ผู้ถือหุ้นใหญ่แทกส์ สับ ทอท.บอกเลิกสัญญาการให้บริการรถเข็นกระเป๋า ทำภาพพจน์การลงทุนไทยเสียหายแน่นอน เหตุนักลงทุนขยาด ชี้ รัฐบาลไทยต้องเข้ามาดูแลเพื่อเรียกความเชื่อมั่นกลับคืน พร้อมขอความเป็นธรรมผ่านกระบวนการทางศาล โชว์ธุรกิจ ดราก้อน กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทแม่ โปร่งใส จนรัฐบาลจีนให้ความไว้วางใจเข้าร่วมทำธุรกิจ เหตุอีก 10 ปี จีนผุดกว่า 100 สนามบินใหม่
ดาโต๊ะ ไมเคิล ลอห์ ประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัท ดราก้อน กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ บริษัท เอสเจ แอสเสท แมเนจเม้นท์ จำกัด (SJAM) สถาบันการเงินอิสระของมาเลเซีย ผู้ถือหุ้นใหญ่ในบริษัท ไทยแอร์พอร์ต กราวด์ เซอร์วิสเซส จำกัด (แทกส์) เปิดเผยว่า กรณีที่คณะกรรมการบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท.มีมติบอกเลิกสัญญาการให้บริการรถเข็นกระเป๋าโดยสารและสัมภาระ ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมินั้น ในฐานะนักลงทุนหวังว่ากระบวนการตัดสินต่อจากนี้จะมีความเป็นธรรมและถูกต้อง ซึ่งในฐานะนักลงทุนต้องการเห็นความโปร่งใส และชัดเจน แต่ไม่ได้คาดหวังว่าผลว่าจะออกมาแพ้หรือชนะ เพราะกระบวนการพิจารณาเรื่องนี้คงต้องใช้เวลา
ทั้งนี้ ยอมรับว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับแทกส์นั้น ทำให้ภาพในการลงทุนของประเทศไทยไม่มีเสน่ห์ และรัฐบาลไทยควรเข้ามาดูแลเพื่อให้เกิดความชัดเจนเหมาะสมเพื่อสร้างความเชื่อมั่นกับนักลงทุนต่างชาติจะเข้ามาลงทุนในประเทศไทย โดยการตัดสินใจเข้ามาลงทุนในประเทศไทยผ่านการถือหุ้นในบริษัท แทกส์ ก็เพราะเห็นว่า ประเทศไทยเป็น 1 ใน 2 ประเทศที่มีโอกาสทางธุรกิจและน่าลงทุน นอกจากเวียดนาม ดังนั้น เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้นกระบวนการตัดสินจะต้องมีความเป็นธรรม และชัดเจน เพราะจะเป็นพื้นฐานในการตัดสินใจของนักลงทุน
“นักลงทุนต่างชาติมองเหมือนกันในเรื่องความยุติธรรม โปร่งใส และยอมรับว่า การเมืองที่ไม่มีความมั่นคงของไทยเป็นปัจจัยหลักในการตัดสินใจเข้ามาลงทุนของนักลงทุน ซึ่งการประสานกับรัฐบาลไทยผ่านรัฐบาลมาเลเซียเพราะรัฐบาลมาเลเซียจะดูแลบริษัทของคนมาเลเซียที่ไปลงทุนต่างชาติในกรณีที่มีปัญหาเกิดขึ้น และข้อสรุปของผู้บริหารแทกส์ในการฟ้องร้องต่อศาลนั้น เพราะเชื่อว่าจะได้รับความยุติธรรม” ไมเคิล กล่าว
อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่า กรณีการลงทุนในสัมปทานนั้น หลีกเลี่ยงที่การเมืองจะเข้ามาเกี่ยวข้องไม่ได้ และก่อนที่จะเข้ามาซื้อหุ้นแทกส์ ได้ทราบข่าวกรณีที่แทกส์มีความเกี่ยวข้องกับน้องสาว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีไทย แต่ไม่ได้ให้ความสำคัญในประเด็นดังกล่าว เพราะมองที่ตัวธุรกิจเป็นหลักว่ามีอนาคต มีความเหมาะสมที่จะเข้ามาลงทุน และดราก้อนกรุ๊ป ยึดหลักดำเนินงานด้วยความโปร่งใส ดังนั้น ธุรกิจที่ดราก้อนกรุ๊ปเข้าไปลงทุนก็จะต้องโปร่งใสด้วย
ไมเคิล กล่าวว่า การเติบโตของธุรกิจด้านการบินโดยเฉพาะสนามบินนั้นเป็นไปอย่างรวดเร็ว ดังนั้นจึงเห็นโอกาสของธุรกิจการให้บริการภาคพื้นดิน และเห็นศักยภาพของแทกส์ อย่างไรก็ตาม กรณีที่ ทอท.จะขายหุ้นนั้นยังไม่ทราบ แต่ตามหลักหากจะมีการขายหุ้นก็ต้องแจ้งกับผู้ถือหุ้นอื่นๆ ให้ทราบก่อน แต่ขณะนี้ ทอท.ยังไม่มีข้อเสนอนี้ออกมา
ทั้งนี้ ผู้ถือหุ้นแทกส์ ประกอบด้วย บริษัท เอสเจ แอสเสท แมเนจเม้นท์ จำกัด 48.5% ทอท. 28.5% บริษัท เวิล แทรเวล เซอร์วิส 15% และกลุ่มเพาเวอร์ลิงค์ 8%
นายทิมโมที ลิม รองประธานบริษัท ดราก้อน กรุ๊ป กล่าวว่า ดราก้อน กรุ๊ป มีรายได้ในปี 2551 ประมาณ 13,300 ล้านบาท โดยเป็นรายได้จากแทกส์ประมาณ 1,300 ล้านบาท โดยดราก้อน กรุ๊ปทำธุรกิจทั้งด้านอุปกรณ์ชิ้นส่วนอิเลกทรอนิกส์ สินค้าอุปโภค บริโภคและบริการ โดยมี 17 โรงงานทั่วโลก เช่น สิงคโปร์ มาเลเซีย จีน พิลิปปินส์ ไทย สกอตแลนด์ และมี 45 สำนักงานใน 12 ประเทศ เช่น เกาหลี ฮ่องกง ไต้หวัน ไทย อังกฤษ อเมริกา อินเดีย
นายทิมโมที ลิม กล่าวว่า บริษัทได้รับคัดเลือกจากรัฐบาลจีนให้เป็นผู้ต่อเรือ จิ้งหง โดยใช้ไม้ทั้งหมด มูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาทเพื่อบันทึกด้านประวัติศาสตร์ความยิ่งใหญ่ในการเดินเรือของจีน ซึ่งเป็นผลมาจากการความไว้วางใจของรัฐบาลจีนต่อบริษัท และพื้นฐานการทำธุรกิจของดราก้อน กรุ๊ป แม้กรณีที่ ทอท.บอกเลิกสัญญาแทกส์ ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของดราก้อน กรุ๊ป จะไม่กระทบต่อการดำเนินธุรกิจของดราก้อน กรุ๊ป แต่สำหรับแทกส์เองที่ ดราก้อน กรุ๊ป เข้าไปลงทุนเพราะเห็นว่ามีโอกาสทางธุรกิจในอนาคตมาก เนื่องจากอีก 10 ปีข้างหน้ารัฐบาลจีนจะสร้างสนามบินอีกประมาณ 100 แห่ง จะสามารถนำแทกส์เข้ามาต่อยอดธุรกิจด้านการให้บริการด้านการบินได้
นายลาดหญ้า อูริยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร แทกส์ กล่าวว่า ดราก้อน กรุ๊ป มองว่า อีก 10 ปีจีนจะสร้างสนามบินอีกกว่า 100 แห่ง ความสัมพันธ์ที่ดีของดราก้อน กรุ๊ป จะทำให้แทกส์มีโอกาสเข้าไปมีส่วนร่วมในธุรกิจสนามบินที่จะเกิดขึ้นใหม่ได้มาก เพราะพื้นฐานด้านศักยภาพของแทกส์มีความพร้อม จากผลประกอบการตลอด 19 ปีมีกำไรสามารถปันผลให้ผู้ถือหุ้นมาตลอด และมีพนักงานกว่า 5,000 คน ที่มีประสบการณ์ ไม่ต้องสร้างใหม่และเสียเวลาในการเรียนรู้
ดาโต๊ะ ไมเคิล ลอห์ ประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัท ดราก้อน กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ บริษัท เอสเจ แอสเสท แมเนจเม้นท์ จำกัด (SJAM) สถาบันการเงินอิสระของมาเลเซีย ผู้ถือหุ้นใหญ่ในบริษัท ไทยแอร์พอร์ต กราวด์ เซอร์วิสเซส จำกัด (แทกส์) เปิดเผยว่า กรณีที่คณะกรรมการบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท.มีมติบอกเลิกสัญญาการให้บริการรถเข็นกระเป๋าโดยสารและสัมภาระ ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมินั้น ในฐานะนักลงทุนหวังว่ากระบวนการตัดสินต่อจากนี้จะมีความเป็นธรรมและถูกต้อง ซึ่งในฐานะนักลงทุนต้องการเห็นความโปร่งใส และชัดเจน แต่ไม่ได้คาดหวังว่าผลว่าจะออกมาแพ้หรือชนะ เพราะกระบวนการพิจารณาเรื่องนี้คงต้องใช้เวลา
ทั้งนี้ ยอมรับว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับแทกส์นั้น ทำให้ภาพในการลงทุนของประเทศไทยไม่มีเสน่ห์ และรัฐบาลไทยควรเข้ามาดูแลเพื่อให้เกิดความชัดเจนเหมาะสมเพื่อสร้างความเชื่อมั่นกับนักลงทุนต่างชาติจะเข้ามาลงทุนในประเทศไทย โดยการตัดสินใจเข้ามาลงทุนในประเทศไทยผ่านการถือหุ้นในบริษัท แทกส์ ก็เพราะเห็นว่า ประเทศไทยเป็น 1 ใน 2 ประเทศที่มีโอกาสทางธุรกิจและน่าลงทุน นอกจากเวียดนาม ดังนั้น เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้นกระบวนการตัดสินจะต้องมีความเป็นธรรม และชัดเจน เพราะจะเป็นพื้นฐานในการตัดสินใจของนักลงทุน
“นักลงทุนต่างชาติมองเหมือนกันในเรื่องความยุติธรรม โปร่งใส และยอมรับว่า การเมืองที่ไม่มีความมั่นคงของไทยเป็นปัจจัยหลักในการตัดสินใจเข้ามาลงทุนของนักลงทุน ซึ่งการประสานกับรัฐบาลไทยผ่านรัฐบาลมาเลเซียเพราะรัฐบาลมาเลเซียจะดูแลบริษัทของคนมาเลเซียที่ไปลงทุนต่างชาติในกรณีที่มีปัญหาเกิดขึ้น และข้อสรุปของผู้บริหารแทกส์ในการฟ้องร้องต่อศาลนั้น เพราะเชื่อว่าจะได้รับความยุติธรรม” ไมเคิล กล่าว
อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่า กรณีการลงทุนในสัมปทานนั้น หลีกเลี่ยงที่การเมืองจะเข้ามาเกี่ยวข้องไม่ได้ และก่อนที่จะเข้ามาซื้อหุ้นแทกส์ ได้ทราบข่าวกรณีที่แทกส์มีความเกี่ยวข้องกับน้องสาว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีไทย แต่ไม่ได้ให้ความสำคัญในประเด็นดังกล่าว เพราะมองที่ตัวธุรกิจเป็นหลักว่ามีอนาคต มีความเหมาะสมที่จะเข้ามาลงทุน และดราก้อนกรุ๊ป ยึดหลักดำเนินงานด้วยความโปร่งใส ดังนั้น ธุรกิจที่ดราก้อนกรุ๊ปเข้าไปลงทุนก็จะต้องโปร่งใสด้วย
ไมเคิล กล่าวว่า การเติบโตของธุรกิจด้านการบินโดยเฉพาะสนามบินนั้นเป็นไปอย่างรวดเร็ว ดังนั้นจึงเห็นโอกาสของธุรกิจการให้บริการภาคพื้นดิน และเห็นศักยภาพของแทกส์ อย่างไรก็ตาม กรณีที่ ทอท.จะขายหุ้นนั้นยังไม่ทราบ แต่ตามหลักหากจะมีการขายหุ้นก็ต้องแจ้งกับผู้ถือหุ้นอื่นๆ ให้ทราบก่อน แต่ขณะนี้ ทอท.ยังไม่มีข้อเสนอนี้ออกมา
ทั้งนี้ ผู้ถือหุ้นแทกส์ ประกอบด้วย บริษัท เอสเจ แอสเสท แมเนจเม้นท์ จำกัด 48.5% ทอท. 28.5% บริษัท เวิล แทรเวล เซอร์วิส 15% และกลุ่มเพาเวอร์ลิงค์ 8%
นายทิมโมที ลิม รองประธานบริษัท ดราก้อน กรุ๊ป กล่าวว่า ดราก้อน กรุ๊ป มีรายได้ในปี 2551 ประมาณ 13,300 ล้านบาท โดยเป็นรายได้จากแทกส์ประมาณ 1,300 ล้านบาท โดยดราก้อน กรุ๊ปทำธุรกิจทั้งด้านอุปกรณ์ชิ้นส่วนอิเลกทรอนิกส์ สินค้าอุปโภค บริโภคและบริการ โดยมี 17 โรงงานทั่วโลก เช่น สิงคโปร์ มาเลเซีย จีน พิลิปปินส์ ไทย สกอตแลนด์ และมี 45 สำนักงานใน 12 ประเทศ เช่น เกาหลี ฮ่องกง ไต้หวัน ไทย อังกฤษ อเมริกา อินเดีย
นายทิมโมที ลิม กล่าวว่า บริษัทได้รับคัดเลือกจากรัฐบาลจีนให้เป็นผู้ต่อเรือ จิ้งหง โดยใช้ไม้ทั้งหมด มูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาทเพื่อบันทึกด้านประวัติศาสตร์ความยิ่งใหญ่ในการเดินเรือของจีน ซึ่งเป็นผลมาจากการความไว้วางใจของรัฐบาลจีนต่อบริษัท และพื้นฐานการทำธุรกิจของดราก้อน กรุ๊ป แม้กรณีที่ ทอท.บอกเลิกสัญญาแทกส์ ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของดราก้อน กรุ๊ป จะไม่กระทบต่อการดำเนินธุรกิจของดราก้อน กรุ๊ป แต่สำหรับแทกส์เองที่ ดราก้อน กรุ๊ป เข้าไปลงทุนเพราะเห็นว่ามีโอกาสทางธุรกิจในอนาคตมาก เนื่องจากอีก 10 ปีข้างหน้ารัฐบาลจีนจะสร้างสนามบินอีกประมาณ 100 แห่ง จะสามารถนำแทกส์เข้ามาต่อยอดธุรกิจด้านการให้บริการด้านการบินได้
นายลาดหญ้า อูริยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร แทกส์ กล่าวว่า ดราก้อน กรุ๊ป มองว่า อีก 10 ปีจีนจะสร้างสนามบินอีกกว่า 100 แห่ง ความสัมพันธ์ที่ดีของดราก้อน กรุ๊ป จะทำให้แทกส์มีโอกาสเข้าไปมีส่วนร่วมในธุรกิจสนามบินที่จะเกิดขึ้นใหม่ได้มาก เพราะพื้นฐานด้านศักยภาพของแทกส์มีความพร้อม จากผลประกอบการตลอด 19 ปีมีกำไรสามารถปันผลให้ผู้ถือหุ้นมาตลอด และมีพนักงานกว่า 5,000 คน ที่มีประสบการณ์ ไม่ต้องสร้างใหม่และเสียเวลาในการเรียนรู้