กรมธนารักษ์เพิ่มประสิทธิภาพใช้เหรียญ ใหม่ คลอดโครงการ 'ทุบกระปุกเหรียญเพื่อธนบัตร' เริ่มมี.ค.นี้ เผยขณะนี้ได้ลงนามซื้อเหรียญบาทเปล่าเพื่อทำเหรียญใหม่แล้ว พร้อมเร่งให้ผู้ผลิตส่งมอบภายใน 100 วัน คาดจะสามารถผลิตใช้ได้ทันในเดือน มิ.ย.-ก.ค.นี้
นายเทวัญ วิชิตะกุล อธิบดีกรมธนารักษ์ เปิดเผยว่า จากภาวะเศรษฐกิจชะลอมีผลทำให้เกิดการแลกคืนเหรียญกลับมายังกรมธนารักษ์จำนวนมาก โดยเหรียญหลักที่นำมาแลกคืนเป็นเหรียญราคาสูง เช่น เหรียญ 10 บาท ซึ่งสอดคล้องกับการดำเนินงานของกรมธนารักษ์ที่ต้องการบริหารและจ่ายแจกเหรียญดี และเหรียญชำรุดออกจากกัน ซึ่งกำหนดออกมาเป็นโครงการทุบกระปุกเหรียญเพื่อธนบัตร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้เหรียญกษาปณ์ทั้งหมด
อีกทั้งปีนี้กรมธนารักษ์มีนโยบายเปลี่ยนเหรียญเก่าเป็นเหรียญใหม่ 9 ชนิดเหรียญ จำนวน 2 พันล้านเหรียญ ซึ่งประกอบด้วยเหรียญ 10 บาท เหรียญ 5 บาท เหรียญ 2 บาท เหรียญ 1 บาท เหรียญ 50 สตางค์ เหรียญ 25 สตางค์ เหรียญ 10 สตางค์ เหรียญ 5 สตางค์ และเหรียญ 1 สตางค์ เพื่อประหยัดต้นทุนการผลิตที่เพิ่มขึ้นมากหลังวัตถุดิบที่ใช้ผลิตเหรียญเพิ่ม หากเปลี่ยนได้ทั้งหมดจะมีผลให้กรมธนารักษ์สามารถประหยัดงบประมาณที่จะใช้ผลิตเหรียญได้ถึง 1.7 พันล้านบาทต่อปี โดยจากเม็ดเงินดังกล่าวจะนำส่งคืนรัฐ 70% และอีก 30% จะนำเข้ากองทุนหมุนเวียนเหรียญกษาปณ์ต่อไป
'เดือน มี.ค.นี้กรมจะเปิดโครงการทุบกระปุกเหรียญเพื่อธนบัตร ให้ประชาชนที่มีเหรียญสะสมไว้ในกระปุกออมสินจำนวนมากมาแลกคืนเป็นธนบัตรกลับไป โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น' นายเทวัญกล่าว
นายเทวัญกล่าวอีกว่า สำหรับเหรียญบาทใหม่ที่จะนำ ออกมาใช้ ขณะนี้ทาง นพ.พฤติชัย ดำรงรัตน์ รมช.คลัง ที่กำกับ ดูแลกรมธนารักษ์ ได้ลงนามซื้อเหรียญบาทเปล่า ซึ่งจะเร่งให้ ผู้ผลิตส่งมอบภายใน 100 วัน คาดจะสามารถใช้ได้ทันในเดือนมิ.ย.-ก.ค.นี้
นายเทวัญ วิชิตะกุล อธิบดีกรมธนารักษ์ เปิดเผยว่า จากภาวะเศรษฐกิจชะลอมีผลทำให้เกิดการแลกคืนเหรียญกลับมายังกรมธนารักษ์จำนวนมาก โดยเหรียญหลักที่นำมาแลกคืนเป็นเหรียญราคาสูง เช่น เหรียญ 10 บาท ซึ่งสอดคล้องกับการดำเนินงานของกรมธนารักษ์ที่ต้องการบริหารและจ่ายแจกเหรียญดี และเหรียญชำรุดออกจากกัน ซึ่งกำหนดออกมาเป็นโครงการทุบกระปุกเหรียญเพื่อธนบัตร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้เหรียญกษาปณ์ทั้งหมด
อีกทั้งปีนี้กรมธนารักษ์มีนโยบายเปลี่ยนเหรียญเก่าเป็นเหรียญใหม่ 9 ชนิดเหรียญ จำนวน 2 พันล้านเหรียญ ซึ่งประกอบด้วยเหรียญ 10 บาท เหรียญ 5 บาท เหรียญ 2 บาท เหรียญ 1 บาท เหรียญ 50 สตางค์ เหรียญ 25 สตางค์ เหรียญ 10 สตางค์ เหรียญ 5 สตางค์ และเหรียญ 1 สตางค์ เพื่อประหยัดต้นทุนการผลิตที่เพิ่มขึ้นมากหลังวัตถุดิบที่ใช้ผลิตเหรียญเพิ่ม หากเปลี่ยนได้ทั้งหมดจะมีผลให้กรมธนารักษ์สามารถประหยัดงบประมาณที่จะใช้ผลิตเหรียญได้ถึง 1.7 พันล้านบาทต่อปี โดยจากเม็ดเงินดังกล่าวจะนำส่งคืนรัฐ 70% และอีก 30% จะนำเข้ากองทุนหมุนเวียนเหรียญกษาปณ์ต่อไป
'เดือน มี.ค.นี้กรมจะเปิดโครงการทุบกระปุกเหรียญเพื่อธนบัตร ให้ประชาชนที่มีเหรียญสะสมไว้ในกระปุกออมสินจำนวนมากมาแลกคืนเป็นธนบัตรกลับไป โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น' นายเทวัญกล่าว
นายเทวัญกล่าวอีกว่า สำหรับเหรียญบาทใหม่ที่จะนำ ออกมาใช้ ขณะนี้ทาง นพ.พฤติชัย ดำรงรัตน์ รมช.คลัง ที่กำกับ ดูแลกรมธนารักษ์ ได้ลงนามซื้อเหรียญบาทเปล่า ซึ่งจะเร่งให้ ผู้ผลิตส่งมอบภายใน 100 วัน คาดจะสามารถใช้ได้ทันในเดือนมิ.ย.-ก.ค.นี้
