สคร.เผยรายได้ รสก.นำส่งรัฐบาล เดือน พ.ค.52 จำนวน 14,710.14 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการไว้ 4,033.37 ล้านบาท จากเป้า 10,676.77 ล้านบาท ส่วนในระยะเวลา 8 เดือน มีรายได้นำส่งสะสม เป็นจำนวนเงิน 56,523.84 ล้านบาท จากเป้าที่ตั้งไว้ 93,000 ล้านบาท
นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เปิดเผยถึงผลการนำส่งรายได้รัฐวิสาหกิจประจำเดือนพฤษภาคม 2552 โดยระบุว่า รัฐวิสาหกิจสามารถนำส่งรายได้เข้ารัฐเป็นจำนวน 14,710.14 ล้านบาท จากเป้าที่ตั้งไว้ใน จำนวน 10,676.77 ล้านบาท ซึ่งแยกตามรายสาขา อาทิ สาขาการสื่อสาร 6,742.91 ล้านบาท (เป็นเงินนำส่งรายได้จาก บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) 3,217.20 ล้านบาท บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด(มหาชน) 3,141.40 ล้านบาท และบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) 384.31 ล้านบาท สาขาพลังงาน 5,470 ล้านบาท (เป็นเงินนำส่งรายได้จากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย 5,000 ล้านบาท และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค 470 ล้านบาท ) สาขาสถาบันการเงิน 1,276.82 ล้านบาท (เป็นเงินนำส่งรายได้จากธนาคารอาคารสงเคราะห์ 1,276.82 ล้านบาท) สาขาพาณิชย์และบริการ 1,805.97 ล้านบาท (เป็นเงินนำส่งรายได้จากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลจากการจำหน่ายสลาก 1,030.40 ล้านบาท และจากเงินรางวัลที่ไม่มีผู้ที่มาขอรับ และดอกเบี้ย 19.96 ล้านบาท สำนักงานธนานุเคราะห์ กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ 65.61 ล้านบาท)
นอกจากนี้ ยังมีรายได้จากกิจการที่กระทรวงการคลัง ถือหุ้นต่ำกว่าร้อยละ 50 จำนวน 104.44 ล้านบาท (เป็นเงินนำส่งรายได้จาก บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) 62.47 ล้านบาท บริษัท ผาแดงอินดัสทรี จำกัด 25.58 ล้านบาท บริษัท หลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็มเอฟซี จำกัด 14 ล้านบาท บริษัท บางพระกอล์ฟอินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด 1 ล้านบาท บริษัท ไทยเรตติ้งแอนด์อินฟอร์เมชั่น เซอรวิส จำกัด 0.75 ล้านบาท และ ธนาคาร ทิสโก้ จำกัด (มหาชน) 0.64 ล้านบาท
นายอารีพงศ์ กล่าวว่า รัฐวิสาหกิจที่สามารถนำส่งรายได้เข้ารัฐ 5 อันดับแรกของเดือนพฤษภาคม 2552 ได้แก่ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) 5,000 ล้านบาท บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) 3,217.20 ล้านบาท บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) 3,141.40 ล้านบาท สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล 1,050.36 ล้านบาท และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) 470 ล้านบาท
“ทั้งนี้ ตั้งแต่ต้นปีงบประมาณจนถึงปัจจุบัน (ตุลาคม 2551-พฤษภาคม 2552) รัฐวิสาหกิจสามารถนำส่งเงินรายได้เข้าคลังทั้งสิ้น 56,523.84 ล้านบาท จากเป้าที่ตั้งไว้ในปี 2552 ซึ่งคาดว่าจะนำส่งเงินเข้าคลังได้ใกล้เคียงกับเป้าที่ตั้งไว้”
โดยก่อนหน้านี้ นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า การเก็บรายได้ของรัฐบาลในเดือนพฤษภาคม 2552 มีสัญญาณที่ดีขึ้น โดยในส่วนของ กรมสรรพากร จัดเก็บรายได้สูงกว่าเป้าที่ตั้งไว้ประมาณ 1 หมื่นล้านบาท เนื่องจากการเก็บภาษีนิติบุคคลได้ตามเป้าที่ตั้งไว้ ทำให้การเก็บภาษีของกรมสรรพากรในรอบ 8 เดือนของปีงบประมาณ 2552 ต่ำกว่าเป้าลดลงเหลือ 5.86 หมื่นล้านบาท หรือลดลงจากยอด 7 เดือน ที่ต่ำกว่าเป้าถึง 6.19 หมื่นล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการเก็บภาษี กรมศุลกากร รอบ 8 เดือน ยังต่ำกว่าเป้า 1.3 หมื่นล้านบาท ต่ำกว่าเป้าเพิ่มขึ้นต่อเนื่องทุกเดือน เนื่องจากการเก็บภาษีนำเข้าได้น้อยจากปริมาณนำเข้าที่ลดลง และค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น