xs
xsm
sm
md
lg

แบงก์ทยอยลดดอกเบี้ย 0.15-0.25% ลดแรงกดดัน ดบ.ขาลง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ธนาคารพาณิชย์ แห่ปรับลดอัตราดอกเบี้ย ลดแรงกดดันตลาด ธ.กรุงไทย ประกาศลดดอกเบี้ย 2 ขา ดอกเบี้ยเงินฝากลด 0.15-0.25% ดอกเบี้ยเงินกู้ 0.25% โดยมีผลวันนี้ ธ.ไทยพาณิชย์ ลดดอกเบี้ยเงินฝาก 0.25% มีผลวานนี้ ส่วนธนาคารนครหลวงไทย เตรียมลดดอกเบี้ยเงินฝาก หวั่นเม็ดเงินไหลเข้า

รายงานข่าวจากธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) แจ้งว่า ธนาคารได้ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากลง 0.15-0.25% และลดอกเบี้ยเงินกู้0.25% โดยมีผลตั้งแต่วันนี้ (27 มีนาคม 2552) เป็นต้นไป

อัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 3 เดือน ลดเหลือ 0.75% เงินฝากประจำ 6 เดือน และ 12 เดือน ลดจาก 1.25% เหลือ 1% เงินฝากประจำ 24 เดือน จาก 1.50% เหลือ 1.25% ส่วนดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลง อยู่ที่ 0.50% และเงินฝากประจำ 36 เดือนไม่เปลี่ยนแปลง อยู่ที่ 1.50%

ส่วนดอกเบี้ยเงินกู้ ประเภทลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี แบบมีระยะเวลา (MLR) ปรับลดจาก 6.25% เหลือ 6% ประเภทลูกค้าเงินเบิกเกินบัญชี (MOR) จาก 6.50% เหลือ 6.25% และประเภท ลูกค้ารายย่อยชั้นดี (MRR) ปรับลดจาก 6.75% เหลือ 6.50%

ด้านธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ระบุว่า ธนาคารได้ประกาศปรับลดดอกเบี้ยเงินฝากลง 0.25% โดยเงินฝากประจำ 3 เดือน ปรับลดดอกเบี้ยจาก 0.75-1.00% เหลือ 0.75% เงินฝากประจำ 6 เดือน ปรับลดจาก 1.00% มาที่ 0.75% เงินฝากประจำ 12 เดือน อยู่ที่ 1.00% ไม่เปลี่ยนแปลง เงินฝากประจำ 24 เดือน จาก 1.50% เหลือ 1.25% ส่วนเงินฝากออมทรัพย์ คงเดิมที่ 0.50% โดยมีผลตั้งแต่วานนี้ (24 มีนาคม 2552) ที่ผ่านมา

ส่วนอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง โดยดอกเบี้ยลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทเงินกู้แบบมีระยะเวลา (MLR) อยู่ที่ 6.25% อัตราดอกเบี้ยลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทเงินเบิกเกินบัญชี (MOR) อยู่ที่ 6.50% และดอกเบี้ยลูกค้ารายย่อยชั้นดี (MRR) อยู่ที่ 6.75%

ขณะที่ธนาคารนครหลวงไทย จำกัด (มหาชน) ก็นเตรียมปรับลดดอกเบี้ยเงินฝาก ตามทิศทางธนาคารใหญ่ หวั่นรับภาระเงินฝากไหลเข้าไม่ไหว โดยสาเหตุที่ธนาคารต้องเตรียมปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากระยะสั้น 3 เดือน และ 6 เดือน เพราะเกรงว่าจะรับภาระเงินไหลเข้าจำนวนมากไม่ไหว หลังจากที่ธนาคารขนาดใหญ่ได้มีการปรับลดดอกเบี้ยไปแล้วเมื่อกลางสัปดาห์

ทั้งนี้ ในส่วนดอกเบี้ยระยะกลางและระยะยาวตั้งแต่ 24 เดือนขึ้นไป จะพยายามยืนไว้ที่ระดับเดิม โดยปัจจุบันสัดส่วนเงินฝากระยะสั้นกับระยะกลางถึงระยะยาวอยู่ที่ 70% ต่อ 30%

สำหรับดอกเบี้ยเงินกู้ จะพิจารณาปรับลดให้สอดคล้องกับตลาด แต่ที่ผ่านมาธนาคารมีภาระดอกเบี้ยค้างจ่ายจำนวนมากจากการระดมเงินฝากระยะสั้น 4 เดือน และ 5 เดือน เมื่อปลายปีที่แล้ว หากปรับลดดอกเบี้ยเงินกู้เร็ว ธนาคารต้องแบกรับภาระต้นทุนหนัก ดังนั้นการลงดอกเบี้ยจึงต้องดูความเหมาะสมของธนาคารเอง และรอความเคลื่อนไหวของธนาคารขนาดใหญ่

นายชัยวัฒน์ อุทัยวรรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารนครหลวงไทย เปิดเผยว่า ธนาคารจะปรับลด อัตราดอกเบี้ยลงแน่นอนในเร็วๆ นี้ หลังจากที่ปรับลดไปแล้วเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา แต่ปรับลงในอัตราเท่าไหร่นั้น ขอฟังผลการประชุมของ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) วันที่ 8 เมษายน 2552 นี้ ก่อนว่า กนง. จะส่งสัญญาณทิศทางดอกเบี้ยอย่างไร
กำลังโหลดความคิดเห็น