ตลาดหุ้นไทยสุดคึก ดัชนีปิดบวก 16.88 จุด สูงสุดในรอบ 1 ปี เป็นไปตามทิศทางตลาดหุ้นภูมิภาค โดยมีแรงซื้อในกลุ่มพลังงาน พร้อมแนะระวัง 2 ปัจจัยเสี่ยง ทั้งผลการประเมิน 19 แบงก์สหรัฐฯ ที่จะประกาศในคืนวันที่ 7 พ.ค.นี้ และผลประกอบการ บจ.ที่จะประกาศในสัปดาห์หน้า
ภาวะการลงทุนในตลาดหุ้นไทย วันนี้ (6 พฤษภาคม 2552) ดัชนีปิดตลาดที่ระดับ 523.14 จุด เพิ่มขึ้น 16.88 จุด หรือเพิ่มขึ้น 3.33% โดยมีมูลค่าการซื้อขาย 30,862.80 ล้านบาท สูงสุดในรอบ 1 ปี เมื่อเทียบกับวันที่ 22 พ.ค.51 ที่มีมูลค่าการซื้อขาย 31,600.96 ล้านบาท ส่วนตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ ปิดที่ 168.58 จุด เพิ่มขึ้น 3.12 จุด ด้วยมูลค่าซื้อขาย 258.76 ล้านบาท
ด้านสัดส่วนการลงทุนแบ่งเป็นนักลงทุนรายย่อยขายสุทธิที่ 1,662.03 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิที่ 808.71 ล้านบาท และนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิที่ 853.32 ล้านบาท
น.ส.มยุรี โชวิกรานต์ ผู้อำนวนการอาวุโส บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่วว่า การลงทุนในตลาดหุ้นไทยวันนี้ ดัชนียืนในแดนบวกได้ตลอดทั้งวัน เป็นตามทิศทางตลาดหุ้นภูมิภาคที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1-2% ประกอบกับดัชนีได้ผ่านแนวต้านที่ระดับ 510-515 จุด และมูลค่าการซื้อขายหนาแน่น
"คาดว่า นักกลงทุนเข้ามาเก็งกำไรหุ้นกลุ่มพลังงาน จึงช่วยดึงให้ดัชนีดีดตัวขึ้นได้ทั้งที่ไม่มีปัจจัยพื้นฐานสนับสนุน แต่เป็นการเข้าลงทุนโดยดูภาวะตลาดเป็นหลัก"
ส่วนแนวโน้มตลาดหุ้นไทย วันพรุ่งนี้ (7 พฤษภาคม 2552) คาดว่า ตลาดหุ้นไทยยังปรับขึ้นได้ต่อเนื่อง โดยประเมินแนวต้านที่ 525-530 จุด และแนวรับที่ 520 จุด แต่ต้องระมัดระวังการลงทุน เพราะยังมีปัจจัยเสี่ยง 2 ด้าน คือการประกาศผลการทดสอบการประเมินวิกฤตสถาบันการเงินสหรัฐ 19 แห่ง ในคืนวันที่ 7 พฤษภาคม 2552 นี้
อย่งไรก็ตาม สัปดาห์หน้าจะมีการประกาศผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน (บจ.)ไทยเป็นสัปดาห์สุดท้าย จึงอาจทำให้หุ้นหลักที่ปรับตัวขึ้นจากการเก็งกำไรผลประกอบการถูกแรงเทขายออกมา ด้านกลยุทธ์ลงทุน เมื่อดัชนีเพิ่มขึ้นควรทยอยเทขาย และรอซื้อช่วงอ่อนตัวในสัปดาห์หน้า
