดับโลก โดยมีทรัพย์สินภายใต้การจัดการเฉพาะที่เกี่ยวเนื่องกับทรัพยากรธรรมชาติสูงถึง 600,000 ล้านบาท
ขณะเดียวันการลงทุนในกองทุนดังกล่าว เปิดโอกาสให้นักลงทุนรับผลตอบแทนจากทั้งราคาหุ้นพลังงานชั้นนำซึ่งขึ้นอยู่กับผลประกอบการ และการขยายตัวของบริษัท และการปรับขึ้นของราคาพลังงานในหนึ่งเดียวโดยจากข้อมูลในอดีต พบว่าเมื่อราคาพลังงานเพิ่มขึ้น หุ้นในกลุ่มพลังงานมักเพิ่มขึ้นในทิศทางเดียวกัน และมีแนวโน้มปรับตัวสูงกว่าเมื่อตลาดหุ้นโดยรวมปรับตัวเพิ่มขึ้น เชื่อว่ากองทุนจะได้รับประโยชน์จากทีมงานผู้จัดการกองทุน ที่แข็งแกร่งของ BlackRock ศักยภาพที่โดดเด่นของบริษัทด้านพลังงานที่กองทุนหลักลงทุน รวมถึงแนวโน้มความต้องการใช้พลังงานที่ยังคงมีอยู่สูงเมื่อเทียบกับปริมาณผลิตในระยะยาวปัจจุบันจะเห็นได้ว่ามูลค่าหลักทรัพย์ในกลุ่มพลังงาน ได้ปรับตัวลดลงมาอย่างมาก เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
นายสุทยุต เชื้อพานิช ผู้จัดการฝ่ายลงทุน-ตราสารทุน บลจ.กรุงไทย กล่าวว่า กองทุน KT-Energy เป็นกองทุนที่ไปลงทุนในหุ้นพลังงาน ไม่ได้ไปลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบในตลาดโลกแต่ประการใด ดังนั้น กองทุนจะไม่ได้รับผลกระทบจากการที่ราคาของสัญญาล่วงหน้าในตลาดโลกปรับตัวลดลง นอกจากนี้ ในขณะที่ราคาน้ำมันในตลาดโลกเคลื่อนไหวในลักษณะไซด์เวย์ คือราคาน้ำมันไม่ไปไหน บริษัทพลังงานที่กองทุนเข้าไปลงทุนก็ยังมีศักยภาพ ในการทำกำไรอย่างต่อเนื่อง เช่น การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต เป็นต้น ไม่เพียงเท่านี้ บริษัทพลังงานระดับโลกที่กองทุน KT-Energy เข้าไปลงทุนผ่านกองทุนหลักนั้น ยังเป็นบริษัทที่มีฐานะการเงินแข็งแกร่ง มีกระแสเงินสดดี จึงทำให้มีศักยภาพในการที่จะเข้าซื้อกิจการของบริษัทเกี่ยวกับพลังงานอื่นที่อาจจะประสบปัญหาการเงินจากช่วงวิกฤติการเงินที่ผ่านมาซึ่งถือเป็นมูลค่าเพิ่มที่แฝงอยู่ในตัวบริษัทพลังงานเหล่านี้ด้วย
"กองทุน KT-Energy ลงทุนในหุ้นของบริษัทเกี่ยวกับพลังงานไม่เฉพาะน้ำมัน แต่รวมถึงก๊าซธรรมชาติ ถ่านหินและพลังงานทดแทนอีกด้วย จากการที่รัฐบาลทั่วโลกได้อัดฉีดเม็ดเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจเป็นมูลค่ากว่า 2.6 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ คิดเป็น 3.8% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมของโลก ไม่เพียงจะเป็นการช่วยเพิ่มกำลังซื้อของผู้บริโภคเท่านั้น แต่ในระยะกลางถึงยาวอาจจะทำให้มีปัญหาเงินเฟ้อติดตามมาดังนั้นการลงทุนในสินค้าโภคภัณฑ์นึ่งในนั้นก้คือพลังงานจึงมีศักยภาพในการช่วยป้องกันความเสี่ยงในเรื่องของเงินเฟ้อได้เป็นอย่างดี”นายสุทยุต กล่าว
สำหรับนโยบายของกองทุนเปิดเคแทม เวิลด์ เอ็นเนอร์จี ฟันด์ เป็นกองทุนที่เน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน BGF World Energy Fund (กองทุนรวมหลัก) ซึ่งเป็นกองทุนรวมเพื่อผู้ลงทุนทั่วไป (retail fund) เพียงกองทุนเดียว โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ส่วนที่เหลืออาจจะลงทุนในตราสารเเห่งหนี้ที่มีลักษณะคล้ายเงินฝาก หรือตราสารเเห่งหนี้ทั่วไป หรืองเงินฝากในสถาบันการเงินตามกฏหมายไทย ที่มีอายุของตราสารหรือสัญญา หรือระยะเวลาการฝากเงิน เเล้วเเต่กรณีต่ำกว่า 1 ปี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสำรองเงินไว้สำหรับดำเนินงานของกองทุน รอการลงทุนในต่างประเทศ หรือรักษาสภพาพคล่องของกองทุนหรือเพื่อชำระค่าใช้จ่ายของกองทุน รวมทั้งลงทุนในหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินอื่น หรือการหาดอกผลโดยวิธีอื่นตามที่คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์เเละตลาดหลักทรัพย์ประกาศกำหนด
มิสเเจสลิม รองผู้อำนวยการสายบุคคลธนกิจ ธนาคารซิตี้เเบงก์ กล่าวว่า นักลงทุนทั่วโลกเริ่มกลับเข้ามาลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงมากขึ้น ส่งผลให้ตลาดหุ้นปรับตัวสูงขึ้น หลังจากถือเงินสดไว้หรือลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ เนื่องจากยังมีความกังวลเรื่องภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ทั้งนี้ ที่ผ่านมารัฐบาลหลายๆประเทศพยายามใช้นโยบายต่างๆเพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะการให้เกิดการบริโภคภายในประเทศ เเละการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ซึ่งเรามองว่าตลาดหุ้นในสหรัฐฯกำลังจะเข้าสู่ช่วงของการพักและสร้างฐาน ซึ่งการปรับตัวลงในช่วงหน้าร้อนของประเทศสหรัฐฯ (เดือนมิถุนายน-สิงหาคม) น่าจะเป็นโอกาสที่ดีในการลงทุน
ทั้งนี้ หากรวมทั่วโลกเเล้ว พบว่ามีงบการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานโดยรวมเฉลี่ยถึงปีละ 2 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ ทุกๆปีจนถึงปี 2558 และมากกว่าครึ่งของงบการลงทุนจะอยู่ในกลุ่มประเทศเกิดใหม่ ดังนั้น การเติบโตทางเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศเกิดใหม่ทำให้มีความต้องการใช้น้ำมันมากขึ้น และทำให้เกิดปัญหาคอขวดในโครงสร้างพื้นฐานของธุรกิจน้ำมัน ดังนั้นเราคาดว่าจะมีเม็ดเงินของบริษัทน้ำมันใหญ่และบริษัทน้ำมันแห่งชาติเข้ามาลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของธุรกิจน้ำมัน
"ความต้องการพลังงานของโลกมีอยู่เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะน้ำมัน ถ่านหิน เเละก๊าซธรรมชาติ เเต่ความสามารถในการผลิตนั้นมีค่อนข้างน้อย ซึ่งในช่วงหลายปีที่ผ่านมาการผลิตเเละการสำรวจหาเเหล่งผลิตพลังงานนั้นมีน้อยมาก เรามองว่าเมื่อเศรษฐกิจโลกเริ่มฟื้นตัวขึ้น เเน่นนอนว่าความต้องการพลังงานก็จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย "มิสเเจสลิม กล่าว
นายสมชัย บุญนำศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTAM กล่าวว่า เราเห็นโอกาสที่เศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลงนั้นเริ่มมีโอกาสฟื้นตัวขึ้นซึ่งตัวเลขบ่งชี้ทางเศรษฐกิจหลายๆประเทศก็เริ่มปรับตัวดีขึ้น ดังนั้น บลจ.จึงเห็นโอกาสที่ดีในการลงทุนในหุ้นพลังงานจึงเปิดขายหน่วยลงทุนของกองทุนเปิดเคแทม เวิลด์ เอ็นเนอร์จี ฟันด์ ( KTAM World Energy Fund : KT-Energy) ที่มีมูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาทโดยกองทุน KT-Energy เป็นกองทุนที่ลงทุนไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิในกองทุนรวมหลัก BGF World Energy Fund บริหารโดย BlackRock หนึ่งในบริษัทจัดการลงทุนที่ใหญ่ที่สุดในโลก ปัจจุบัน BGFWorld Energy Fund มีขนาดกองทุนประมาณ 91,000 ล้านบาท (ข้อมูล ณ สิ้นเดือน เมษายน 2552)
นอกจากนี้ กองทุนยังได้รับการจัดอันดับ AA ทั้งจาก S&P และบริษัทชั้นนำด้านกองทุนรวมของอังกฤษอย่าง Old Board Street Research Fund Ratings Service (OBSR) กองทุนรวมหลักจะลงทุนในตราสารทุนของบริษัททั่วโลกที่ประกอบธุรกิจด้านการสำรวจ พัฒนาผลิต และจัดจำหน่ายพลังงาน ซึ่งรวมถึงพลังงานทางเลือก ทั้งนี้ ผู้จัดการกองทุนรวมหลักสามารถหาโอกาสการลงทุนในกลุ่มพลังงาน ได้ตามความต้องการโดยไม่ถูกจำกัดด้วยมูลค่าตลาด ภูมิศาสตร์ และรูปแบบการลงทุน โดยกองทุนดังกล่าวจะเปิดขายหน่วยลงทุนตั้งเเต่วันนี้ถึง30 มิถุนายน 2552 นี้
ทั้งนี้ กองทุน BGF World Energy บริหารโดย นาย Robin Batchelor ซึ่งได้รับการยกย่องให้เป็น1 ใน 20 ผู้จัดการกองทุนที่ยอดเยี่ยมที่สุดในโลก ที่จัดอันดับโดย Forbes Magazine ในปี 2544 และยังมีทีมงานด้านทรัพยากรธรรมชาติที่มีประสบการณ์ทั้งด้านการเงินและธรณีวิทยาเป็นที่ยอมรับอย่างสูงในระดับโลก โดยมีทรัพย์สินภายใต้การจัดการเฉพาะที่เกี่ยวเนื่องกับทรัพยากรธรรมชาติสูงถึง 600,000 ล้านบาท
ขณะเดียวันการลงทุนในกองทุนดังกล่าว เปิดโอกาสให้นักลงทุนรับผลตอบแทนจากทั้งราคาหุ้นพลังงานชั้นนำซึ่งขึ้นอยู่กับผลประกอบการ และการขยายตัวของบริษัท และการปรับขึ้นของราคาพลังงานในหนึ่งเดียวโดยจากข้อมูลในอดีต พบว่าเมื่อราคาพลังงานเพิ่มขึ้น หุ้นในกลุ่มพลังงานมักเพิ่มขึ้นในทิศทางเดียวกัน และมีแนวโน้มปรับตัวสูงกว่าเมื่อตลาดหุ้นโดยรวมปรับตัวเพิ่มขึ้น เชื่อว่ากองทุนจะได้รับประโยชน์จากทีมงานผู้จัดการกองทุน ที่แข็งแกร่งของ BlackRock ศักยภาพที่โดดเด่นของบริษัทด้านพลังงานที่กองทุนหลักลงทุน รวมถึงแนวโน้มความต้องการใช้พลังงานที่ยังคงมีอยู่สูงเมื่อเทียบกับปริมาณผลิตในระยะยาวปัจจุบันจะเห็นได้ว่ามูลค่าหลักทรัพย์ในกลุ่มพลังงาน ได้ปรับตัวลดลงมาอย่างมาก เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
นายสุทยุต เชื้อพานิช ผู้จัดการฝ่ายลงทุน-ตราสารทุน บลจ.กรุงไทย กล่าวว่า กองทุน KT-Energy เป็นกองทุนที่ไปลงทุนในหุ้นพลังงาน ไม่ได้ไปลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบในตลาดโลกแต่ประการใด ดังนั้น กองทุนจะไม่ได้รับผลกระทบจากการที่ราคาของสัญญาล่วงหน้าในตลาดโลกปรับตัวลดลง นอกจากนี้ ในขณะที่ราคาน้ำมันในตลาดโลกเคลื่อนไหวในลักษณะไซด์เวย์ คือราคาน้ำมันไม่ไปไหน บริษัทพลังงานที่กองทุนเข้าไปลงทุนก็ยังมีศักยภาพ ในการทำกำไรอย่างต่อเนื่อง เช่น การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต เป็นต้น ไม่เพียงเท่านี้ บริษัทพลังงานระดับโลกที่กองทุน KT-Energy เข้าไปลงทุนผ่านกองทุนหลักนั้น ยังเป็นบริษัทที่มีฐานะการเงินแข็งแกร่ง มีกระแสเงินสดดี จึงทำให้มีศักยภาพในการที่จะเข้าซื้อกิจการของบริษัทเกี่ยวกับพลังงานอื่นที่อาจจะประสบปัญหาการเงินจากช่วงวิกฤติการเงินที่ผ่านมาซึ่งถือเป็นมูลค่าเพิ่มที่แฝงอยู่ในตัวบริษัทพลังงานเหล่านี้ด้วย
"กองทุน KT-Energy ลงทุนในหุ้นของบริษัทเกี่ยวกับพลังงานไม่เฉพาะน้ำมัน แต่รวมถึงก๊าซธรรมชาติ ถ่านหินและพลังงานทดแทนอีกด้วย จากการที่รัฐบาลทั่วโลกได้อัดฉีดเม็ดเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจเป็นมูลค่ากว่า 2.6 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ คิดเป็น 3.8% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมของโลก ไม่เพียงจะเป็นการช่วยเพิ่มกำลังซื้อของผู้บริโภคเท่านั้น แต่ในระยะกลางถึงยาวอาจจะทำให้มีปัญหาเงินเฟ้อติดตามมาดังนั้นการลงทุนในสินค้าโภคภัณฑ์นึ่งในนั้นก้คือพลังงานจึงมีศักยภาพในการช่วยป้องกันความเสี่ยงในเรื่องของเงินเฟ้อได้เป็นอย่างดี”นายสุทยุต กล่าว
สำหรับนโยบายของกองทุนเปิดเคแทม เวิลด์ เอ็นเนอร์จี ฟันด์ เป็นกองทุนที่เน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน BGF World Energy Fund (กองทุนรวมหลัก) ซึ่งเป็นกองทุนรวมเพื่อผู้ลงทุนทั่วไป (retail fund) เพียงกองทุนเดียว โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ส่วนที่เหลืออาจจะลงทุนในตราสารเเห่งหนี้ที่มีลักษณะคล้ายเงินฝาก หรือตราสารเเห่งหนี้ทั่วไป หรืองเงินฝากในสถาบันการเงินตามกฏหมายไทย ที่มีอายุของตราสารหรือสัญญา หรือระยะเวลาการฝากเงิน เเล้วเเต่กรณีต่ำกว่า 1 ปี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสำรองเงินไว้สำหรับดำเนินงานของกองทุน รอการลงทุนในต่างประเทศ หรือรักษาสภพาพคล่องของกองทุนหรือเพื่อชำระค่าใช้จ่ายของกองทุน รวมทั้งลงทุนในหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินอื่น หรือการหาดอกผลโดยวิธีอื่นตามที่คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์เเละตลาดหลักทรัพย์ประกาศกำหนด
