ก.ล.ต.แจงไฟลิ่งไทยเบฟผ่านฉลุย เหตุเป็นเพียงการเปิดเผยข้อมูลเพื่อให้นักลงทุนไทยทราบเท่านั้นจากมีคุณสมบัติครบถ้วนในการเป็นบริษัทจดทะเบียนจากที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์แล้ว จากนี้ขึ้นอยู่กับตลาดหลักทรัพย์ฯพิจารณารับเข้าซื้อขาย
นายประสงค์ วินัยแพทย์ รองเลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า แบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) ของบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) หรือ เบียร์ช้าง ที่ก.ล.ต.อยู่ระหว่างการพิจารณาอยู่นั้น ก.ล.ต.จะต้องมีการอนุมัติแบบไฟลิ่งของเบียร์ช้าง เพราะเบียร์ช้างได้มีการเข้าจดทะเบียนในตลาดแรก คือ ตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ (SGX) แล้วซึ่งมีคุณสมบัติในการเป็นบริษัทจดทะเบียนแล้ว
ทั้งนี้ ไทยเบฟฯ จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ถือว่าเป็นตลาดรอง ซึ่งตามเกณฑ์นั้นการยื่นไฟลิ่งในไทยเป็นเพียงการให้ข้อมูลของบริษัทแก่นักลงทุนในไทยเท่านั้น ซึ่งก.ล.ต.จะทำหน้าที่ในด้านการตรวจสอบข้อมูลดังกล่าวทั้งในเรื่องงบการเงินแนวโน้มธุรกิจ ว่ามีการเปิดเผยข้อมูลครบถ้วนหรือไม่ โดยมีระยะเวลาในการพิจารณาข้อมูล 30 วัน และให้นักลงทุนรับทราบข้อมูลของบริษัทเท่านั้น เมื่อเมื่อครบกำหนดการตรวจสอบในวันที่ 21 พฤศจิกายน ไฟลิ่งดังกล่าวจะมีผลอนุมัติทันที
“ก.ล.ต.ไม่มีสิทธิไม่อนุมัติแบบไฟลิ่งของไทยเบฟฯ เพราะต้องขอบอกว่าคุณสมบัติของบมจ.ไทยเบฟฯ ถูกต้องตามเกณฑ์แล้ว ดังนั้นหากผ่านระยะเวลา 30 วันที่ก.ล.ต.ตรวจสอบข้อมูลแล้ว ก็ต้องให้ไฟลิ่งผ่าน” นายประสงค์กล่าว
ส่วนการพิจารณาในการรับเบียร์ช้างเข้าจดทะเบียนหรือไม่นั้น เป็นหน้าที่ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ที่จะต้องมีการพิจารณา แต่เบื้องต้นตามหลักการแล้วคาดว่าบมจ.ไทยเบฟ น่าจะสามารถเข้าจดทะเบียนได้ เนื่องจากบมจ.ไทยเบฟ มีการเผยแพร่ข้อมูลครบถ้วนตามเกณฑ์
นายประสงค์ วินัยแพทย์ รองเลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า แบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) ของบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) หรือ เบียร์ช้าง ที่ก.ล.ต.อยู่ระหว่างการพิจารณาอยู่นั้น ก.ล.ต.จะต้องมีการอนุมัติแบบไฟลิ่งของเบียร์ช้าง เพราะเบียร์ช้างได้มีการเข้าจดทะเบียนในตลาดแรก คือ ตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ (SGX) แล้วซึ่งมีคุณสมบัติในการเป็นบริษัทจดทะเบียนแล้ว
ทั้งนี้ ไทยเบฟฯ จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ถือว่าเป็นตลาดรอง ซึ่งตามเกณฑ์นั้นการยื่นไฟลิ่งในไทยเป็นเพียงการให้ข้อมูลของบริษัทแก่นักลงทุนในไทยเท่านั้น ซึ่งก.ล.ต.จะทำหน้าที่ในด้านการตรวจสอบข้อมูลดังกล่าวทั้งในเรื่องงบการเงินแนวโน้มธุรกิจ ว่ามีการเปิดเผยข้อมูลครบถ้วนหรือไม่ โดยมีระยะเวลาในการพิจารณาข้อมูล 30 วัน และให้นักลงทุนรับทราบข้อมูลของบริษัทเท่านั้น เมื่อเมื่อครบกำหนดการตรวจสอบในวันที่ 21 พฤศจิกายน ไฟลิ่งดังกล่าวจะมีผลอนุมัติทันที
“ก.ล.ต.ไม่มีสิทธิไม่อนุมัติแบบไฟลิ่งของไทยเบฟฯ เพราะต้องขอบอกว่าคุณสมบัติของบมจ.ไทยเบฟฯ ถูกต้องตามเกณฑ์แล้ว ดังนั้นหากผ่านระยะเวลา 30 วันที่ก.ล.ต.ตรวจสอบข้อมูลแล้ว ก็ต้องให้ไฟลิ่งผ่าน” นายประสงค์กล่าว
ส่วนการพิจารณาในการรับเบียร์ช้างเข้าจดทะเบียนหรือไม่นั้น เป็นหน้าที่ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ที่จะต้องมีการพิจารณา แต่เบื้องต้นตามหลักการแล้วคาดว่าบมจ.ไทยเบฟ น่าจะสามารถเข้าจดทะเบียนได้ เนื่องจากบมจ.ไทยเบฟ มีการเผยแพร่ข้อมูลครบถ้วนตามเกณฑ์