เอแบคโพลล์ เผยผลสำรวจ พบ ปชช. 82.8% ต้องการใช้จ่ายเช็คช่วยชาติ 2 พันบาท มากกว่าเก็บไว้ และอยากให้มีอีกครั้งใน 6 เดือน ส่วนการเตรียมความพร้อม เกือบสอบตก เพราะลูกล่อลูกชนอ่อนกว่า รบ.แม้ว
สำนักวิจัยเอแบคโพลล์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เปิดเผยผลสำรวจความรู้สึกของประชาชนที่มีสิทธิรับเช็คช่วยชาติต่อการบริหารจัดการแจกเช็คและความตั้งใจจับจ่ายใช้สอย พบว่าประชาชนส่วนใหญ่มีความตั้งใจจะนำเช็คช่วยชาติ 2,000 บาทไปจับจ่ายใช้สอยในทันทีถึง 82.8% ขณะที่อีก 17.2% ระบุว่าจะเก็บไว้ก่อน
การนำเช็คช่วยชาติไปใช้จ่ายส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของการซื้ออาหาร รองลงมา คือ ซื้อของใช้ ใช้หนี้ และเป็นเงินดาวน์ซื้อสินค้า คิดเป็นจำนวนเงินเฉลี่ยที่ตั้งใจจะนำไปใช้จ่ายเท่ากับ 1,558 บาท นอกจากนี้ประชาชนส่วนใหญ่ยังต้องการให้รัฐบาลจัดโครงการเช็คช่วยชาติขึ้นอีกใน 6 เดือนข้างหน้า
สำหรับความเห็นเรื่องการบริหารจัดการเช็คจากการให้คะแนนเต็ม 10 คะแนนนั้น พบว่าเรื่องที่ประชาชนส่วนใหญ่ให้คะแนนมากสุด คือ ความสามารถของเจ้าหน้าที่ในการอธิบายและตอบข้อซักถาม 5.93 คะแนน รองลงมา ความยินดีต้อนรับจากพนักงานประกันสังคมเมื่อไปติดต่อขอรับเช็ค 5.87 คะแนน ส่วนเรื่องที่ได้คะแนนน้อยสุดที่ 4.92 คะแนน คือ ความสะดวกในการเดินทางไปรับเช็ค
กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ยังเห็นว่ารัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ยังบริหารจัดการเรื่องการอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนได้น้อยกว่ารัฐบาลของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และอาจจะส่งผลให้รัฐบาลชุดนี้ต้องเสียภาพลักษณ์ได้
นายนพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยเอแบคโพลล์ กล่าวว่า ผลสำรวจครั้งนี้ชี้ให้เห็นว่าการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพไม่เพียงพอของหน่วยงานภาครัฐอาจส่งผลทำให้นโยบายสำคัญของรัฐบาลประสบปัญหาไม่สามารถทำให้ประชาชนพอใจตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้
การสำรวจความคิดเห็นดังกล่าว ได้มาจากประชาชนผู้มีสิทธิรับเช็คใน 18 จังหวัดของประเทศ กลุ่มตัวอย่างรวม 1,192 คน ดำเนินการสำรวจในวันที่ 26 มีนาคม 2552
