CCET ไตรมาส 3 ปีนี้กำไรตก 33% เหตุกำไรขั้นต้นลดลงจากการปรับสัดส่วนของผลิตภัณฑ์และราคาวัตถุดิบสูงขึ้น แม้รายได้การขายเพิ่มขึ้นและมีกำไรจากการขายเงินลงทุนในบริษัทร่วม และการขายทรัพย์สิน
นายโจว ข่ง ซิ่ง กรรมการผู้จัดการ บริษัท แคล - คอมพ์ อีเล็คโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (CCET ) แจ้งผลงานไตรมาส 3 ปีนี้ว่าบริษัท มีกำไรสุทธิ 642.18 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 959.41 ล้านบาท หรือกำไรหด 33.06% ผลจาก มีรายได้จากการขายสินค้า 37,667.89 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 43.82 % จากไตรมาสเดียวกันในปี 50 และยังมีส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วม กำไรจาการขายที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ 242.08 ล้านบาทและมีรายได้อื่นเป็น 63.85 ล้านบาท ทำให้บริษัทฯ มีรายได้รวมทั้งสิ้นในไตรมาสนี้เท่ากับ 37,973.89 ล้านบาท คิดเป็นอัตราที่เพิ่มขึ้น 44.69 % จากไตรมาสเดียวกันของปีที่ผ่านมา
เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของยอดขายสินค้าแผงวงจรสำหรับ External Hard Disk และสินค้าอื่นๆในกลุ่มอุปกรณ์คอมพิวเตอร์รวมถึงสินค้าเครื่องรับส่งสัญญาณดาวเทียม (Set Top Box) ในกลุ่มสินค้าโทรคมนาคมทั้งโรงงานในไทยและจีน ส่วนต้นทุนขายเพิ่มขึ้น สวนทางกำไรขั้นต้นลดลงเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา เนื่องมาจากการปรับเปลี่ยนสัดส่วนของผลิตภัณฑ์ซึ่งหมายถึงการที่บริษัทฯ มียอดขายสินค้าจากธุรกิจการผลิตแผงวงจรเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ อีกทั้งการเพิ่มขึ้นของราคาวัตถุดิบ เช่น เหล็กโลหะ และ IC ในไตรมาสที่ 3 ซึ่งเป็นผลกระทบจากราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้น ดังนั้นการปรับเปลี่ยนสัดส่วนของผลิตภัณฑ์และราคาวัตถุดิบที่สูงขึ้น จึงมีผลให้อัตรากำไรขั้นต้นลดลงเมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมา
สำหรับค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารลดลง ผลจากการควบคุมต้นทุนอย่างเคร่งครัด ส่วนดอกเบี้ยจ่ายเพิ่มขึ้น เนื่องจากในไตรมาสที่ 3 จะเป็นช่วง high season ของบริษัทฯ นอกเหนือจากนั้นบริษัทฯยังได้รับคำสั่งซื้อจากลูกค้าเพิ่มขึ้น ทำให้บริษัทฯ มียอดขายเพิ่มสูงขึ้น จึงต้องการเงินทุนหมุนเวียนเพื่อรองรับรายได้จากการขายที่เพิ่มสูงขึ้นนี้
อย่างไรก็ดี การเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญของธุรกิจแผงวงจร PCB ในไตรมาสที่สามและการเพิ่มขึ้นของราคาวัตถุดิบทำให้ต้นทุนในการผลิตสินค้าเพิ่มขึ้นอย่างมาก ทั้งปัญหา sub-prime และวิกฤติการณ์ของสถาบันการเงินในสหรัฐอเมริกาในปีที่ผ่านมา ส่งผลกระทบทำให้เศรษฐกิจของโลกชะลอตัว มีผลให้ความต้องการของผู้บริโภคลดลงไปด้วย
นายโจว ข่ง ซิ่ง กรรมการผู้จัดการ บริษัท แคล - คอมพ์ อีเล็คโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (CCET ) แจ้งผลงานไตรมาส 3 ปีนี้ว่าบริษัท มีกำไรสุทธิ 642.18 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 959.41 ล้านบาท หรือกำไรหด 33.06% ผลจาก มีรายได้จากการขายสินค้า 37,667.89 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 43.82 % จากไตรมาสเดียวกันในปี 50 และยังมีส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วม กำไรจาการขายที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ 242.08 ล้านบาทและมีรายได้อื่นเป็น 63.85 ล้านบาท ทำให้บริษัทฯ มีรายได้รวมทั้งสิ้นในไตรมาสนี้เท่ากับ 37,973.89 ล้านบาท คิดเป็นอัตราที่เพิ่มขึ้น 44.69 % จากไตรมาสเดียวกันของปีที่ผ่านมา
เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของยอดขายสินค้าแผงวงจรสำหรับ External Hard Disk และสินค้าอื่นๆในกลุ่มอุปกรณ์คอมพิวเตอร์รวมถึงสินค้าเครื่องรับส่งสัญญาณดาวเทียม (Set Top Box) ในกลุ่มสินค้าโทรคมนาคมทั้งโรงงานในไทยและจีน ส่วนต้นทุนขายเพิ่มขึ้น สวนทางกำไรขั้นต้นลดลงเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา เนื่องมาจากการปรับเปลี่ยนสัดส่วนของผลิตภัณฑ์ซึ่งหมายถึงการที่บริษัทฯ มียอดขายสินค้าจากธุรกิจการผลิตแผงวงจรเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ อีกทั้งการเพิ่มขึ้นของราคาวัตถุดิบ เช่น เหล็กโลหะ และ IC ในไตรมาสที่ 3 ซึ่งเป็นผลกระทบจากราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้น ดังนั้นการปรับเปลี่ยนสัดส่วนของผลิตภัณฑ์และราคาวัตถุดิบที่สูงขึ้น จึงมีผลให้อัตรากำไรขั้นต้นลดลงเมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมา
สำหรับค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารลดลง ผลจากการควบคุมต้นทุนอย่างเคร่งครัด ส่วนดอกเบี้ยจ่ายเพิ่มขึ้น เนื่องจากในไตรมาสที่ 3 จะเป็นช่วง high season ของบริษัทฯ นอกเหนือจากนั้นบริษัทฯยังได้รับคำสั่งซื้อจากลูกค้าเพิ่มขึ้น ทำให้บริษัทฯ มียอดขายเพิ่มสูงขึ้น จึงต้องการเงินทุนหมุนเวียนเพื่อรองรับรายได้จากการขายที่เพิ่มสูงขึ้นนี้
อย่างไรก็ดี การเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญของธุรกิจแผงวงจร PCB ในไตรมาสที่สามและการเพิ่มขึ้นของราคาวัตถุดิบทำให้ต้นทุนในการผลิตสินค้าเพิ่มขึ้นอย่างมาก ทั้งปัญหา sub-prime และวิกฤติการณ์ของสถาบันการเงินในสหรัฐอเมริกาในปีที่ผ่านมา ส่งผลกระทบทำให้เศรษฐกิจของโลกชะลอตัว มีผลให้ความต้องการของผู้บริโภคลดลงไปด้วย
