สัญญาณเชิงลบเศรษฐกิจเริ่มก่อตั้ง คาดปลายปีแบงก์เทกระจาดขายเอ็นพีแอลและเอ็นพีเอ เพื่อลดความเสี่ยงการเกิดหนี้ใหม่อีกระลอก หลังวิกฤตเศรษฐกิจเริ่มส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย “บรรยง”ระบุทุนตะวันออกกลางและรัสเซียจ้องลงทุนอสังหาฯไทย หลังทุนตะวันตกไหลออก เปรยการพัฒนาเอ็นพีเอของบสก.เน้นเรื่องการสร้างคุณภาพชีวิต พร้อมเข้าประมูลทรัพย์แบงก์ทหารไทย 15,000 ล้านบาท จัดงานฉลองครบรอบ 10 ปี งัดแคมเปญ”คอนโดฯ10 บาท” 25 ต.ค.นี้
นายบรรยง วิเศษมงคลชัย กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (บสก.) เปิดเผยว่า ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ ธนาคารพาณิชย์หลายแห่งจะเร่งจำหน่ายหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล)และทรัพย์สินรอการขาย (เอ็นพีเอ) ออกมาเป็นจำนวนมาก เนื่องจากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ธนาคารพาณิชย์มีการตั้งสำรองเต็มตามเกณฑ์ ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจมีสัญญาณที่จะเกิดปัญหาขึ้น ดังนั้น ธนาคารพาณิชย์ต้องคุมความเสี่ยงการเกิดขึ้นของหนี้ใหม่และทรัพย์ฯที่ไหลเข้ามาเพิ่มอีกในปีหน้า โดยเฉพาะภาคธุรกิจส่งออกและธุรกิจที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวที่อาจเกิดปัญหาได้
” การที่เศรษฐกิจสหรัฐฯชะลอตัว และถูกซ้ำเติมด้วยวิกฤตการเงินด้วยแล้ว จะทำให้เงินทุนจากซีกตะวันตกไหลออกจากไทย แต่ใช่ว่าจะไม่มีเงินทุนจากต่างประเทศเข้ามา เพราะยังมีประเทศที่มีความมั่นคั่ง และกำลังมองหาโอกาสในการลงทุนในประเทศไทย เช่น กลุ่มทุนในรัสเซีย และประเทศในแถบตะวันออกกลางที่มีรายได้จากน้ำมันสูงมาก กำลังมองหาอสังหาฯในไทย อย่างไรก็ตาม ในส่วนของตลาดคอนโดฯตามเมืองท่องเที่ยวที่เน้นลูกค้าชาวต่างประเทศ คาดว่าจะได้รับผลกระทบ เนื่องจากเงินส่วนนี้จะหายไปจากระบบ ขณะที่ราคาบ้านในประเทศคงยังไม่ขึ้น เนื่องจากข้อมูลที่ได้รับจากผู้ประกอบการคาดว่า กำลังซื้อบ้านใหม่ในตลาดลดลง 5-10% ส่วนบ้านมือสองคงกระทบบ้างแต่ไม่มาก เพราะเน้นตลาดในประเทศ ”นายบรรยงกล่าว
สำหรับนโยบายการพัฒนาทรัพย์ฯของบสก.ในปี 2552 นอกจากจะมุ่งเรื่องการขายแล้ว สิ่งสำคัญบสก.จะเน้นเรื่องการสร้างคุณภาพชีวิต และพิจารณาในเรื่องของความต้องการของลูกค้า เช่น ที่อยู่อาศัยประเภทรีสอร์ต เหมาะสำหรับลูกค้าที่ต้องการพักผ่อน หรือกลุ่มคนชรา ซึ่งบสก.กำลังปรับปรุงศูนย์อบรมสร้างค้างอยู่หลายปี (ของกลุ่มโอสถานุเคราะห์) มาพัฒนาให้กลายเป็นแหล่งรองรับลูกค้าที่หลากหลาย เนื่องจากศูนย์ฝึกอบรมดังกล่าวอยู่ในจ.นครนายก บนเนื้อที่กว่า 200 ไร่ โดยการพัฒนาต้องวางรูปแบบที่ตอบโจทย์ลูกค้าได้ เช่น มีอาคารที่พักอาศัยประมาณ 8 อาคารๆละ 7-8 ชั้น คาดว่ารองรับลูกค้าได้ 1,000 คน รวมถึงห้องสัมมนา เพื่อให้ลูกค้ามาใช้บริการหรือเป็นที่สัมมนาของพนักงาน บสก. ทั้งนี้ การปรับปรุงศูนย์ฯดังกล่าวรวมแล้วน่าจะใช้เงินลงทุนรวม 60-70 ล้านบาท คาดว่าโครงการดังกล่าวจะมีมูลค่าการขายประมาณ 200 ล้านบาท
นายบรรยงกล่าวถึงผลการดำเนินงานของบสก.ว่า ตลอดทั้งปีน่าจะมีผลเรียกเก็บและจำหน่ายทรัพย์ได้ตามเป้า 11,700 ล้านบาท จากที่ปัจจุบันทำได้ 9,600 ล้านบาท ดังนั้นในช่วง 3 เดือนที่เหลือจะต้องทำยอดขายให้ได้ 700 ล้านบาทต่อเดือน ส่วนตัวเลขกำไรน่าจะได้ 1,000 ล้านบาทตามเป้า
ในส่วนของการรับซื้อหนี้เอ็นพีแอลและเอ็นพีเอนั้น ทางบสก.อยู่ระหว่างการเข้าไปประมูลทรัพย์เอ็นพีเอของธนาคารทหารไทยที่เตรียมออกประมูลประมาณ 15,000 ล้านบาท โดยแบ่งเป็น 4-5 กอง อนึ่งเอ็นพีเอของบสก.มีอยู่ประมาณ 40,000 ล้านบาท และเอ็นพีแอลประมาณ 2.2 แสนล้านบาท
***อัดแคมเปญ”คอนโดฯ10บาท”
นายบรรยง กล่าวต่อว่า บสก.ได้เตรียมจัดงานครบรอบ 10 ปี ภายใต้ชื่องาน ”BAM BIG THANKS ” เพื่อเป็นการขอบคุณลูกค้า ซึ่งจะจัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 25 ต.ค.นี้ ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี โดยในงานจะได้จัดให้มีบูธจำหน่ายทรัพย์สินรอการขายของบสก.ทั่วประเทศ รวมถึงบูธของธนาคารพาณิชย์ในการให้บริการสินเชื่อ และบูธจำหน่ายสินค้าของดี 4 ภาคในราคาพิเศษ
นอกจากนี้ ลูกค้าและประชาชนทั่วไป จะได้รับสิทธิลุ้นซื้อคอนโดมิเนียม ราคายูนิตละ 10 บาท รวม 10 ยูนิต เช่น ห้องชุดที่เชียงใหม่ 2 ยูนิต ที่เหลือจะอยู่ในกรุงเทพฯ นนทบุรี และปทุมธานี โดยงานดังกล่าวคาดว่าจะช่วยกระตุ้นยอดขายเพิ่มได้อีก 400-500 ล้านบาท
นายบรรยง วิเศษมงคลชัย กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (บสก.) เปิดเผยว่า ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ ธนาคารพาณิชย์หลายแห่งจะเร่งจำหน่ายหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล)และทรัพย์สินรอการขาย (เอ็นพีเอ) ออกมาเป็นจำนวนมาก เนื่องจากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ธนาคารพาณิชย์มีการตั้งสำรองเต็มตามเกณฑ์ ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจมีสัญญาณที่จะเกิดปัญหาขึ้น ดังนั้น ธนาคารพาณิชย์ต้องคุมความเสี่ยงการเกิดขึ้นของหนี้ใหม่และทรัพย์ฯที่ไหลเข้ามาเพิ่มอีกในปีหน้า โดยเฉพาะภาคธุรกิจส่งออกและธุรกิจที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวที่อาจเกิดปัญหาได้
” การที่เศรษฐกิจสหรัฐฯชะลอตัว และถูกซ้ำเติมด้วยวิกฤตการเงินด้วยแล้ว จะทำให้เงินทุนจากซีกตะวันตกไหลออกจากไทย แต่ใช่ว่าจะไม่มีเงินทุนจากต่างประเทศเข้ามา เพราะยังมีประเทศที่มีความมั่นคั่ง และกำลังมองหาโอกาสในการลงทุนในประเทศไทย เช่น กลุ่มทุนในรัสเซีย และประเทศในแถบตะวันออกกลางที่มีรายได้จากน้ำมันสูงมาก กำลังมองหาอสังหาฯในไทย อย่างไรก็ตาม ในส่วนของตลาดคอนโดฯตามเมืองท่องเที่ยวที่เน้นลูกค้าชาวต่างประเทศ คาดว่าจะได้รับผลกระทบ เนื่องจากเงินส่วนนี้จะหายไปจากระบบ ขณะที่ราคาบ้านในประเทศคงยังไม่ขึ้น เนื่องจากข้อมูลที่ได้รับจากผู้ประกอบการคาดว่า กำลังซื้อบ้านใหม่ในตลาดลดลง 5-10% ส่วนบ้านมือสองคงกระทบบ้างแต่ไม่มาก เพราะเน้นตลาดในประเทศ ”นายบรรยงกล่าว
สำหรับนโยบายการพัฒนาทรัพย์ฯของบสก.ในปี 2552 นอกจากจะมุ่งเรื่องการขายแล้ว สิ่งสำคัญบสก.จะเน้นเรื่องการสร้างคุณภาพชีวิต และพิจารณาในเรื่องของความต้องการของลูกค้า เช่น ที่อยู่อาศัยประเภทรีสอร์ต เหมาะสำหรับลูกค้าที่ต้องการพักผ่อน หรือกลุ่มคนชรา ซึ่งบสก.กำลังปรับปรุงศูนย์อบรมสร้างค้างอยู่หลายปี (ของกลุ่มโอสถานุเคราะห์) มาพัฒนาให้กลายเป็นแหล่งรองรับลูกค้าที่หลากหลาย เนื่องจากศูนย์ฝึกอบรมดังกล่าวอยู่ในจ.นครนายก บนเนื้อที่กว่า 200 ไร่ โดยการพัฒนาต้องวางรูปแบบที่ตอบโจทย์ลูกค้าได้ เช่น มีอาคารที่พักอาศัยประมาณ 8 อาคารๆละ 7-8 ชั้น คาดว่ารองรับลูกค้าได้ 1,000 คน รวมถึงห้องสัมมนา เพื่อให้ลูกค้ามาใช้บริการหรือเป็นที่สัมมนาของพนักงาน บสก. ทั้งนี้ การปรับปรุงศูนย์ฯดังกล่าวรวมแล้วน่าจะใช้เงินลงทุนรวม 60-70 ล้านบาท คาดว่าโครงการดังกล่าวจะมีมูลค่าการขายประมาณ 200 ล้านบาท
นายบรรยงกล่าวถึงผลการดำเนินงานของบสก.ว่า ตลอดทั้งปีน่าจะมีผลเรียกเก็บและจำหน่ายทรัพย์ได้ตามเป้า 11,700 ล้านบาท จากที่ปัจจุบันทำได้ 9,600 ล้านบาท ดังนั้นในช่วง 3 เดือนที่เหลือจะต้องทำยอดขายให้ได้ 700 ล้านบาทต่อเดือน ส่วนตัวเลขกำไรน่าจะได้ 1,000 ล้านบาทตามเป้า
ในส่วนของการรับซื้อหนี้เอ็นพีแอลและเอ็นพีเอนั้น ทางบสก.อยู่ระหว่างการเข้าไปประมูลทรัพย์เอ็นพีเอของธนาคารทหารไทยที่เตรียมออกประมูลประมาณ 15,000 ล้านบาท โดยแบ่งเป็น 4-5 กอง อนึ่งเอ็นพีเอของบสก.มีอยู่ประมาณ 40,000 ล้านบาท และเอ็นพีแอลประมาณ 2.2 แสนล้านบาท
***อัดแคมเปญ”คอนโดฯ10บาท”
นายบรรยง กล่าวต่อว่า บสก.ได้เตรียมจัดงานครบรอบ 10 ปี ภายใต้ชื่องาน ”BAM BIG THANKS ” เพื่อเป็นการขอบคุณลูกค้า ซึ่งจะจัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 25 ต.ค.นี้ ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี โดยในงานจะได้จัดให้มีบูธจำหน่ายทรัพย์สินรอการขายของบสก.ทั่วประเทศ รวมถึงบูธของธนาคารพาณิชย์ในการให้บริการสินเชื่อ และบูธจำหน่ายสินค้าของดี 4 ภาคในราคาพิเศษ
นอกจากนี้ ลูกค้าและประชาชนทั่วไป จะได้รับสิทธิลุ้นซื้อคอนโดมิเนียม ราคายูนิตละ 10 บาท รวม 10 ยูนิต เช่น ห้องชุดที่เชียงใหม่ 2 ยูนิต ที่เหลือจะอยู่ในกรุงเทพฯ นนทบุรี และปทุมธานี โดยงานดังกล่าวคาดว่าจะช่วยกระตุ้นยอดขายเพิ่มได้อีก 400-500 ล้านบาท