แรงขายทำกำไรฉุดหุ้นภาคเช้าปิดลบ 0.58% นักลงทุนตุนถือเงินสดอุ่นใจ ก่อนติดวันหยุดยาว 3 วัน ขณะที่ประเด็นการเมืองเริ่มมาใหม่ คาดสัปดาห์หน้าระอุ เพราะกลุ่มสนับสนุนรัฐบาลนอมินี ไม่ยอมรับคำตัดสินของศาล ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศ ยังไม่คลี่คลายโดยง่าย หลังค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่ในสหรัฐฯ เตรียมยื่นล้มละลาย เพื่อต่อรองกับรัฐบาล
ภาวะตลาดหุ้นไทย วันนี้ (04 ธันวาคม 2551) ดัชนีภาคเช้าปิดที่ระดับ 390.63 จุด ลดลง 2.29 จุด เปลี่ยนแปลง -0.58% มูลค่าการซื้อขาย 4,000.45 ล้านบาท นักวิเคราะห์เผยตลาดหุ้นไทยเช้านี้ แกว่งผันผวนในกรอบแคบ มีแรงขายทำกำไรในหุ้นใหญ่ ฉุดดัชนีปิดตลาดในแดนลบ โดยเชื่อว่า ประเด็นการเมืองคงไม่ยุติได้โดยง่าย ทั้งในเรื่องการจัดตั้งรัฐบาล ที่กำลังวุ่นวายและบานปลาย เพราะกลุ่มสนับสนุนพรรคการเมืองที่ถูกยุบ ไม่ยอมรับคำตัดสินและคงไม่เลิกลาโดยง่าย ซึ่งอาจมีการป่วนทั้งในเกมและใต้ดิน ทำให้ตลาดกังวลและรอดูอย่างใกล้ชิด
"การประกาศชุมนุมในวันจันทร์ที่ 8 ธันวาคม 2551 และการจัดรายการความจริงวันนี้ ในวันที่ 13 ธันวาคม 2551 เป็นกระบวนการที่มีการออกแบบไว้แล้ว เพราะคนกลุ่มนี้จะหาข้ออ้างไปเรื่อยๆ เพื่อรักษาอำนาจของตัวเอง"
นอกจากนี้ ยังเป็นวันสุดท้ายของสัปดาห์นี้ที่ตลาดเปิดทำการ ก่อนที่จะหยุดยาวไปอีก 3 วัน ขณะที่ตลาดยังคงมีแรงกดดันจากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว ทำให้นักลงทุนส่วนใหญ่ขายทำกำไร เพื่อถือเงินสดรอดูสถานการณ์
ส่วนตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเช้านี้ ก็มีทั้งบวกและลบ และคาดว่าในวันพรุ่งนี้ อาจได้รับผลกระทบจากกรณีที่บริษัทผลิตยานยนต์ชั้นนำในสหรัฐฯ อาจเข้าสู่ภาวะล้มละลาย และเชื่อว่าจะส่งผลกระทบหนักต่อเศรษฐกิจโลกทั้งหมด หลังมีข่าวสะพัดว่า เจนเนอรัล มอเตอร์ (จีเอ็ม) และไครสเลอร์ อาจจะยื่นขอคุ้มครองล้มละลาย ซึ่งเป็นเงื่อนไขแรกที่ต้องยอมรับหากทางบริษัทต้องการรับความช่วยเหลือจากรัฐบาล
ทั้งนี้ ดัชนีเปิดตลาดช่วงบ่าย ยังคงแกว่งตัวในแดนลบสลับแดนบวก โดยเมื่อเวลา 14.51 น. ดัชนีอยู่ที่ระดับ 388.39 จุด ลดลง 4.53 จุด มูลค่าการซื้อขาย 4,715.50 ล้านบาท
ล่าสุด ดัชนีปิดตลาดภาคบ่ายที่ระดับ ปิดตลาดที่ 392.87 จุด ลดลง 0.05 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -0.01% มูลค่าการซื้อขาย 8,771.29 ล้านบาท