แรงเทขายหุ้นบิ๊กแคป ส่งผลดัชนีภาคบ่ายร่วง 4% นักลงทุนเทขายกลุ่มพลังงาน ธนาคารธนาคาร โดยหุ้น BANPU ลบไปกว่า 30 บาท กังวลในสถานการณ์ภายในประเทศ หลังข่าวลือ รัฐบาลน้องเขยแม้ว เตรียมสั่งตำรวจใช้ความรุนแรงรอบ 2 เพื่อสลายการชุมนุมของพันธมิตรฯ ล่าสุด 16.20 น. ตำรวจเริ่มยิงแก๊สน้ำตาเพื่อสลายการชุมนุมแล้ว และมีเหตุระเบิดที่หน้าพรรคชาติไทย โดยเบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิต 1 ราย
ภาวะการลงทุนในตลาดหุ้นไทย บ่ายวันนี้ ( 7 ต.ค.) ดัชนีปรับตัวลงต่อเนื่อง โดยเมื่อเวลา 15.49 น. ดัชนีอยู่ที่ระดับ 529.71 จุด ลดลง 22.09 จุด เปลี่ยนแปลง -4% นักวิเคราะห์กังวลสถานการณ์บานปลาย หลังข่าวสะพัดในทุกห้องค้าว่า รัฐบาลเตรียมใช้ความรุนแรงสลายผู้ชุมนุมอีกรอบ โดยอ้างความชอบธรรมในการยิงแก๊สน้ำตาทำร้ายประชาชน เพื่ออำนวยความสะดวกเปิดทางให้ สส.ออกจากรัฐสภา
มีรายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อเวลา 16.20 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ เริ่มยิงแก๊สน้ำตาและระเบิดควันหลายสิบลูกเข้าใส่กลุ่มผู้ชุมนุมพันธมิตรฯ ที่ปักหลักอยู่บนถนนราชวิถี บริเวณใกล้กับมหาวิทยาลัยราชภัฎสวนดุสิต เพื่อสลายกลุ่มพันธมิตรฯ ที่ปิดล้อมรัฐสภา
พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) กล่าวยอมรับว่า เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องใช้แก๊สน้ำตาสลายการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ เพื่อเปิดทางให้นักการเมืองเดินทางออกจากรัฐสภาได้ เนื่องจากพันธมิตรฯ ยังคงชุมนุม และอ้างว่าตำรวจโดนใช้กำลังเข้าทำร้าย และได้รับบาดเจ็บกว่า 10 นาย ต้องนำตัวส่งโรงพยาบาล
นอกจากนั้น ยังมีเหตุการณ์รถยนต์ระเบิดใกล้กับที่ทำการพรรคชาติไทย ซึ่ง พล.ต.ต.อำนวย กล่าวว่า ขณะนี้กำลังตรวจสอบรายงานข่าวที่ระบุว่ามีผู้เสียชีวิตด้วย เพราะยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการ
นายภูวดล ลาภอุดมสุข ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.เอเซียพลัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยช่วงบ่ายนี้ร่วงแรงกว่า 4% เนื่องจากนักลงทุนให้ความวิตกกังวลเกี่ยวกับประเด็นทางการเมืองเป็นหลักแล้ว โดยคืนวันนี้ คงจะต้องติดตามความคืบหน้าการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ต่อไปอีก
ขณะที่ตลาดหุ้นอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชีย เริ่มที่จะมีการรีบาวน์กลับ แม้ว่าจะยังอยู่ในแดนลบก็ตาม เนื่องจากตลาดหุ้นทั่วโลกได้ปรับตัวลงลึกแล้ว
นายอภิสิทธิ์ ลิมศุภนาค ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายหลักทรัพย์ บล.บีฟิท กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ร่วงลงแรง โดยต่ำสุดในรอบ 5 ปีนับจากช่วงไตรมาส 3 ของปี 2546 เนื่องจากรับปัจจัยลบทั้งจากในและนอกประเทศ โดยในส่วนของต่างประเทศยังให้ความวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตการเงิน แต่เนื่องจากธนาคารกลางจากหลายประเทศ เริ่มที่จะมีการพิจารณานำเรื่องการปรับอัตราดอกเบี้ยมาช่วยเรื่องสภาพคล่อง ทำให้ตลาดในภูมิภาคเริ่มทรงตัวได้ดีขึ้นแม้จะยังอยู่ในแดนลบก็ตาม อย่างไรก็ดีขณะนี้ตลาดฯกำลังมองดูว่าธนาคารกลางสหรัฐฯจะนำเรื่องการปรับอัตราดอกเบี้ยมาใช้ด้วยหรือเปล่า
ส่วนบ้านเราก็มีปัญหาเรื่องสถานการณ์ทางการเมืองที่กลับมามีน้ำหนักต่อตลาดฯอีกครั้ง ทั้งนี้คาดว่าวันนี้ส่วนใหญ่แรงขายจะมาจากนักลงทุนต่างชาติ
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (8 ต.ค.) นายอภิสิทธิ์ ระบุว่า นักลงทุนต้องจับตาดูสถานการณ์ทางการเมืองในคืนนี้ก่อน เพราะเริ่มที่จะซีเรียสแล้ว อีกทั้งเป็นอะไรที่คาดการณ์ได้ลำบาก ซึ่งหากรัฐบาลชิงประกาศยุบสภาก่อนก็จะทำให้ตลาดหุ้นไทยมีการสวิงตัวแรงและรีบาวน์ได้เร็ว แต่ถ้าทุกอย่างไม่มีอะไรเกิดขึ้นตลาดฯก็จะมีแนวต้านที่ 535-540 จุด แต่ถ้าทุกอย่างค่อนข้างเลวร้ายแนวรับของตลาดจะอยู่ที่ 520 , 500 จุด
ทั้งนี้ เมื่อเวลา 16.06 น. ดัชนีอยู่ที่ระดับ 529.46 จุด ลดลง 22.34 จุด มูลค่าการซื้อขาย 14,011.86 ล้านบาท
ล่าสุด ดัชนีปิดตลาดช่วงบ่ายที่ระดับ 528.71 จุด ลดลง 23.09 จุด เปลี่ยนแปลง -4.18% มูลค่าการซื้อขาย 16,313.39 ล้านบาท