xs
xsm
sm
md
lg

แบงก์รัฐดิ้นพล่าน จี้ ธปท.ส่งสัญญาณ ดบ.ก่อนประชุมจริง 3 ธ.ค.นี้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ผู้บริหาร ธอส.มึนทิศทาง ดบ.โลก หลังเงินเฟ้อลด สภาพคล่องหาย ออกโรงจี้ ธปท.ส่งสัญญาณดอกเบี้ยนโยบาย ก่อนประชุมจริง 3 ธ.ค.นี้ พร้อมยอมรับ ศึกชิงฐานลูกค้าหวนกลับมาร้อนแรงอีกรอบ สั่งปรับดอกเบี้ยเงินฝากอัตราใหม่สู้ศึกทันที

วันนี้ (10 พ.ย.) นายขรรค์ ประจวบเหมาะ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ธอส. กล่าวว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ควรที่จะส่งสัญญาเรื่องอัตราดอกเบี้ยนโยบายให้ธนาคารพาณิชย์ต่างๆ รับทราบ ก่อนที่มีการประชุมอย่างเป็นทางการในวันที่ 3 ธ.ค.นี้ ทั้งนี้ หาก ธปท.เห็นว่า มีความผิดปกติต่อภาวะเศรษฐกิจไทยเกิดขึ้น ซึ่งเชื่อว่า การส่งสัญญาณออกมาก่อน เพื่อให้ตลาดทราบทิศทางที่ชัดเจน น่าจะเป็นผลดีต่อภาวะเศรษฐกิจในประเทศ และธนาคารต่างๆ อย่างแน่นอน

อย่างไรก็ตาม การส่งสัญญาณเรื่องอัตราดอกเบี้ยครั้งนี้ ไม่ได้หมายความว่าเศรษฐกิจไทยขณะนี้มีปัญหาหรือไม่ แต่เพื่อให้รู้ถึงทิศทางเศรษฐกิจในอนาคต

“เรื่องอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ที่แบงก์ชาติจะมีการประชุมในวันที่ 3 ธ.ค.นี้ ยอมรับว่า มีความเป็นได้ทั้งนั้นว่า ธปท.อาจจะปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้น หรือปรับอัตราดอกเบี้ยลงได้ ดังนั้น เราจึงอยากให้ ธปท.ช่วยส่งสัญญาณออกมากันบ้างว่า จะปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้น หรือปรับอัตราดอกเบี้ยลง หากว่า ธปท.มีอะไรเร่งด่วน หรือมองอะไรผิดปกติ ก็ไม่จำเป็นต้องส่งสัญญาณตามที่กำหนดไว้ในวันที่ 3 ธ.ค.นี้”

นายขรรค์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ธนาคารได้ปรับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากใหม่ เพื่อเป็นการเสริมสภาพคล่องและระดมทุนรองรับการปล่อยสินเชื่อของธนาคาร ที่สำคัญ ได้มีธนาคารพาณิชย์บางแห่งได้มีการปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นไปล่วงหน้าแล้ว จึงทำให้ธนาคารจำเป็นต้องปรับอัตราดอกเบี้ยใหม่เพื่อรักษาฐานลูกค้าธนาคารไว้

สำหรับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากอัตราใหม่ ประกอบด้วย ประเภทออมทรัพย์พิเศษ จากอัตราเดิม 2.25% เป็น 3.25% ต่อปี สำหรับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประเภทประจำ 3-6 เดือน ปรับเพิ่มขึ้นเป็น 3.00% 3.25% และ 3.50% ต่อปี สำหรับวงเงินฝากไม่ถึง 1 ล้านบาท ตั้งแต่ 1 ล้านบาทขึ้นไป และ 5 ล้านบาทขึ้นไปตามลำดับ มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 11-30 พ.ย.2551

อย่างไรก็ตาม จากภาวะวิกฤตเศรษฐกิจโลกที่อาจส่งผลต่อการปล่อยสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ที่อาจจะลดลงในอนาคต ธนาคารอาคารสงเคราะห์ในฐานะผู้นำด้านสินเชื่อเพื่อบ้านมาตลอดระยะเวลา 55 ปี พร้อมที่จะเป็นสถาบันการเงินหลักในการปล่อยสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย โดยสร้างโอกาสให้ลูกค้ารายย่อย และผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ได้เข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้ธุรกิจภาคอสังหาริมทรัพย์ได้เติบโตดำรงอยู่ต่อไปได้ และพร้อมช่วยเหลือประชาชนคนไทยที่มีรายได้น้อยถึงปานกลางได้มีโอกาสมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองได้ตามอัตภาพ
กำลังโหลดความคิดเห็น