เอ็มเอฟจี โซลูชั่น เตรียมทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ SVI ที่เหลือ 458,359,390 หุ้น หรือ 30.55% ราคา หุ้นละ 1.40 บาท และวอร์แรนต์ 2358,725,220 หน่วยทั้งหมด ราคาหน่วยละ 0.40 บาท หลังเก็บหุ้นจากกระดานได้แล้ว 58.48% คาดซื้ออย่างเป็นทางการ 1 มิ.ย.นี้ ยันไม่กระทบการดำเนินธุรกิจของบริษัท
นายพงษ์ศักดิ์ โล่ห์ทองคำ ประธานกรรมการ บริษัท เอสวีไอ จำกัด (มหาชน) (SVI ) แจ้งว่าบริษัทได้รับแจ้งจากผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทฯ DBS VICKERS SECURITIES (SINGAPORE) PTE LTD ซึ่งเป็นผู้ดูแลทรัพย์สิน (Custodian) ของบริษัท เอเชีย แปซิฟิก อิเล็กทรอนิกส์ (บีวีไอ) จำกัด (Asia Pacific Electronics (BVI) Ltd.) ซึ่งมี MR. JARLON TSANG เป็นกรรมการผู้มีอำนาจ เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงการถือหุ้น ดังนี้
บริษัท เอเชีย แปซิฟิก อิเล็กทรอนิกส์ ( บีวีไอ ) จำกัด ซึ่งถือหุ้นอยู่ทั้งสิ้น 877,318,460 หุ้น หรือ 58.48 % ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ได้จำหน่ายหุ้นดังกล่าวทั้งหมดให้แก่ บริษัท เอ็มเอฟจี โซลูชั่น จำกัด (ซึ่งมีนายพงษ์ศักดิ์ โล่ห์ทองคำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทฯ ถือหุ้นอยู่ 99.96 %ของหุ้นที่จำหน่ายแล้วทั้งหมดของบริษัท เอ็มเอฟจี โซลูชั่น จำกัด) ในราคาหุ้นละ 1.40 บาท รวมเป็นเงิน 1,228,245,844 บาท เมื่อวันที่ 22 พ.ค.52
จากการเข้าซื้อหุ้นดังกล่าว ส่งผลให้ DBS VICKERS SECURITIES ถือหุ้น 877,318,460 หุ้น คิดเป็น 58.48% บริษัท เอ็มเอฟจีโซลูชั่น จำกัด 136,209,330 หุ้น หรือ 9.08% และอื่น ๆ 486,650,060 หุ้น คิดเป็น 32.44% ทั้งนี้ ณ วันที่ 19 พ.ค.52 บริษัท เอ็มเอฟจี โซลูชั่น จำกัด ได้ซื้อหุ้น SVI เพิ่มขึ้น 28,290,670 หุ้น หรือ 1.89 % ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัทฯ
ดังนั้น บริษัท เอเชีย แปซิฟิก อิเล็กทรอนิกส์ (บีวีไอ) จำกัด จึงไม่ได้เป็นผู้ถือหุ้นของบริษัทฯอีกต่อไป ทั้งนี้ การได้มาซึ่งหุ้นดังกล่าวส่งผลให้ บริษัท เอ็มเอฟจี โซลูชั่น จำกัด มีหน้าที่ต้องทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของบริษัทฯ เพื่อให้เป็นไปตามประกาศคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ที่ กจ. 53/2545 เรื่อง หลักเกณฑ์เงื่อนไข และวิธีการในการเข้าถือหลักทรัพย์เพื่อครอบงำกิจการ
โดยบริษัท เอ็มเอฟจี โซลูชั่น จำกัด จะทำคำเสนอซื้อหุ้นส่วนที่เหลือจำนวน 458,359,390 หุ้น คิดเป็น 30.55% ของหุ้นที่จำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด ในราคา 1.40 บาท และใบสำคัญแสดงสิทธิ(วอร์แรนต์) ในการจองซื้อหุ้นสามัญของกิจการครั้งที่ 2 ที่ยังไม่ได้ใช้สิทธิ (SVI-W2) 358,725,220 หน่วย หรือ คิดเป็น 100 % ของจำนวนวอร์แรนต์ที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของกิจการ ในราคาหน่วยละ 0.40 บาท คาดทำคำเสนอซื้ออย่างเป็นทางการ 1 มิ.ย.นี้
ทั้งนี้ บริษัทฯ ไม่เปลี่ยนแปลงคณะผู้บริหารของบริษัทฯ กรรมการ และนโยบายการทำธุรกิจ แต่อย่างใด การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้ถือหุ้นรายใหญ่ดังกล่าว จึงไม่มีผลกระทบที่มีนัยสำคัญใด ๆ ต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ
นายพงษ์ศักดิ์ โล่ห์ทองคำ ประธานกรรมการ บริษัท เอสวีไอ จำกัด (มหาชน) (SVI ) แจ้งว่าบริษัทได้รับแจ้งจากผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทฯ DBS VICKERS SECURITIES (SINGAPORE) PTE LTD ซึ่งเป็นผู้ดูแลทรัพย์สิน (Custodian) ของบริษัท เอเชีย แปซิฟิก อิเล็กทรอนิกส์ (บีวีไอ) จำกัด (Asia Pacific Electronics (BVI) Ltd.) ซึ่งมี MR. JARLON TSANG เป็นกรรมการผู้มีอำนาจ เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงการถือหุ้น ดังนี้
บริษัท เอเชีย แปซิฟิก อิเล็กทรอนิกส์ ( บีวีไอ ) จำกัด ซึ่งถือหุ้นอยู่ทั้งสิ้น 877,318,460 หุ้น หรือ 58.48 % ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ได้จำหน่ายหุ้นดังกล่าวทั้งหมดให้แก่ บริษัท เอ็มเอฟจี โซลูชั่น จำกัด (ซึ่งมีนายพงษ์ศักดิ์ โล่ห์ทองคำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทฯ ถือหุ้นอยู่ 99.96 %ของหุ้นที่จำหน่ายแล้วทั้งหมดของบริษัท เอ็มเอฟจี โซลูชั่น จำกัด) ในราคาหุ้นละ 1.40 บาท รวมเป็นเงิน 1,228,245,844 บาท เมื่อวันที่ 22 พ.ค.52
จากการเข้าซื้อหุ้นดังกล่าว ส่งผลให้ DBS VICKERS SECURITIES ถือหุ้น 877,318,460 หุ้น คิดเป็น 58.48% บริษัท เอ็มเอฟจีโซลูชั่น จำกัด 136,209,330 หุ้น หรือ 9.08% และอื่น ๆ 486,650,060 หุ้น คิดเป็น 32.44% ทั้งนี้ ณ วันที่ 19 พ.ค.52 บริษัท เอ็มเอฟจี โซลูชั่น จำกัด ได้ซื้อหุ้น SVI เพิ่มขึ้น 28,290,670 หุ้น หรือ 1.89 % ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัทฯ
ดังนั้น บริษัท เอเชีย แปซิฟิก อิเล็กทรอนิกส์ (บีวีไอ) จำกัด จึงไม่ได้เป็นผู้ถือหุ้นของบริษัทฯอีกต่อไป ทั้งนี้ การได้มาซึ่งหุ้นดังกล่าวส่งผลให้ บริษัท เอ็มเอฟจี โซลูชั่น จำกัด มีหน้าที่ต้องทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของบริษัทฯ เพื่อให้เป็นไปตามประกาศคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ที่ กจ. 53/2545 เรื่อง หลักเกณฑ์เงื่อนไข และวิธีการในการเข้าถือหลักทรัพย์เพื่อครอบงำกิจการ
โดยบริษัท เอ็มเอฟจี โซลูชั่น จำกัด จะทำคำเสนอซื้อหุ้นส่วนที่เหลือจำนวน 458,359,390 หุ้น คิดเป็น 30.55% ของหุ้นที่จำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด ในราคา 1.40 บาท และใบสำคัญแสดงสิทธิ(วอร์แรนต์) ในการจองซื้อหุ้นสามัญของกิจการครั้งที่ 2 ที่ยังไม่ได้ใช้สิทธิ (SVI-W2) 358,725,220 หน่วย หรือ คิดเป็น 100 % ของจำนวนวอร์แรนต์ที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของกิจการ ในราคาหน่วยละ 0.40 บาท คาดทำคำเสนอซื้ออย่างเป็นทางการ 1 มิ.ย.นี้
ทั้งนี้ บริษัทฯ ไม่เปลี่ยนแปลงคณะผู้บริหารของบริษัทฯ กรรมการ และนโยบายการทำธุรกิจ แต่อย่างใด การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้ถือหุ้นรายใหญ่ดังกล่าว จึงไม่มีผลกระทบที่มีนัยสำคัญใด ๆ ต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ
