xs
xsm
sm
md
lg

หุ้นไอพีโอเริ่มคึกคัก 6-7รายจ่อเข้าเทรดQ3

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ตลาดหุ้นไอพีโอ เตรียมฟื้น หลังภาวะตลาดหุ้นขึ้นต่อเนื่อง เบื้องต้น เทรด มิถุนายนี้3 บริษัท “ควอลลีเทค –เจมาร์ท- โตโยไทย ” เชื่อหากไม่มีข่าวร้ายเพิ่มเติมไตรมาส3หุ้นใหม่จะคึกคัก ด้านบล.ฟิลลิป – กิมเอ็ง –เอเชีย พลัส เตรียมเข็นไอพีโอในมือออกมาขายเพียบ ส่วน“ภัทรียา”คาดมีน้องใหม่เพิ่ม 6-7 ราย

นายเล็ก สิขรวิทย รองผู้อำนวยการฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.)เอเซีย พลัส จำกัด (มหาชน)หรือ ASP เปิดเผยว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยที่มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นได้นั้น มาจากสถานการณ์เศรษฐกิจโลกจะมีการฟื้นตัว ถึงแม้ขณะนี้จะมีข่าวด้านลบ และบวกออกมาสลับกันแต่เชื่อว่าแนวโน้มต่อไปจะมีข่าวที่เป็นด้านบวกออกมามากขึ้น ส่งผลให้บริษัท ที่มีการเตรียมตัวจะมีการเสนอขายหุ้นต่อประชาชนทั่วไป(ไอพีโอ) ที่ได้มีการเลื่อนออกไปในช่วงปีที่ผ่านมานั้น เริ่มที่จะกลับมาเสนอขายหุ้นแล้ว โดยเริ่มมีข่าวบริษัทใหม่จะเข้าจดทะเบียนในช่วงเดือนมิถุนายนนี้แล้ว และคาดว่าหุ้นไอพีโอจะกลับมาคึกคักเพิ่มมากขึ้นในช่วงไตรมาส3/52 หากไม่มีข่าวด้านลบที่รุนแรงซึ่งถือว่าเป็นจังหวะที่ดีในการเสนอขายหุ้น

ทั้งนี้ เบื้องต้นบล.เอเซีย พลัส คาดว่าจะสามารถนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในปีนี้ได้ประมาณ 2 บริษัท คือ บริษัทเจมาร์ท ที่จะมีการเสนอขายหุ้นในวันที่ 17-18 มิถุนายนนี้ และคาดว่าจะเข้าจดทะเบียนในวันที่ 25 มิถุนายน โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการเตรียมที่จะมีการนำเสนอข้อมูล(โรดโชว์)กับนักลงทุน ล่าสุดบริษัทได้มีการนำเสนอข้อมูลให้กับนักวิเคราะห์ไปแล้ว ส่วนอีก 1 บริษัท คือ บริษัท มุ่งพัฒนา อินเตอร์แนชชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ซึ่งจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็มเอไอ (mai) ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการให้ข้อมูลเพิ่มเติมกับทางก.ล.ต.นอกจากนี้บริษัทได้มีการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง)แล้ว

สำหรับบริษัท ธนาสิริ กรุ๊ป จะเสนอขายหุ้นต่อประชาชนทั่วไป จำนวน 50 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (หุ้น)ละ 1 บาท คิดเป็น 20% ของทุนชำระแล้วภายหลังเสนอขายหุ้น และเสนอขายหุ้น 5 ล้านหุ้น เพื่อรองรับใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญต่อหุ้นสามัญของบริษัท ทำให้ภายหลังเสนอขายหุ้นมีทุนจดทะเบียนเพิ่มเป็น 255 ล้านบาทต่อหุ้น ซึ่งจะเข้าจดทะเบียนในตลาด mai โดยมีASP เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน

ควอลลีเทคประเดิมปลายเดือนนี้นายวิชา โตมานะ หัวหน้าฝ่ายวาณิชธนกิจ บล. ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า จากการที่ภาาะตลาดหุ้นไทยมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นมา ถือเป็นช่วงจังหวะที่ดีที่จะเสนอขายหุ้นไอพีโอ ซึ่งขณะนี้ได้เริ่มมีบริษัทที่จะเสนอขายหุ้นไอพีโอ ได้มีการทำการตลาดบ้างแล้ว เช่น บริษัท โตโย - ไทย คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน.) หรือ TTCLที่จะมีการเสนอขายหุ้นในปลายเดือนพฤษภาคม หรือต้นเดือนมิถุนายนนี้ และเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ กลางมิถุนายนนี้
ทั้งนี้ จากการทีบริษัทเป็นที่ปรึกษาทางการเงินของบมจ. ควอลลีเทค ก็จะมีการเสนอขายหุ้นในช่วงปลายเดือนพฤษภาคมนี้ และจะเข้าจดทะเบียนในตลาดmai ในต้นเดือนหน้า และคาดว่าจะสรุปราคาเสนอขายหุ้นได้ในสัปดาห์ที่บริษัทจะมีการเซ็นสัญญาการแต่งตั้งผู้จัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้น โดยขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการแจ้งข้อมูลเพิ่มในเรื่องงบการเงิน และราคาขายหุ้นให้กับก.ล.ต.

KESTเข็น2IPOเข้าเทรดQ3
ด้านนายมนตรี ศรไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล. กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ KEST กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทมีงานในมือ แบ่งออกเป็น ดีลM&A จำนวน 9-10 ดีล, Property Fund 2-3 ดีล, Equity Private Placement 1-2 ดีล, Fixed Income จำนวน 2-3 ดีล, Financial Advisory (FA) 2-4 ดีล และงานเกี่ยวกับการนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ (IPO) ประมาณ 10-15 ดีล ซึ่งจำนวนงาน IPO ทั้งหมดนี้มีอยู่จำนวน 2 ดีล ที่เตรียมจะนำเข้าจดทะเบียนในระหว่างไตรมาส 3-4 ของปีนี้เช่นกัน
ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้ปรับเพิ่มเป้าส่วนแบ่งการตลาด (มาร์เก็ตแชร์) ปี 52 จากเดิมที่ 9% เป็น 10% หลังภาพการซื้อขายหลักทรัพย์เริ่มฟื้นตัว และประเมินว่าตลาดหุ้นในช่วงนี้ยังคงเป็นขาขึ้น แต่นักลงทุนควรระวังแรงเทขายทำกำไรระยะสั้นจนอาจทำให้ดัชนีปรับตัวลดลง ดังนั้นจึงแนะนำให้ควรทยอยการซื้อขายหุ้นและบริหารจัดการพอร์ตของตนเองให้ดี เพื่อเป็นการป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้

ตลท.เชื่อมั่นไอพีโอเริ่มคึกคัก
นางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมา บรรยากาศตลาดหุ้นปรับตัวดีขึ้นทั้งในด้านของดัชนีและปริมาณการซื้อขาย(วอลุ่ม) โดยเชื่อว่าจะส่งเสริมให้บรรยากาศในการนำหุ้นไอพีโอทั้งในตลาดหลักทรัพย์ฯ และตลาด mai มีความคึกคักยิ่งขึ้น เพราะเท่าที่ได้หารือกับบริษัทที่รอเข้าจดทะเบียน รวมถึงบริษัทที่ปรึกษาทางการเงิน พบว่าหากดัชนีปรับตัวขึ้นมากกว่า 500 จุด ถือเป็นจังหวะที่ดีในการนำหุ้นเข้าจดทะเบียนซื้อขาย
“เท่าที่เคยหารือกันก็พูดในแนวทางเดียวกันว่า หากดัชนีปรับขึ้นมากกว่า 500 จุด อาจเป็นจังหวะดีที่จะเข้ามาซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งปัจจุบันมีบริษัทที่ผ่านทุกขั้นตอนการขอยื่นเข้าจดทะเบียนแล้ว แต่ขณะนี้ยังรอจังหวะการเข้าซื้อขายเท่านั้น มีประมาณ 6-7 บริษัท โดยคาดว่าบริษัทเหล่านั้นจะสามารถซื้อขายได้หมดภายใน ไตรมาส 2 และไตรมาส 3 นี้”นางภัทรียากล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น