TTW จ่ายปันผลหุ้นละ 0.15 บาท พร้อมใช้เงินลงทุน 1,300 ล้านบาท เพื่อขยายกำลังการผลิตอีก 1 หมื่นลูกบาศก์เมตรต่อวัน โดยให้ ช.การช่าง ดำเนินการก่อสร้างส่วนขยาย เล็งออกตั๋วเงิน/หุ้นกู้ เพื่อนำเงินที่ได้มาชำระคืนเงินกู้ระยะยาวให้กับผู้ให้กู้ และ/หรือนำมาเพิ่มประสิทธิภาพและขยายกำลังการผลิต
นายสมโพธิ ศรีภูมิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท น้ำประปาไทย จํากั ด (มหาชน) (TTW ) แจ้งมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อ 22 ตุลาคม 51 ว่าบอร์ดมีมติให้จ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ในอัตราหุ้นละ 0.15 บาท
พร้อมให้เข้าทำสัญญาซื้อขายน้ำประปากับการประปาส่วนภูมิภาค ขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจาตกลงเงื่อนไขสัญญาและการรอผลการอนุมัติที่เกี่ยวข้องจากคณะกรรมการของการประปาส่วนภูมิภาค(กปภ.) ให้เข้าทำสัญญากับบริษัทฯ ตามสัญญาดังกล่าว กปภ.จะซื้อน้ำประปาจากบริษัทฯ เพิ่มขึ้นอีกไม่เกิน 100,000 ลูกบาศก์ เมตร/วัน ทำให้ TTW จะต้องก่อสร้างส่วนขยายกำลังการผลิตเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตของโรงงานจากเดิม 320,000 ลูกบาศก์เมตร/วัน เป็น 440,000 ลูกบาศก์เมตร/วัน ซึ่งจะใช้วงเงินก่อสร้างส่วนขยายเป็นไม่เกิน 1,300 ล้านบาท
บอร์ดจึงมีมติให้ว่าจ้างบมจ.ช.การช่าง (CK ) เป็นผู้ดำเนินการก่อสร้างงานโยธา และให้บริษัทฯ เข้าทำสัญญา Mechanical & Electrical Contract (M&E Contract) กับบริษัท ส.นภา (ประเทศไทย) จำกัด เพื่อขยายและเพิ่มกำลังการผลิตในส่วนที่เพิ่มดังกล่าว ซึ่ง CK เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทฯ เข้าดำเนินงานดังกล่าวจึงถือเป็นการเข้าทำรายการที่เกี่ยวโยงกัน
นอกจากนี้ บอร์ดยังมีมติให้บริษัทฯ ออกตราสารหนี้ในรูปของตั๋วเงินและ/หรือหุ้นกู้ อายุไม่เกิน 10 ปี เพื่อนำเงินที่ได้มาชำระคืนเงินกู้ระยะยาวให้กับผู้ให้กู้ และ/หรือนำมาเพิ่มประสิทธิภาพและขยายกำลังการผลิตของโรงงาน ซึ่งมีเงื่อนไขว่าหากกลุ่มผู้ให้กู้อนุมัติข้อร้องขอของบริษัททั้งหมด ตามหนังสือดังกล่าวจำนวนเงินรวมของตราสารหนี้ที่จะออกไม่เกิน 1,500 ล้านบาท หรือหากกลุ่มผู้ให้กู้ไม่อนุมัติข้อร้องขอของบริษัทฯข้อใดข้อหนึ่งตามหนังสือดังกล่าวจำนวนเงินรวมของตราสารหนี้ที่จะออกไม่เกิน 7,500 ล้านบาท
โดยจำนวนเงินของตราสารหนี้ขึ้นอยู่กับการอนุมัติข้อร้องขอของบริษัทตามหนังสือที่บริษัทได้ส่งให้ กับผู้ให้กู้เมื่อวันที่ 25 กันยายน 51 เกี่ยวกับ การขอขยายระยะเวลาการชำระคืนเงินต้น, การขอลดอัตราดอกเบี้ย , การขอแก้ไขหรือเปลี่ยนอัตราส่วนทางการเงินบางประการในสัญญาเงินกู้, การขออนุมัติออกและเสนอขายหุ้นกู้ไม่มีประกันในวงเงินไม่เกิน 2,000 ล้านบาท โดยมีอายุของตราสารหนี้ไม่เกิน 7 ปี
รวมถึงการขอปลดภาระการให้การสนับสนุนทางการเงินของผู้สนับสนุนทางการเงินทุกราย ,การขอปลดหุ้นที่ไม่ได้ติดจำนำกับผู้ให้กู้ของบริษัทฯ ซึ่งถือ โดย CK , บริษัท มิตซุย วอเตอร์ โฮลดิ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด และ บมจ. ทางด่วนกรุงเทพ (BECL)และติดระยะเวลาที่ถูก ห้ามขาย (silent period) เป็นลำดับแรก และ การขอใช้บริการโอนเงินปันผลเข้าบัญชีธนาคาร (e-dividend service)
กำหนดรายชื่อ ผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิเข้าร่วมประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2551 และมีสิทธิรับเงินปันผล วันที่ 20 พฤศจิกายน 51 และให้รวบรวมรายชื่อตามมาตรา 225 ของ พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ โดยวิธีปิดสมุด ทะเบียนพักการโอนหุ้น วันที่ 21 พฤศจิกายน 51 และกำหนดวันประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2551 วันที่ 17 ธันวาคม 51
นายสมโพธิ ศรีภูมิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท น้ำประปาไทย จํากั ด (มหาชน) (TTW ) แจ้งมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อ 22 ตุลาคม 51 ว่าบอร์ดมีมติให้จ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ในอัตราหุ้นละ 0.15 บาท
พร้อมให้เข้าทำสัญญาซื้อขายน้ำประปากับการประปาส่วนภูมิภาค ขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจาตกลงเงื่อนไขสัญญาและการรอผลการอนุมัติที่เกี่ยวข้องจากคณะกรรมการของการประปาส่วนภูมิภาค(กปภ.) ให้เข้าทำสัญญากับบริษัทฯ ตามสัญญาดังกล่าว กปภ.จะซื้อน้ำประปาจากบริษัทฯ เพิ่มขึ้นอีกไม่เกิน 100,000 ลูกบาศก์ เมตร/วัน ทำให้ TTW จะต้องก่อสร้างส่วนขยายกำลังการผลิตเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตของโรงงานจากเดิม 320,000 ลูกบาศก์เมตร/วัน เป็น 440,000 ลูกบาศก์เมตร/วัน ซึ่งจะใช้วงเงินก่อสร้างส่วนขยายเป็นไม่เกิน 1,300 ล้านบาท
บอร์ดจึงมีมติให้ว่าจ้างบมจ.ช.การช่าง (CK ) เป็นผู้ดำเนินการก่อสร้างงานโยธา และให้บริษัทฯ เข้าทำสัญญา Mechanical & Electrical Contract (M&E Contract) กับบริษัท ส.นภา (ประเทศไทย) จำกัด เพื่อขยายและเพิ่มกำลังการผลิตในส่วนที่เพิ่มดังกล่าว ซึ่ง CK เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทฯ เข้าดำเนินงานดังกล่าวจึงถือเป็นการเข้าทำรายการที่เกี่ยวโยงกัน
นอกจากนี้ บอร์ดยังมีมติให้บริษัทฯ ออกตราสารหนี้ในรูปของตั๋วเงินและ/หรือหุ้นกู้ อายุไม่เกิน 10 ปี เพื่อนำเงินที่ได้มาชำระคืนเงินกู้ระยะยาวให้กับผู้ให้กู้ และ/หรือนำมาเพิ่มประสิทธิภาพและขยายกำลังการผลิตของโรงงาน ซึ่งมีเงื่อนไขว่าหากกลุ่มผู้ให้กู้อนุมัติข้อร้องขอของบริษัททั้งหมด ตามหนังสือดังกล่าวจำนวนเงินรวมของตราสารหนี้ที่จะออกไม่เกิน 1,500 ล้านบาท หรือหากกลุ่มผู้ให้กู้ไม่อนุมัติข้อร้องขอของบริษัทฯข้อใดข้อหนึ่งตามหนังสือดังกล่าวจำนวนเงินรวมของตราสารหนี้ที่จะออกไม่เกิน 7,500 ล้านบาท
โดยจำนวนเงินของตราสารหนี้ขึ้นอยู่กับการอนุมัติข้อร้องขอของบริษัทตามหนังสือที่บริษัทได้ส่งให้ กับผู้ให้กู้เมื่อวันที่ 25 กันยายน 51 เกี่ยวกับ การขอขยายระยะเวลาการชำระคืนเงินต้น, การขอลดอัตราดอกเบี้ย , การขอแก้ไขหรือเปลี่ยนอัตราส่วนทางการเงินบางประการในสัญญาเงินกู้, การขออนุมัติออกและเสนอขายหุ้นกู้ไม่มีประกันในวงเงินไม่เกิน 2,000 ล้านบาท โดยมีอายุของตราสารหนี้ไม่เกิน 7 ปี
รวมถึงการขอปลดภาระการให้การสนับสนุนทางการเงินของผู้สนับสนุนทางการเงินทุกราย ,การขอปลดหุ้นที่ไม่ได้ติดจำนำกับผู้ให้กู้ของบริษัทฯ ซึ่งถือ โดย CK , บริษัท มิตซุย วอเตอร์ โฮลดิ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด และ บมจ. ทางด่วนกรุงเทพ (BECL)และติดระยะเวลาที่ถูก ห้ามขาย (silent period) เป็นลำดับแรก และ การขอใช้บริการโอนเงินปันผลเข้าบัญชีธนาคาร (e-dividend service)
กำหนดรายชื่อ ผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิเข้าร่วมประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2551 และมีสิทธิรับเงินปันผล วันที่ 20 พฤศจิกายน 51 และให้รวบรวมรายชื่อตามมาตรา 225 ของ พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ โดยวิธีปิดสมุด ทะเบียนพักการโอนหุ้น วันที่ 21 พฤศจิกายน 51 และกำหนดวันประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2551 วันที่ 17 ธันวาคม 51