ธปท.เผยเศรษฐกิจ เม.ย.52 ยังหดตัวต่อเนื่อง แต่เริ่มมีสัญญาณที่ดีขึ้น ขณะที่ความเชื่อมั่นยังต่ำกว่า 50 สะท้อนความเปราะบางของระบบ ศก.ไทย แนะทางรอดต้องมีตัวช่วย โดยการลงทุนภาครัฐ
นางอมรา ศรีพยัคฆ์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายเศรษฐกิจในประเทศ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวถึงภาวะเศรษฐกิจไทยในเดือนเมษายน 2552 โดยระบุว่า ยังหดตัวต่อเนื่อง เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่มีสัญญาณการปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบเดือนก่อนหน้า (มีนาคม 2552) โดยเฉพาะการผลิตภาคอุตสาหกรรม การส่งออก และการนำเข้า รวมทั้งดัชนีการอุปโภคบริโภคภาคเอกชน หลังปรับฤดูกาลแล้วเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า แม้ว่ายังคงหดตัวเมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน
"เศรษฐกิจตอนนี้เหมือนกับลงเหว แต่ค่อยๆ ไต่ขึ้นมาระดับหนึ่ง แต่ยังต้องติดตามภาวะเศรษฐกิจโลก ที่ตกลงค่อนข้างแรง ซึ่งต้องมีมาตรการรัฐเข้ามาช่วย โดยเฉพาะการลงทุน ที่จะค่อยๆ คลานไม่ได้แล้ว หากนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2552 ตัวเศรษฐกิจ เริ่มค่อยๆ ปรับตัวดีขึ้นอย่างช้าๆ ไม่เร็ว ถ้าไม่มีการลงทุนของรัฐจะหวังให้เอกชนเดินไปข้างหน้าคงไม่ได้ เพราะตอนนี้กำลังการผลิตก็ยังเหลือ ความเชื่อมั่นแม้จะดีขึ้นแต่โดยรวมยังไม่ถึง 50 มันต้องมีคนมาช่วย"
ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นของทางธุรกิจระยะ 3 เดือนข้างหน้า ในด้านผลประกอบการเร่งตัวมาที่ 50.3 ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นมาเหนือ 50 เป็นครั้งแรกในรอบ 8 เดือน และสูงขึ้นเมื่อเทียบกับระดับ 42.2 ในเดือน มีนาคม 2552 ซึ่งสอดคล้องกับคำสั่งซื้อสินค้าที่ปรับตัวดีขึ้น และการเร่งตัวของดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรม โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมอิเลกทรอนิกส์ประเภท Hard Disk Drive (HDD) ที่ปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบเดือนต่อเดือน (m-o-m) แต่หากเทียบปีต่อปี (y-o-y) ยังต่ำกว่าเพราะฐานปีก่อนค่อนข้างสูง
นอกจากนั้น สินเชื่อภาคเอกชนในเดือนเมษายน 2552 เทียบกับเดือนมีนาคม 2552 เร่งตัวขึ้นเป็นครั้งแรกที่ 29.4 พันล้านบาท โดยเฉพาะสินเชื่อการบริโภค
ผู้บริหาร ธปท.ยังระบุว่าในเดือนเมษายน 2552 ผลผลิตและราคาพืชผลสำคัญในภาคเกษตร ลดลงต่อเนื่อง เมื่อประกอบกับฐานสูง ทำให้รายได้เกษตรกรจากพืชผลสำคัญหดตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อนในอัตราที่สูงขึ้น ขณะที่ภาคการท่องเที่ยวได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมืองในช่วงสงกรานต์ ส่วนดัชนีการลงทุนภาคเอกชน ยังคงหดตัวค่อนข้างมาก สอดคล้องกับความเชื่อมั่นที่อยู่ในระดับต่ำ