xs
xsm
sm
md
lg

HTECHอ่อยผลงานQ1หดมั่นใจไตรมาส2เจ๋ง ชี้ออร์เดอร์เพียบลดวันทำงานเพื่อหั่นต้นทุน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

แฮลเซี่ยนฯ คาดรายได้ไตรมาสแรกปีนี้ต่ำกว่าไตรมาสสุดท้ายปี 51 เหตุพิษเศรษฐกิจและการเมืองป่วน ทำออเดอร์หด ชี้Q2เริ่มเห็นสัญญาณกลุ่มอุตสาหกรรมฟื้นตัว เพราะมีคำสั่งซื้อเข้ามา แถมระบายสินค้าในสต๊อกออก ส่งผลงานให้ฟื้นตาม เตรียมอัดงบ 60-65 ล้านบาท ซื้อเครื่องจักรใหม่ ผลิตสินค้าใหม่มาร์จินสูงสู่ตลาดกรกฏาคมนี้ มั่นใจได้รับการตอบรับดี พร้อมลดวันทำงานลงเหลือ 6 วันต่อสัปดาห์เพื่อลดต้นทุน

นายพีท ริมชลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แฮลเซี่ยน เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ HTECH เปิดเผยว่า บริษัทฯ คาดการณ์รายได้ในไตรมาส 1 ปีนี้ที่กำลังจะแจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยนั้นน่าจะปรับลดลงเล็กน้อยไตรมาส 4 ปี 51 ก่อน เนื่องปัญหาสภาพเศรษฐกิจและความวุ่นวายทางการเมือง

สำหรับแนวโน้มอุตสาหกรรมชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์นั้นเริ่มทิศทางที่ดีขึ้น โดยเห็นสัญญาณตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคม – เมษายน 52 โดยเฉพาะอุตฯ ฮาร์ดดิสก์ที่เริ่มมียอดคำสั่งซื้อ (ออเดอร์) เข้ามาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงได้มีการจำหน่ายสินค้าในสต๊อกเก่าของบริษัทออกไป แต่อย่างไรก็ตามเชื่อว่าภาพรวมแล้วคงไม่ดีเท่ากับปีที่แล้ว

" จากตัวเลขออร์เดอร์ของบริษัทหลายแห่งช่วงปลายเดือนมีนาคมถึงเมษายน ที่เริ่มทยอยเข้ามาถือได้ว่าเป็นสัญญาณที่ดี โดยเฉพาะชิ้นส่วนประเภทฮาร์ดดิส ประกอบกับบริษัทต่าง ๆ เริ่มเดินเครื่องผลิตตามออร์เดอร์และรับพนักงานเพิ่ม จึงเชื่อว่าน่าจะส่งผลดีต่องบการเงินของบริษัทในไตรมาส 2 ปีนี้เช่นกัน " นายพีท กล่าว
ขณะเดียวกันปีนี้บริษัทฯ มีแผนเจาะกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ เพิ่มเติม เช่น กลุ่มอุตสาหกรรมไม้เฟอร์นิเจอร์ กลุ่มชิ้นส่วนอุตสหกรรมการบิน และกลุ่มธุรกิจก่อสร้าง จากเดิมที่กลุ่มลูกค้าหลักของ HTECH จะเป็นกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็คทรอนิกส์และกลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์

อย่างไรก็ดี บริษัทฯ เตรียมทุ่มงบจำนวน 60-65 ล้านบาท เพื่อใช้ในการซื้อเครื่องจักรใหม่ 2 เครื่อง ซึ่งประกอบไปด้วยเครื่องเจียระไน PCD 6 แกน และเครื่องเจียระไน CARBIDE เพื่อผลิตภัณฑ์ใหม่จำนวน 2 ตัว ได้แก่ เครื่องตัดเฉือนโลหะทำด้วยคาร์ไบต์ (CARBIDE TOOLS) ซึ่งประเมินว่าจะสามารถช่วยเพิ่มรายได้ให้กับ HTECH ประมาณ 10-15% ของยอดขายรวม และสว่านปลายเพชรสังเคราะห์ (PCD DRILL) ที่บริษัทผู้ผลิตรายแรกของประเทศไทย ซึ่งจะทำให้มีมาร์จิ้นค่อนข้างสูง จึงมั่นใจว่าน่าจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ทั้งนี้ประเมินว่าสินค้าดังกล่าวจะเริ่มจำหน่ายในเดือนกรกฏาคมนี้

โดยปัจจุบัน แม้ว่าภาวะเศรษฐกิจซบเซา บริษัทไม่มีแผนที่จะปรับลดพนักงานเหมือนหลายบริษัทที่กระทำไปแล้วส่งผลให้ตัวเลขจำนวนคนว่างงานเพิ่มขึ้นในระบบ ซึ่งในส่วนของบริษัทนั้นถือว่าไม่จำเป็น เพราะบริษัทจะหันไปเน้นการปรับลดค่าใช้จ่ายด้านอื่น กล่าวคือการปรับลดระยะเวลาในการทำงานลงแทนจากเดิม 6 วันต่อสัปดาห์ เหลือ 5 วันต่อสัปดาห์ โดยการลดเวลาการทำงานนี้จะสามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายในส่วนโรงงานและค่าใช้จ่ายของพนักงานได้

ทั้งนี้ มติที่ประชุมผู้ถือหุ้นเมื่อวันที่ 27 เมษายน 52ได้มีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลสำหรับผลประกอบการประจำปี 51 ในอัตราหุ้นละ 0.10 บาทต่อหุ้น โดยวิธีปิดสมุด ทะเบียนในวันที่ 16 เมษายน 52 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวั นที่ 15 พฤษภาคมนี้ หลังผลประกอบการงวดสิ้นปี 51 บริษัทมีกำไรสุทธิ 71.00 ล้านบาท เพิ่มจากปี 50 ที่มี 38.73 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 32.37 ล้านบาท คิดเป็น 83.32% ผลจากต้นทุนขายลดลง ส่งผลให้กำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น ตลอดจนความสามารถในการหาวัตถุดิบที่ลดลง อีกทั้งได้รับการส่งเสริมการลงทุนจาก BOI
กำลังโหลดความคิดเห็น