xs
xsm
sm
md
lg

ธนาพัฒน์ฯอัดแคมเปญลดสต็อก700ล. จ่ายเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยให้ลูกค้าฟรี1ปี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ธนาพัฒน์ฯ อัดแคมเปญระบายสต็อกปลายปี อยู่ฟรี1ปีพร้อมผ่อนเงินต้นบวกดอกเบี้ยให้ลูกค้าที่กู้ผ่านแล้วในปีแรกฟรี คาดลดสต็อกบ้านพร้อมอยู่ในมือกว่า210ล้านบาทจากสต็อกรวมกว่า700ล้าน แจงปรับแผนปีหน้าลดขนาด ลดจำนวนโครงการใหม่เหลือ 2-3โครงการจากเดิม5-6โครงการ หวังปิดการขายเร็วขึ้น เผยเลื่อนแผนนำหุ้นเทรดในตลาด ประกาศปรับพอร์ตโครงสร้างบริษัทให้ใหญ่ดึงนักลงทุน

นายดลพิวัฒน์ ปรีดาวิภาต กรรมการผู้จัดการ บริษัท ธนาพัฒน์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในช่วงเดือนธ.ค.นี้ บริษัทได้จัดแคมเปญใหญ่ระบายสต็อกบ้านพร้อมอยู่ประกอบด้วยทาวเฮาส์ประมาณ500ล้านบาท และบ้านเดี่ยวอีกประมาณ 200 ล้านบาท สำหรับแคมเปญดังกล่าวจะให้สิทธิพิเศษลูกค้าที่กู้ผ่านแล้วอยู่ฟรี1ปี โดยบริษัทจะเป็นผู้จ่ายเงินต้นและดอกเบี้ยให้ในปีแรก ซึ่งคาดว่าแคมเป็นดังกล่าวจะส่งผลให้บริษัทมียอดขายสต็อกบ้านพร้อมอยู่ในมือทั้งหมด 700 ล้านบาทประมาณ 30% หรือประมาณ 210 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้บริษัทมียอดขายรวมตามเป้าประมาณ 1,600ล้านบาท

ส่วนในปีหน้าบริษัทได้มีการปรับแผนธุรกิจใหม่ จากเดิมที่คาดว่าจะเปิดตัวโครงการใหม่มูลค่าประมาณ 3,000ล้านบาทหรือประมาณ 5-6โครงการ ซึ่งจะเป็นการพัฒนาโครงการที่เน้นขนาดโครงการใหญ่ขึ้น และมีสินค้าในแต่ละโครงการแบบผสมผสาน ทั้งบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮาส์ แต่หลังจากภาวการณ์เมืองและเศรษฐกิจที่ผันผวนในขณะนี้ทำให้บริษัทต้องปรับแผนใหม่ โดยจะเน้นเปิดโครงการที่มีขนาดเล็กลง และลดจำนวนการเปิดโครงการใหม่ลงเหลือ 2-3 โครงการ เพื่อให้สามารถปิดการขายได้เร็วขึ้น ส่วนสินค้าที่จะพัฒนาในปีหน้าจะเน้นพัฒนาเฉพาะทาวน์เฮาส์ส่วนบ้านเดี่ยวจะหยุดพัฒนาไปก่อน

ทั้งนี้ ในการลดขนาดโครงการเพื่อให้ปิดการขายได้เร็วขึ้นนั้น บริษัทจะเน้นพัฒนาโครงการในขนาดพื้นที่โครงการ10ไร่ขึ้นไปแต่จะไม่เกิน20 ไร่ หรือมีสินค้าขายต่อโครงการไม่เกิน 100 ยูนิต มูลค่าประมาณ500ล้านบาท ส่วนโครงการประเภทคอนโดมิเนียมก็จะมีขนาดพื้นที่โครงการไม่เกิน2ไร่ หรือมียูนิตไม่เกิน200-300ยูนิต มูลค่ารวมต่อโครงการประมาณ300-400ล้านบาท

นายดลพิวัฒน์ กล่าวว่า ในส่วนของสต็อกสินค้าบ้านเดี่ยว และทาวน์เฮาส์ที่มีอยู่ประมาณ700ล้านบาทในปีนี้คาดว่าจะสามารถระบายออกไปได้ในปีนี้30%หรือประมาณ200ล้านบาทเศษ ส่วนที่เหลือจะโอนไปรับรู้รายได้ในปี52ประมาณ70%หรือประมาณ 400-500 ล้านบาทเศษ โดยในปีหน้าบริษัทตั้งเป้าว่าจะมียอดขายรวมประมาณ 1,600 - 1,700 ล้านบาทเพื่อให้มีอัตราการเติบโตของรายได้เป็นไปตามเกณฑ์ข้อกำหนดของตลาดหลักทรัพย์ ว่าจะต้องมีอัตราการเติบโตของรายได้และกำไรสะสมต่อเนื่อง3ปี

สำหรับแผนการนำหุ้นของบริษัท ธนาพัฒน์ฯ และ หุ้นของบริษัทลูกในกลุ่มLPN กรุ๊ป เข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์นั้น จำเป็นต้องเลื่อนออกไป เนื่องจากภาวะตลาดขณะนี้ไม่เหมาะสม ประกอบกับพอร์ตของทั้ง2บริษัท ขณะนี้ยังถือว่าเล็กอยู่และไม่เป็นที่น่าสนใจของนักลงทุน ดังนั้นจึงมีแผนที่จะปรับโครงสร้างบริษัทใหม่เพื่อให้มีขนาดองค์กร และพอร์ตการลงทุนที่ใหญ่ขึ้น โดยขนาดพอร์ตที่คาดว่าจะสร้างความสนใจต่อการลงทุนกลุ่มนักลงทุนของทั้ง2บริษัทน่าจะอยู่ที่ประมาณ 5,000 ล้านบาท ดังนั้นแผนในการนำหุ้นเทรดในตลาดจึงจำเป้ฯต้องเลื่อนออกไปก่อน
กำลังโหลดความคิดเห็น