xs
xsm
sm
md
lg

SCBทบทวนแผน รับศก.หดตัวแรง หวังสินเชื่อโต5%

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ไทยพาณิชย์สั่งทบทวนแผนงานหลังเศรษฐกิจไตรมาสแรกหดตัวถึง 7.1% แต่ยังคงหวังสินเชื่อทั้งปีโตตามเป้า 5% แม้ไตรมาสแรกจะลดลง 2-3% ระบุยังไม่มีนโยบายลดดอกเบี้ยอีก แจงไม่มีผลต่อยอดปล่อยกู้ ขึ้นอยู่กับคุณภาพของบริษัทที่มาขอมากกว่า พร้อมแจกรางวัล 4 บ.เอสเอ็มอีดีเด่น

นางกรรณิกา ชลิตอาภรณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) (SCB) เปิดเผยว่า ขณะนี้ธนาคารอยู่ระหว่างการทบทวนแผนงานทั้งหมด ภายหลังจากที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.)ได้ประกาศตัวเลขจีดีพีไตรมาสแรกของปี 2552 ติดลบถึง 7.1% ส่วนแนวโน้มสินเชื่อในไตรมาส 2 ปีนี้ คาดว่าจะยังอยู่ในช่วงทรงตัว เมื่อเทียบกับสินเชื่อในไตรมาส แรกที่หดตัวลง 2-3% แต่ธนาคารยังคาดว่าสินเชื่อทั้งปีจะสามารถโตได้ตามเป้าที่คาดในระดับ 5%

สำหรับทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารนั้น ยังไม่มีนโยบายที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก เนื่องจากที่ผ่านมาธนาคารเพิ่งจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลงไป 0.3% นอกจากนี้ สภาวะตลาดยังมีความผันผวน รวมถึงต้องรอดูสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ และพิจารณาอีกครั้งเพื่อให้ความเหมาะสมกับสภาวะที่เกิดขึ้น ซึ่งในส่วนธนาคารเองก็พร้อมที่จะช่วยเหลือทุกฝ่ายเพียง แต่ในอีกด้านหนึ่งต้องคำนึงถึงความแข็งแกร่งของธนาคารด้วย

"มองว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงไม่ได้มีผลต่ออัตราการปล่อยสินเชื่อ โดยการปล่อยสินเชื่อขึ้นอยู่กับคุณภาพของบริษัทที่มาขออนุมัติ ซึ่งขณะนี้ลูกค้ามีการคืนสินเชื่อมากกว่าการขอสินเชื่อ โดยการคืนสินเชื่อซึ่งเป็นเงินกู้ระยะยาว 50% และอีก 50% เป็นเงินกู้แบบหมุนเวียนจากสภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง ทำให้ผู้ประกอบการขายสินค้าได้น้อยลงและความต้องการทางด้านสินเชื่อลดลง โดยจากอัตราส่วนของเงินกู้หมุนเวียนลดลง 20-30%"นางกรรณิกากล่าว

สำหรับแนวโน้มสัญญาณเศรษฐกิจคาดว่าจะมีทิศทางที่ดีขึ้น แม้ยังมีการแพร่ระบาดของไข้หวัดไข้ใหญ่ 2009 หรือ H1N1 โดยจากสถานการณ์ที่ไม่มีความรุนแรงมากนักทำให้ไม่ส่งผลกระทบในระยะยาว ขณะที่ผลกระทบในระยะสั้นจะยังส่งผลในเรื่องการท่องเที่ยวที่ลดลง ซึ่งทางธนาคารพร้อมที่จะช่วยให้ผู้ประกอบการผ่านวิกฤตในส่วนนี้ไปได้

**มอบรางวัล5บริษัทดีเด่น

นอกจากนี้ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)(SCB) ได้ร่วมกับสถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์ แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จัดโครงการ Baipo Business Awards By Sasin มอบรางวัลผู้ประกอบการไทยที่ประสบความสำเร็จและสามารถสร้างความแตกต่างให้ธุรกิจได้อย่างโดดเด่น โดยมุ่งหวังให้รางวัลนี้เป็นแรงบันดาลใจให้ผู้ประกอบการไทยพัฒนาศักยภาพธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะก่อให้เกิดมาตรฐานที่ดี

นางองค์อร อาภากร ณ อยุธยา ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)(SCB) กล่าวว่า การมอบรางวัลในครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 3 หลังจากมีธุรกิจเอสเอ็มอีได้รับรางวัลดังกล่าวไปแล้ว 10 ราย โดยหลักเกณฑ์การพิจารณาเบื้องต้นของโครงการต้องผ่านเกณฑ์การคัดเลือกและมีความโดดเด่นต่อศักยภาพในการแข่งขันของธุรกิจขนาดกลางและย่อม ทั้งนี้คณะกรรมการตัดสินพิจารณามอบรางวัลแก่ผู้ประกอบการที่มีคุณสมบัติเหมาะสม โดยไม่มีการจัดอันดับและไม่จำกัดจำนวนผู้ได้รับรางวัลในแต่ละปี

นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองผู้อำนวยการฝ่ายวิชาการ สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจ ศศินทร์ ฯ กล่าวว่า หลักเกณฑ์การพิจารณาตัดสินนั้น ธุรกิจต้องผ่านเกณฑ์การคัดเลือกเบื้องต้นของโครงการ และมีความโดดเด่นในมิติที่สำคัญต่อศักยภาพในการแข่งขันของธุรกิจขนาดกลางและย่อม ได้แก่ การให้ความสำคัญต่อลูกค้า (Customer Focus) ความริเริ่มที่นำไปสู่การสร้างนวัตกรรม (Innovation) การมีคุณภาพสูง (Quality) การตอบสนองและปรับตัวต่อโอกาสและปัญหา (Adaptability to Changes) การสร้างมูลค่า (Value Creation) การสร้างตราสินค้า (Branding) การมีระบบงานที่มีประสิทธิภาพ (Efficiency) ความเป็นผู้นำของ ผู้บริหารกิจการและการสร้างทีม (Leadership & Team Building) การปฏิบัติดีต่อสังคม (Social Responsibility) และการสร้างธุรกิจด้วยพลังแห่งการเป็นผู้ประกอบการ (Entrepreneurship)

ทั้งนี้ เกณฑ์ที่กำหนดขึ้นเหล่านี้ ถือเป็นหัวใจสำคัญที่มีผลต่อการพัฒนาธุรกิจขนาดกลางและย่อมให้เติบโตได้ แม้ต้องเผชิญกับภาวะวิกฤติ ทั้งนี้ คณะกรรมการตัดสินจะพิจารณามอบรางวัลแก่ผู้ประกอบการที่มีคุณสมบัติเหมาะสม โดยไม่มีการจัดอันดับ และไม่จำกัดจำนวนผู้ได้รับรางวัลในแต่ละปีทั้งนี้ ผู้ได้รับคัดเลือกจะได้รับใบประกาศพร้อมโล่เกียรติคุณเป็นเครื่องหมายรับรองความโดดเด่นในการดำเนินธุรกิจ ซึ่งจะสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ลูกค้า คู่ค้า และเป็นแรงบันดาลใจให้มุ่งพัฒนาธุรกิจอย่างต่อเนื่อง

นายอาชว์ เตาลานนท์ ประธานกิตติมศักดิ์ หอการค้าไทย ในฐานะประธานกรรมการพิจารณาคัดเลือก กล่าวว่า การประกาศผลรอบที่ 3 นี้ คณะกรรมการได้คัดเลือกผู้ประกอบการเข้าร่วมโครงการจำนวนกว่า 140 บริษัท และมีมติให้ธุรกิจที่ได้รับรางวัลในครั้งนี้ 5 ราย ได้แก่ บริษัท โยธกา อินเตอร์แนชั่นแนล จำกัด บริษัท นานดี อินเตอร์เทรด จำกัด บริษัท วีพีพี โปรเกรสซีฟ จำกัด บริษัท เพิ่มพูนพัฒนา อุตสาหกรรม จำกัด และบริษัท ดอกบัวคู่ จำกัด
กำลังโหลดความคิดเห็น