รถบรรทุก-หัวลากและรถบัส “สแกนเนีย” ไม่หวั่นเศรษฐกิจดิ่งเหว ประกาศปีวัวบ้าขอโต 10-15% สยายปีกเจาะกลุ่มรถใช้งานในเหมืองและรถขนส่งวัตถุอันตราย พร้อมเน้นงานบริการมัดใจลูกค้า ล่าสุด 240 ล้านบาท ตั้งสำนักงานใหญ่แห่งใหม่และศูนย์บริการครบวงจร เผย อนาคตไทยสดใสเป็นเส้นทางการค้าสู่ประเทศจีนตอนใต้
นายวิชัย จิราธิยุต กรรมการผู้จัดการ บริษัท สแกนเนีย สยาม จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายรถบรรทุกหัวลากและรถบัสขนาดใหญ่ยี่ห้อ “สแกนเนีย” (SCANIA) เปิดเผยว่า ปี 2552 ถือเป็นปีที่ท้าทายของสแกนเนียในประเทศไทย แม้เศรษฐกิจจะได้รับผลกระทบจากวิกฤตการเงินโลก แต่สแกนเนียยังตั้งเป้าเติบโตต่อเนื่อง หลังจากปีที่ผ่านมามีผลการดำเนินงานเพิ่มขึ้นประมาณ 5% หรือมียอดขายรวมทั้งหมดกว่า 260 คัน
“ปีนี้สแกนเนียตั้งเป้าการขายไว้ที่ประมาณ 300 คัน หรือเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 10-15% โดยแบ่งเป็นรถหัวลากและรถบรรทุก 180 คัน และรถบัส 120 คัน ซึ่งเป็นผลมาจากการขยายสู่กลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ อย่างรถบรรทุกและหัวลากที่ใช้งานในเหมือง หรือรถขนส่งวัตถุอันตราย ที่ต้องการรถที่สมรรถนะและประสิทธิภาพสูง กลุ่มนี้เราจึงตั้งเป้าไว้ถึง 180 คัน จากปีที่ผ่านมาทำได้ 135 คัน ขณะที่รถบัสขนาดใหญ่คงได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจค่อนข้างมาก ทำให้ลดเป้าหมายลงเหลือ 120 คัน จากปีที่แล้วทำได้ 135 คัน”
นายวิชัย กล่าวว่า นอกจากการเปิดตลาดใหม่ๆ แล้ว สแกนเนียยังคงให้ความสำคัญกับการบริการ และเพิ่มความพร้อมด้านการจัดหาอะไหล่ โดยจัดโปรแกรมด้าน R&M และ M-Content ที่เหมาะสมกับสำหรับลูกค้าในแต่ละราย และได้เพิ่มบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า รวมทั้งได้พัฒนาศูนย์บริการมาตรฐานถึง 6 แห่งทั่วประเทศ ได้แก่ หาดใหญ่ สุราษฎร์ธานี สระบุรี ชลบุรี และกำแพงเพชร
“เพื่อเพิ่มศักยภาพด้านบริการ ล่าสุด สแกนเนียได้ตั้งและเปิดสำนักงานใหญ่แห่งใหม่ รวมมูลค่าลงทุน 240 ล้านบาท ซึ่งเป็นสำนักงานที่งานงานขายรถทุกประเภทของสแกนเนีย อะไหล่ และศูนย์บริการซ่อมและบำรุงรักษารถครบวงจร พร้อมอุปกรณ์ที่ทันสมัย เช่น เครื่องทดสอบระบบเบรกรองรับได้ทุกยี่ห้อ เครื่องช่วยในการปรับตั้งศูนย์ล้อ และเครื่องมือพิเศษเฉพาะของสแกนเนีย โดยตั้งอยู่บนถนนบางนา-ตราด กม.19 มีพื้นที่มากถึง 16 ไร่ และจะมีการลงทุนคอนเทนเนอร์บริการหลังการขายให้ครอบคลุมทุกภูมิภาค มูลค่าลงทุนประมาณ 1 ล้านบาทต่อแห่ง และคาดว่า ไตรมาสแรกปีนี้จะเปิดแห่งแรกได้ที่ภาคเหนือ ”
นายปีเตอร์ โจบลอม กรรมการผู้จัดการ สแกนเนียภาคพื้นเอเชียอาคเนย์ เปิดเผยว่า ประเทศไทยเป็นจุดที่เหมาะสมของการขนส่งทางการค้า โดยจะเป็นทางผ่านสู่ตอนใต้ของประเทศจีน ซึ่งปัจจุบันเส้นทางเชื่อมระหว่างไทยกับจีนตอนใต้ หรือสาย R3A จากอำเภอเชียงของ ในประเทศไทย ผ่านประเทศลาว และเข้าสู่ประเทศจีนทางตอนใต้ได้เกือบเสร็จแล้ว อนาคตไทยจึงเป็นจุดผ่านสำคัญของการขนส่งทางการค้าที่สำคัญในภูมิภาคนี้ และจากประสบการณ์ของสแกนเนียในยุโรป การขนส่งระยะทางยาวๆ เช่นนี้ รถสมรรถนะสูง เช่น สแกนเนีย จะตอบสนองได้ดีที่สุด ทำให้สแกนเนียตัดสินใจเข้ามาลงทุนในไทย
นายฮาคาน อีริคสัน กรรมการผู้จัดการ Scania Real Estate ประเทศสวีเดน เปิดเผยว่า แม้จะเกิดวิกฤตเศรษฐกิจโลก แต่จะไม่ส่งผลต่อการลงทุนของสแกนเนีย ซึ่งนอกจากการลงทุนศูนย์บริการครบวงจรในไทยล่าสุด สแกนเนียยังมีโครงการลงทุนทั่วโลกอีก 89 โครงการ และจะสังเกตเห็นว่า ที่ผ่านมา สแกนเนียจะลงทุนในช่วงที่เกิดปัญหาเศรษฐกิจ เพราะเป็นช่วงเวลาที่มีต้นทุนต่ำ และเหมาะสมที่จะเตรียมความพร้อม สำหรับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในอนาคต ซึ่งถึงตรงนั้นทุกฝ่ายจะมุ่งในการขยายตลาดได้อย่างเต็มที่
นายวิชัย จิราธิยุต กรรมการผู้จัดการ บริษัท สแกนเนีย สยาม จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายรถบรรทุกหัวลากและรถบัสขนาดใหญ่ยี่ห้อ “สแกนเนีย” (SCANIA) เปิดเผยว่า ปี 2552 ถือเป็นปีที่ท้าทายของสแกนเนียในประเทศไทย แม้เศรษฐกิจจะได้รับผลกระทบจากวิกฤตการเงินโลก แต่สแกนเนียยังตั้งเป้าเติบโตต่อเนื่อง หลังจากปีที่ผ่านมามีผลการดำเนินงานเพิ่มขึ้นประมาณ 5% หรือมียอดขายรวมทั้งหมดกว่า 260 คัน
“ปีนี้สแกนเนียตั้งเป้าการขายไว้ที่ประมาณ 300 คัน หรือเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 10-15% โดยแบ่งเป็นรถหัวลากและรถบรรทุก 180 คัน และรถบัส 120 คัน ซึ่งเป็นผลมาจากการขยายสู่กลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ อย่างรถบรรทุกและหัวลากที่ใช้งานในเหมือง หรือรถขนส่งวัตถุอันตราย ที่ต้องการรถที่สมรรถนะและประสิทธิภาพสูง กลุ่มนี้เราจึงตั้งเป้าไว้ถึง 180 คัน จากปีที่ผ่านมาทำได้ 135 คัน ขณะที่รถบัสขนาดใหญ่คงได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจค่อนข้างมาก ทำให้ลดเป้าหมายลงเหลือ 120 คัน จากปีที่แล้วทำได้ 135 คัน”
นายวิชัย กล่าวว่า นอกจากการเปิดตลาดใหม่ๆ แล้ว สแกนเนียยังคงให้ความสำคัญกับการบริการ และเพิ่มความพร้อมด้านการจัดหาอะไหล่ โดยจัดโปรแกรมด้าน R&M และ M-Content ที่เหมาะสมกับสำหรับลูกค้าในแต่ละราย และได้เพิ่มบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า รวมทั้งได้พัฒนาศูนย์บริการมาตรฐานถึง 6 แห่งทั่วประเทศ ได้แก่ หาดใหญ่ สุราษฎร์ธานี สระบุรี ชลบุรี และกำแพงเพชร
“เพื่อเพิ่มศักยภาพด้านบริการ ล่าสุด สแกนเนียได้ตั้งและเปิดสำนักงานใหญ่แห่งใหม่ รวมมูลค่าลงทุน 240 ล้านบาท ซึ่งเป็นสำนักงานที่งานงานขายรถทุกประเภทของสแกนเนีย อะไหล่ และศูนย์บริการซ่อมและบำรุงรักษารถครบวงจร พร้อมอุปกรณ์ที่ทันสมัย เช่น เครื่องทดสอบระบบเบรกรองรับได้ทุกยี่ห้อ เครื่องช่วยในการปรับตั้งศูนย์ล้อ และเครื่องมือพิเศษเฉพาะของสแกนเนีย โดยตั้งอยู่บนถนนบางนา-ตราด กม.19 มีพื้นที่มากถึง 16 ไร่ และจะมีการลงทุนคอนเทนเนอร์บริการหลังการขายให้ครอบคลุมทุกภูมิภาค มูลค่าลงทุนประมาณ 1 ล้านบาทต่อแห่ง และคาดว่า ไตรมาสแรกปีนี้จะเปิดแห่งแรกได้ที่ภาคเหนือ ”
นายปีเตอร์ โจบลอม กรรมการผู้จัดการ สแกนเนียภาคพื้นเอเชียอาคเนย์ เปิดเผยว่า ประเทศไทยเป็นจุดที่เหมาะสมของการขนส่งทางการค้า โดยจะเป็นทางผ่านสู่ตอนใต้ของประเทศจีน ซึ่งปัจจุบันเส้นทางเชื่อมระหว่างไทยกับจีนตอนใต้ หรือสาย R3A จากอำเภอเชียงของ ในประเทศไทย ผ่านประเทศลาว และเข้าสู่ประเทศจีนทางตอนใต้ได้เกือบเสร็จแล้ว อนาคตไทยจึงเป็นจุดผ่านสำคัญของการขนส่งทางการค้าที่สำคัญในภูมิภาคนี้ และจากประสบการณ์ของสแกนเนียในยุโรป การขนส่งระยะทางยาวๆ เช่นนี้ รถสมรรถนะสูง เช่น สแกนเนีย จะตอบสนองได้ดีที่สุด ทำให้สแกนเนียตัดสินใจเข้ามาลงทุนในไทย
นายฮาคาน อีริคสัน กรรมการผู้จัดการ Scania Real Estate ประเทศสวีเดน เปิดเผยว่า แม้จะเกิดวิกฤตเศรษฐกิจโลก แต่จะไม่ส่งผลต่อการลงทุนของสแกนเนีย ซึ่งนอกจากการลงทุนศูนย์บริการครบวงจรในไทยล่าสุด สแกนเนียยังมีโครงการลงทุนทั่วโลกอีก 89 โครงการ และจะสังเกตเห็นว่า ที่ผ่านมา สแกนเนียจะลงทุนในช่วงที่เกิดปัญหาเศรษฐกิจ เพราะเป็นช่วงเวลาที่มีต้นทุนต่ำ และเหมาะสมที่จะเตรียมความพร้อม สำหรับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในอนาคต ซึ่งถึงตรงนั้นทุกฝ่ายจะมุ่งในการขยายตลาดได้อย่างเต็มที่