บล.นครหลวงไทย เล็งจัดเรทติ้งหุ้น หวังปกป้องนักลงทุนทางอ้อม -ชี้หุ้นที่ลงทุนความเสี่ยงระดับไหน เริ่ม 1 ม.ค.52นี้ เชื่อบริษัทได้ A 20-25% ของบริษัททั้งหมดที่จัดทำ พร้อมเชียร์ลงทุนหุ้นที่ได้A คาดเสนอบอร์ดบริษัทเพื่อพิจารณาปล่อยมาร์จิ้นแก่ลูกค้า
นายสุกิจ อุดมศิริกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) นครหลวงไทย จำกัด เปิดเผยว่า ในเดือนมกราคมปี 52 บริษัทจัดทำบทวิเคราะห์โดยการจัดอันดับความน่าลงทุนของหุ้น โดยใช้ชื่อ SCRIเรทติ้ง ซึ่งจะมีการทบทวนทุกๆ6 เดือน เนื่องจาก การลงทุนนั้นจะได้รับเสี่ยงของสถาบันการเงินโลกทำให้นักลงทุนจะต้องมีการบริหารความเสี่ยงในการลงทุนมากขึ้น ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวจะทำให้นักลงทุนทราบว่าหุ้นที่เข้าไปลงทุนนั้นมีความเสี่ยงอยู่ที่ระดับไหน
ทั้งนี้ การจัดทำเรทติ้งจะเป็นการแนะนำลงทุนในหุ้นที่ดีมีความเสี่ยงต่ำ ซึ่งถือเป็นการคุ้มครอง และปกป้องนักลงทุนทางอ้อม โดยบริษัทจะมีการจัดทำเรทติ้งประมาณ 80 บริษัท โดยให้ระดับ A B C โดยใช้เกณฑ์ในการพิจารณา 2 ส่วน คือ 1.ฐานะทางการเงิน คือ จะพิจารณาความสามารถในการชำระหนี้ คะแนนธรรมาภิบาบาล(CG)จากที่สมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (ไอ โอดี) มาตรฐานทางบัญชี โดยนำผลจากการตรวจสอบของผู้ตรวจสอบบัญชีนำมาพิจากรณา และ 2.การเติบโตรายได้ของบริษัทจากการเทียบกับรายได้ย้อนหลัง 3 ปี
สำหรับบริษัทที่ได้คะแนน70ขึ้นไปจะได้ A ซึ่งจะต้องได้คะแนนดีทั้ง2 ส่วนทั้งฐานะการเงินและการเติบโตของบริษัท ซึ่งหากได้คะแนนดีเพียงข้อเดียวก็จะได้ B และหากได้คะแนน 2 ส่วนไม่ดีก็จะได้ C และหากต่ำกว่าCนั้นบริษัทจะไม่มีการให้เรทติ้งเพราะ ถือว่ามีความเสี่ยงสูงไม่น่าลงทุน โดยบริษัทจะเน้นแนะนำให้นักลงทุนลงทุนในบริษัทที่ได้เรทติ้งA เป็นส่วนใหญ่ ซึ่งคาดว่าจะมีบริษัทที่ได้เรทติ้งAประมาณ 20-25 % ของบริษัททั้งหมดที่ทำคือ 80 บริษัท
"การลงทุนในตราสารหนี้นั้นมีการจัดทำเรทติ้ง แต่การลงทุนในหุ้นยังไม่มีผู้จัดทำเรทติ้ง บริษัทจึงแนวคิดนี้ เพื่อแนะนำนักลงทุนเลือกลงทุนในหุ้นที่มีความเสี่ยงต่ำและน่าสนใจลงทุน โดยจะให้เรทติ้ง A ถึง C เท่านั้น ซึ่งจะพิจารณาจากการเติบโตรายได้ของบริษัท 3 ปีย้อนหลัง 50% และอีก 50% คือจะดูในเชิงคุณภาพคือ ซีจี มาตรฐานบัญชี ความสามารถชำระหนี้บริษัทมีโอกาสล้มละลายหรือไม่ " นายสุกิจกล่าว
อย่างไรการดี การที่บริษัทมีการจัดทำเรทติ้งหุ้นนั้น ส่วนตัวอาจจะมีการนำเสนอให้คณะกรรมการบริษัท นำไปพิจารณาในการปล่อยสินเชื่อเพื่อซื้อหลักทรัพย์ (มาร์จิ้น) แก่ลูกค้าของ บล.นครหลวงไทย
นายสุกิจ อุดมศิริกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) นครหลวงไทย จำกัด เปิดเผยว่า ในเดือนมกราคมปี 52 บริษัทจัดทำบทวิเคราะห์โดยการจัดอันดับความน่าลงทุนของหุ้น โดยใช้ชื่อ SCRIเรทติ้ง ซึ่งจะมีการทบทวนทุกๆ6 เดือน เนื่องจาก การลงทุนนั้นจะได้รับเสี่ยงของสถาบันการเงินโลกทำให้นักลงทุนจะต้องมีการบริหารความเสี่ยงในการลงทุนมากขึ้น ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวจะทำให้นักลงทุนทราบว่าหุ้นที่เข้าไปลงทุนนั้นมีความเสี่ยงอยู่ที่ระดับไหน
ทั้งนี้ การจัดทำเรทติ้งจะเป็นการแนะนำลงทุนในหุ้นที่ดีมีความเสี่ยงต่ำ ซึ่งถือเป็นการคุ้มครอง และปกป้องนักลงทุนทางอ้อม โดยบริษัทจะมีการจัดทำเรทติ้งประมาณ 80 บริษัท โดยให้ระดับ A B C โดยใช้เกณฑ์ในการพิจารณา 2 ส่วน คือ 1.ฐานะทางการเงิน คือ จะพิจารณาความสามารถในการชำระหนี้ คะแนนธรรมาภิบาบาล(CG)จากที่สมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (ไอ โอดี) มาตรฐานทางบัญชี โดยนำผลจากการตรวจสอบของผู้ตรวจสอบบัญชีนำมาพิจากรณา และ 2.การเติบโตรายได้ของบริษัทจากการเทียบกับรายได้ย้อนหลัง 3 ปี
สำหรับบริษัทที่ได้คะแนน70ขึ้นไปจะได้ A ซึ่งจะต้องได้คะแนนดีทั้ง2 ส่วนทั้งฐานะการเงินและการเติบโตของบริษัท ซึ่งหากได้คะแนนดีเพียงข้อเดียวก็จะได้ B และหากได้คะแนน 2 ส่วนไม่ดีก็จะได้ C และหากต่ำกว่าCนั้นบริษัทจะไม่มีการให้เรทติ้งเพราะ ถือว่ามีความเสี่ยงสูงไม่น่าลงทุน โดยบริษัทจะเน้นแนะนำให้นักลงทุนลงทุนในบริษัทที่ได้เรทติ้งA เป็นส่วนใหญ่ ซึ่งคาดว่าจะมีบริษัทที่ได้เรทติ้งAประมาณ 20-25 % ของบริษัททั้งหมดที่ทำคือ 80 บริษัท
"การลงทุนในตราสารหนี้นั้นมีการจัดทำเรทติ้ง แต่การลงทุนในหุ้นยังไม่มีผู้จัดทำเรทติ้ง บริษัทจึงแนวคิดนี้ เพื่อแนะนำนักลงทุนเลือกลงทุนในหุ้นที่มีความเสี่ยงต่ำและน่าสนใจลงทุน โดยจะให้เรทติ้ง A ถึง C เท่านั้น ซึ่งจะพิจารณาจากการเติบโตรายได้ของบริษัท 3 ปีย้อนหลัง 50% และอีก 50% คือจะดูในเชิงคุณภาพคือ ซีจี มาตรฐานบัญชี ความสามารถชำระหนี้บริษัทมีโอกาสล้มละลายหรือไม่ " นายสุกิจกล่าว
อย่างไรการดี การที่บริษัทมีการจัดทำเรทติ้งหุ้นนั้น ส่วนตัวอาจจะมีการนำเสนอให้คณะกรรมการบริษัท นำไปพิจารณาในการปล่อยสินเชื่อเพื่อซื้อหลักทรัพย์ (มาร์จิ้น) แก่ลูกค้าของ บล.นครหลวงไทย