พบศพชายนิรนามวัยกลางคนเสียชีวิตในกอต้นเข็มเกาะกลางถนนบรมราชชนนี พร้อมพบบัตรประชาชนหักพับทิ้งไว้ในที่เกิดเหตุ เบื้องต้นตำรวจยังไม่ชี้ชัดการตายเป็นลมเอง หรือข้ามถนนไม่พ้นถูกรถเฉี่ยวชน และยังไม่แน่ใจเป็นบัตรของผู้ตายหรือไม่ ต้องรอผลตรวจสอบอีกครั้ง
วันนี้ (16 ต.ค.) เมื่อเวลา 11.30 น. ร.ต.ต.อภิเชษฐ์ ห้วยทราย ร้อยเวร สน.ธรรมศาลา ได้รับแจ้งพบศพผู้เสียชีวิตที่บริเวณเกาะกลางถนนบรมราชชนนี (ขาออก) ช่วงสะพานกลับรถคลองควาย แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา กทม.จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมแพทย์นิติเวช รพ.ศิริราช และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุบริเวณเกาะกลางถนนภายในกอต้นเข็ม พบศพผู้เสียชีวิตเป็นชายนิรนาม 1 ราย อายุประมาณ 30-40 ปี สภาพศพนอนหงายลักษณะขึ้นอืด ตาถลน ลิ้นจุกปาก โดยผู้ตายสวมเสื้อยืดคอกลมแขนสั้นสีน้ำตาล กลางอกสกรีนตัวอักษรภาษาอังกฤษ “EAGLE” สีขาว นุ่งกางเกงขาก๊วยสีขาวถลกขึ้นมาเหนือหัวเข่า มีบาดแผลถูกเย็บที่ศีรษะด้านหลังจำนวน 1 แห่ง ส่วนตามร่างกายพบรอยสักรูปเสือเผ่นที่บริเวณกลางอก และรูปมังกรพันที่แขนทั้ง 2 ข้าง แพทย์สันนิษฐานว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 2-3 วัน จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุอย่างละเอียดพบบัตรประชาชนของนายธิติ ว่าจะเป็นของผู้ตายหรือไม่ เจ้าหน้าที่จึงเก็บเอาไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวนนายเชิดศักดิ์ จันทร์สอน อายุ 23 ปี พนักงานขายรถมือสองประจำเต็นท์ซึ่งอยู่ใกล้จุดเกิดเหตุ กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุเมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมา ตนเห็นผู้ตายซึ่งมีแผลเย็บอยู่ที่ศีรษะด้านหลังและเหมือนคนสติไม่สมประกอบมาเดินป้วนเปี้ยนอยู่ตรงช่วงจุดเกิดเหตุในสภาพอิดโรย หลังจากนั้นก็ไม่เห็นผู้ตายอีกเลย จนกระทั่งวันนี้ได้มีเจ้าหน้าที่สำนักงานเขตทวีวัฒนา มาตัดแต่งต้นไม้ที่บริเวณดังกล่าวแล้วพบศพ ตนจึงวิ่งไปดูและแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ โดยตนคาดว่าผู้ตายน่าจะเป็นคนเดียวกันกับที่เห็นเมื่อ 2-3 วันก่อน
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าผู้ตายอาจจะถูกรถเฉี่ยวชน ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้พบบัตรประชาชนตกอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ เป็นของนายเลิศ สิทธิพันธ์ อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 161/642 ถนนจรัญสนิทวงศ์ แขวงบางขุนศรี เขตบางกอกน้อย ตกอยู่ในสภาพถูกหักพับครึ่งภายในกอต้นเข็มใกล้กับศพผู้ตาย แต่ขณะนี้ยังไม่ทราบว่าผู้ตายเดินข้ามถนน หรืออาจเป็นลมหมดสติไปเองโดยไม่มีใครพบเห็นจึงทำให้เสียชีวิต อย่างไรก็ตามจะตรวจสอบรายชื่อที่พบตามบัตรประชาชนที่ตกอยู่ในที่เกิดเหตุว่ามีความเกี่ยวข้องกับผู้ตายหรือไม่ ก่อนมอบศพส่งให้สถาบันนิติเวชทำการผ่าพิสูจน์สาเหตุการตายอย่างละเอียดอีกครั้ง