อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจในเอเชียตะวันออก จะชะลอตัวลงในปีนี้เพราะผลจากวิกฤตการเงิน แต่แผนการกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่าหลายแสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯของจีน แม้จะส่งผลล่าช้าเกินกว่าจะช่วยให้ผู้คนจำนวนมากไม่ต้องตกงาน ก็ยังจะทำให้ภูมิภาคนี้ยังคงมีอัตราขยายตัวสูงที่สุดในโลก ทั้งนี้จากรายงานล่าสุดที่นำออกเผยแพร่วานนี้(7)ของธนาคารโลก
รายงานล่าสุดของธนาคารโลกชี้ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในของเอเชียตะวันออกส่วนที่เป็นเศรษฐกิจกำลังพัฒนา (นั่นคือยกเว้นญี่ปุ่น,ฮ่องกง, เกาหลีใต้, สิงคโปร์, และไต้หวัน) ในปีนี้จะพุ่งขึ้น 5.3% ซึ่งลดลงจากประมาณการณ์ในเดือนธันวาคมที่ผ่านมาที่เวิลด์แบงก์บอกว่าอยู่ที่ 6.7% และก็น้อยกว่าอัตราการเติบโต 8% ของปีนี้แล้ว ทั้งนี้สาเหตุสำคัญมาจากการส่งออกและความต้องการบริโภคภายในประเทศที่ลดต่ำลง
นอกจากนี้รายงานยังชี้ด้วยว่าอาจจะต้องใช้เวลานานกว่าที่คิดที่ประเทศเศรษฐกิจเฟื่องฟูใหม่ในเอเชียตะวันออก จะกลับไปมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจในระดับสูงดังเดิม เพราะระบบการเงินในประเทศพัฒนาแล้วยังคงมีความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาได้อีก
"การที่จีนจะกลับมามีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งขึ้นปีหน้าจะสามารถช่วยให้ประเทศเอเชียตะวันออกและแปซิฟิกอื่น ๆมีอัตราการเติบโตที่ดีด้วยเช่นกัน" รายงานภาพรวมเศรษฐกิจเอเชียตะวันออกของธนาคารโลกชี้
"แต่อัตราการฟื้นตัวที่ยั่งยืนก็ยังต้องรอสถานการณ์ในประเทศพัฒนาแล้วให้กระเตื้องขึ้น เพราะในประเทศพัฒนาแล้วทั้งหลายยังคงมีความเสี่ยงต่อปัญหามากมายในช่วงฟื้นตัวที่เปราะบาง ซึ่งอาจนำไปสู่อัตราการเติบโตที่ต่ำ"
วิกรัม เนห์รู หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของเอเชียตะวันออกแห่งธนาคารโลกชี้ว่าเศรษฐกิจในภูมิภาคนี้ยังคงต้องฝ่าฟันพายุหนักหน่วงต่อไป
"ในช่วงสี่เดือนที่ผ่านมา สถานการณ์ในประเทศพัฒนาแล้วดิ่งลงไปเรื่อย ๆ การผลิตที่ชะลอลง สินเชื่อที่เหือดหาย เป็นปัจจัยสำคัญที่นำไปสู่อัตราคนตกงานจำนวนมหาศาล" เขากล่าวในระหว่างการแถลงข่าวเปิดตัวรายงานฉบับนี้ที่กรุงโตเกียว
รายงานล่าสุดของธนาคารโลกชี้ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในของเอเชียตะวันออกส่วนที่เป็นเศรษฐกิจกำลังพัฒนา (นั่นคือยกเว้นญี่ปุ่น,ฮ่องกง, เกาหลีใต้, สิงคโปร์, และไต้หวัน) ในปีนี้จะพุ่งขึ้น 5.3% ซึ่งลดลงจากประมาณการณ์ในเดือนธันวาคมที่ผ่านมาที่เวิลด์แบงก์บอกว่าอยู่ที่ 6.7% และก็น้อยกว่าอัตราการเติบโต 8% ของปีนี้แล้ว ทั้งนี้สาเหตุสำคัญมาจากการส่งออกและความต้องการบริโภคภายในประเทศที่ลดต่ำลง
นอกจากนี้รายงานยังชี้ด้วยว่าอาจจะต้องใช้เวลานานกว่าที่คิดที่ประเทศเศรษฐกิจเฟื่องฟูใหม่ในเอเชียตะวันออก จะกลับไปมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจในระดับสูงดังเดิม เพราะระบบการเงินในประเทศพัฒนาแล้วยังคงมีความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาได้อีก
"การที่จีนจะกลับมามีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งขึ้นปีหน้าจะสามารถช่วยให้ประเทศเอเชียตะวันออกและแปซิฟิกอื่น ๆมีอัตราการเติบโตที่ดีด้วยเช่นกัน" รายงานภาพรวมเศรษฐกิจเอเชียตะวันออกของธนาคารโลกชี้
"แต่อัตราการฟื้นตัวที่ยั่งยืนก็ยังต้องรอสถานการณ์ในประเทศพัฒนาแล้วให้กระเตื้องขึ้น เพราะในประเทศพัฒนาแล้วทั้งหลายยังคงมีความเสี่ยงต่อปัญหามากมายในช่วงฟื้นตัวที่เปราะบาง ซึ่งอาจนำไปสู่อัตราการเติบโตที่ต่ำ"
วิกรัม เนห์รู หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของเอเชียตะวันออกแห่งธนาคารโลกชี้ว่าเศรษฐกิจในภูมิภาคนี้ยังคงต้องฝ่าฟันพายุหนักหน่วงต่อไป
"ในช่วงสี่เดือนที่ผ่านมา สถานการณ์ในประเทศพัฒนาแล้วดิ่งลงไปเรื่อย ๆ การผลิตที่ชะลอลง สินเชื่อที่เหือดหาย เป็นปัจจัยสำคัญที่นำไปสู่อัตราคนตกงานจำนวนมหาศาล" เขากล่าวในระหว่างการแถลงข่าวเปิดตัวรายงานฉบับนี้ที่กรุงโตเกียว