โอเปก ประชุมฉุกเฉินคืนนี้ เพื่อออกมาตรการพยุงราคาน้ำมัน หลังราคาดิ่งลงกว่า 50% คาดลดเพดานการผลิตน้ำมัน 1-2 ล้านบาร์เรล/วัน ในการประชุมฉุกเฉิน คืนนี้ รมต.อิหร่าน แนะลดกำลังการผลิต 2 ล้านบาร์เรล/ เป็นจุดที่เหมาะสม เพื่อให้สอดคล้องกับอุปสงค์น้ำมันที่ชะลอตัว นักวิเคราะห์คาด การลดอุปทานไม่สามารถปลุกราคาได้จริง เพราะวิกฤตเศรษกิจโลกยังส่งผลกระทบอีกหลายปี
วันนี้ (24 ต.ค. 51) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ได้นัดประชุมฉุกเฉินที่กรุงเวียนนา ออสเตรเลีย เพื่อรับมือสถานการณ์ราคาน้ำมันที่มีแนวโน้มตกต่ำกว่า 70 ดอลลาร์ต่อบาเรล จากผลกระทบวิกฤตเศรษฐกิจโลกชะลอตัว โดยเตรียมประกาศปรับลดเพดานการผลิตในการประชุมคืนนี้
โดยครั้งนี้ ถือเป็นการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันลงเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 2 ปี ที่ระดับ 1-2 ล้านบาร์เรลต่อวัน เพื่อรักษาเสถียรภาพของราคาน้ำมันที่กำลังดิ่งร่วงลงอย่างรุนแรง
ทั้งนี้ ราคาน้ำมันโลกดิ่งลงมากกว่า 50% ที่ระดับ 60 ดอลลาร์/บาเรล จากช่วงที่ทะยานขึ้นไปสูงที่สุด 147 ดอลลาร์/ต่อบาร์เรล ในเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา ดังนั้น สมาชิก 13 ชาติโอเปกจึงมีทางเลือกน้อยมาก ในการรักษาระดับราคาในตลาด
นายจีน แมคกิลเลียน นักวิเคราะห์จากบริษัท Tradition Energy กล่าวว่า "การปรับลดเพดานการผลิตน้ำมันลง 1-2 ล้านบาร์เรลต่อวัน อาจช่วยทำให้ราคาน้ำมันปรับตัวดีขึ้นได้ในระยะสั้นๆ ซึ่งหากที่ประชุมไม่ทำเช่นนั้น ราคาน้ำมันจะเริ่มเดินหน้าสู่ช่วงขาลงอีกครั้ง เนื่องจากระบบเศรษฐกิจยังอ่อนแอ
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ขณะนี้ราคาน้ำมันดิบร่วงลง 53% จากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 147.27 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เมื่อวันที่ 11 ก.ค.ที่ผ่านมา เนื่องจากวิกฤตสินเชื่อเริ่มขยายวงกว้างลุกลามไปยังประเทศอื่นๆ ขณะที่ยอดการปรับลดพนักงานเพิ่มขึ้นและการใช้จ่ายน้ำมันชะลอตัวลง ทั้งนี้ สำนักงานพลังงานสากล (IEA) เปิดเผยเมื่อวันที่ 10 ต.ค.ที่ผ่านมาว่า อุปสงค์น้ำมันใน 28 ประเทศจะปรับตัวลดลง 2.2% ในปีนี้
กลุ่มประเทศสมาชิกของโอเปกคาดว่า ที่ประชุมจะปรับลดกำลังการผลิต โดยนายราฟาเอล รามิเรซ รัฐมนตรีน้ำมันของเวเนซูเอลากล่าวกับผู้สื่อข่าววานนี้ว่า กลุ่มโอเปกจำเป็นต้องปรับลดเพดานการผลิตน้ำมันลงอย่างน้อย 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน
ด้านนายโกลัม ฮอสเซน โนซารี รัฐมนตรีพลังงานอิหร่าน กล่าวว่า โอเปกจำเป็นต้องลดกำลังการผลิตลง 2 ล้านบาร์เรลต่อวันให้สอดคล้องกับอุปสงค์น้ำมันที่ชะลอตัว โดยอิหร่านเป็นประเทศผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่เป็นอันดับ 2 ของกลุ่มโอเปก รองจากซาอุดิอาระเบีย
ทั้งนี้ ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นที่ซบเซา กำลังส่งสัญญาณให้เห็นถึงความปั่นป่วนวุ่นวายในตลาดเงินที่อาจส่งผลกระทบต่อประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ ขณะที่ตัวเลขผลผลิตมวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของจีน ซึ่งเป็นประเทศผู้ใช้น้ำมันรายใหญ่อันดับสองของโลกชะลอตัวหนักที่สุดในรอบ 5 ปีที่ 9% ในช่วงไตรมาสที่สามของปีนี้
ขณะที่นักวิเคราะห์มองว่า แม้โอเปกจะลดกำลังการผลิตลงเท่าใด ก็ไม่น่าจะทำให้ราคาน้ำมันปรับสูงขึ้นได้ในระยะเวลาอันสั้น เนื่องจากเศรษฐกิจโลกอยู่ในภาวะชะลอตัว
