รัฐบาลมือเปื้นเลือดยังดื้อด้านทำงานต่อ “รมว.คลัง” พ่นลมปากทุบค่าเงินบาทฮวบทันที 1.6% ลั่นต้องการเห็นเงินบาทอ่อนลงอีก 5% เตรียมขยายเพดานคุ้มครองเงินฝากออกไปอีก 3 ปี หลังตั้งสถาบันประกันเงินฝาก
วันนี้ (20 ต.ค.) นายสุชาติ ธาดาธำรงเวช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ต้องการให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงอีก 5% เมื่อเทียบกับดอลลาร์ เพื่อช่วยกระตุ้นการส่งออกและพยุงเศรษฐกิจในปีหน้า ที่คาดว่า อาจจะโตในระดับ 4% หรือต่ำกว่าเนื่องจากการส่งออกอาจจะขยายตัว 10% หรือต่ำกว่านั้น จากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก
“ปีหน้า เศรษฐกิจอาจขยายตัวไม่ถึง 4% เพราะการส่งออกขยายตัวต่ำลง แนวทางแก้ไขก็อาจจะปรับเรื่องการบริหารอัตราแลกเปลี่ยน โดยต้องให้ undervalue ประมาณ 5% ซึ่งจะช่วยการส่งออกได้”
อย่างไรก็ตาม แนวคิดเรื่องดังกล่าว ต้องมีการหารือกับนายโอฬาร ไชยประวัติ รองนายกรัฐมนตรีก่อน
สำหรับการเคลื่อนไหวค่าเงินบาทในช่วงเช้านี้ อยู่ที่ 34.22/27 เมื่อวันศุกร์ โดยเงินบาทอ่อนค่าลงแล้วราว 1.6% ในปีนี้
รมว.คลัง กล่าวว่า ปัญหาที่จะเกิดขึ้นในขณะนี้เป็นเรื่องความเชื่อมั่นในภาคสถาบันการเงินในต่างประเทศ ซึ่งได้รับผลกระทบจากวิกฤติสถาบันการเงินโลกดังนั้น จะต้องสร้างความเชื่อมั่นให้เกิดขึ้น
คลังเล็งเสนอขยายการคุ้มครองเงินฝากออกไปอีก 3 ปี
โดยกระทรวงการคลังจะเสนอให้มีการพิจารณาขยายการคุ้มครองเงินฝากทั้งจำนวนออกไปอีก 3 ปีจากเดิมที่ระบุไว้ใน พ.ร.บ.สถาบันประกันเงินฝากว่าจะคุ้มครองทั้งจำนวนเพียง 1 ปี หลังมีการตั้งสถาบันประกันเงินฝาก
นอกจากนี้ จะมีการพิจารณาชะลอการใช้หลักเกณฑ์ Basel 2 ซึ่งมีความเข้มงวดในการกำกับดูแลสถาบันการเงินมากขึ้นออกไปก่อน จากเดิมที่จะมีผลบังคับใช้ในต้นปีหน้า และจะมีการพิจารณาเพิ่มทุนในธนาคารรัฐ เพื่อให้มีความพร้อมสำหรับการดูแลธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อย (เอสเอ็มอี)