ตลาดหุ้นสุดคึก ดัชนีปิดบวก 10.97 จุด ยืนเหนือระดับ 600 ได้อย่างแข็งแกร่ง โดยมีแรงซื้อในกลุ่มแบงก์-พลังงาน ต่างชาติไล่ซื้อดะ วอลุ่มแน่นกว่า 3.1 หมื่นล้านบาท สูงสุดรอบ 8 เดือน เตือนสัปดาห์หน้า ระวังแรงขายทำกำไร
ภาวะตลาดหุ้นไทย วันที่ 5 มิถุนายน 2552 (วันนี้) ดัชนีทะยานตัวในแดนบวกได้ต่อเนื่องตลอดทั้งวัน เป็นไปตามทิศทางตลาดหุ้นต่างประเทศ โดยมีแรงซื้อเข้ามาอย่างหนาแน่นในหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ และกลุ่มพลังงาน โดยปิดตลาดภาคบ่ายที่ระดับ 604.57 จุด บวก 10.97 จุด หรือเปลี่ยนแปลง +1.85% สูงสุดในรอบ 8 เดือน มูลค่าการซื้อขายกว่า 3.1 หมื่นล้านบาท นักลงทุนรายย่อยขายสุทธิ 2,852.02 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ 720.46 ล้านบาท และนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 2,131.56 ล้านบาท
นส.ศศิกร เจริญสุวรรณ ผู้อำนวยการอาวุโส บริษัทหลักทรัพย์(บล.)ฟิลลิป (ประเทศไทย)จำกัด(มหาชน) ชี้ว่า สาเหตุที่ภาวะตลาดในวันที่ 5 มิถุนายน สามารถปิดตัวในแดนบวกได้เป็นเพราะแรงซื้อจากนักลงทุนต่างชาติที่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการเข้าซื้อในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ ที่มีสัดส่วนมูลค่าตลาด(มาร์เก็ตแคป)สูงมาก จึงมีผลให้หนุนให้ตลาดโดยรวมปรับตัวเพิ่มขึ้น
"ที่ผ่านมาโบรกเกอร์ต่างชาติหลายแห่งได้ประเมินว่า หุ้นกลุ่มแบงก์ยังน่าสนใจ เพราะระดับหนี้สินที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(เอ็นพีแอล)มีไม่มากนัก ประกอบกับราคาบนกระดานในขณะนี้ยังไม่แพง ดังนั้นโบรกเกอร์ต่างชาติบางแห่งจึงให้น้ำหนักเหนือกว่าตลาด (Over Weigh) จนทำให้นักลงทุนสนใจ" นส.ศศิกร กล่าว
ขณะเดียวกันตลาดหุ้นไทยยังได้รับแรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของกลุ่มในกลุ่มน้ำมัน ซึ่งได้รับปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันดิบโลกที่เพิ่มขึ้น ดังนั้นจากการที่หุ้นกลุ่มนี้มีขนาดใหญ่คิดเป็น1ใน3ของมูลค่าตลาดรวม(มาร์เก็ตแคป) จึงช่วยผลักดันให้ตลาดหุ้นไทยดีดตัวขึ้นได้ค่อนข้างแรง
อย่างไรก็ตาม นส.ศศิกร แนะนำว่า ในสัปดาห์หน้าให้ระวังแรงเทขายทำกำไร และ ดัชนีจะมีความผันผวนมากขึ้น โดยเมื่อตลาดปรับตัวขึ้นถึงจุดหนึ่ง โดยมองแนวรับตลอดทั้งสัปดาห์ไว้ที่ระดับ 568-550 จุด และแนวต้านที่ระดับ 626-642 จุด
นายโกสินทร์ ศรีไพบูลย์ ผู้อำนวนการอาวุโส บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) มองว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวขึ้นได้ตลอดทั้งวัน ตามแรงซื้อหุ้นกลุ่มพลังงานและธนาคาร จากแรงหนุนราคาน้ำมันดิบล่วงหน้าที่ดีดแรงกว่า 2 ดอลลาร์สหรัฐฯ รวมถึงตลาดหุ้นสหรัฐฯกระเตื้องขึ้น จึงส่งผลให้ตลาดหุ้นภูมิภาคเอเชียฟื้นตัวตาม
ส่วนแนวโน้มในสัปดาห์หน้า คาดว่า ยังขึ้นกับปัจจัยต่างประเทศเป็นหลัก โดยเฉพาะทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐฯ และราคาน้ำมันดิบล่วงหน้า หากดีดตัวขึ้นจะส่งผลให้หุ้นไทยปรับตัวดีขึ้นไปด้วย เพราะเงินลงทุนจากต่างชาติจะยังไหลเข้ามาในแถบเอเชียต่อเนื่อง จากความคาดหวังว่าเศรษฐกิจเอเชียและโลกฟื้นตัว ประเมินแนวรับที่ระดับ 585-590 จุด แนวต้าน 615-620 จุด ด้านกลยุทธ์ แนะนำเก็งกำไรหุ้นกลุ่มหลักตามปัจจัยต่างประเทศในแต่ละวัน และเมื่อเข้าใกล้แนวต้าน ควรทยอยเทขายทำกำไร
