“With – Profits” กองทุนระดับโลกปรับกลยุทธ์พลิกวิกฤตเป็นโอกาส ลุยช้อนหุ้นมะกัน อังกฤษ ยุโรป และเอเชียเพิ่มหวังฟันกำไรสูงเมื่อราคารีบาวด์กลับ ย้ำไม่หวั่นแม้ดัชนีจะตกลงไปอีก เหตุฐานเงินทุนเหลือเฟือกว่า 6 ล้านล้านบาท พร้อมยืนยันปัญหาในสหรัฐสร้างผลกระทบแค่0.05% ล่าสุดส่งกองทุนลูก Dominion X Fund มูลค่า2พันล้านยูเอส เจาะตลาดไทย โดยจีบ 7-8 บลจ.เป็นพันธบัตร หวังดึงรายย่อย เศรษฐี แบงก์ ประกันฯ ไปร่วมลงทุนผ่านไพรเวตฟันด์ และเอฟไอเอฟ ปีละ 1,000 ล้านบาท
นายแอนดรูว์ วอลเลซ ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท พรูเด็นเชียล อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ในฐานะผู้บริหารกองทุน With – Profits ซึ่งเป็นกองทุนขนาดใหญ่ที่มีมูลค่าทรัพย์สินรวมกว่า 1.73 แสนล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐหรือประมาณ 6 ล้านล้านบาท เปิดเผยว่า กองทุนดังกล่าวได้รับผลกระทบจากวิกฤตสถาบันการเงินที่เกิดขึ้นในสหรัฐอเมริกาเพียง 0.05% ของพอร์ตการลงทุนเท่านั้น ซึ่งถือเป็นผลกระทบโดยตรงที่น้อยมาก แต่การล้มละลายของเลห์แมน บราเธอร์สก็ส่งผลกระทบทางอ้อมอยู่บ้าง เนื่องจากการลงทุนส่วนใหญ่ของกองทุนไม่มีการลงทุนในเครดิตสวอปเลย ซึ่งแตกต่างจาก AIG ที่ลงทุนในเครดิตสวอปค่อนข้างมาก
อย่างไรก็ตาม พอร์ตการลงทุนของกองทุน With – Profits ในปัจจุบัน ได้เข้าไปลงทุนในหุ้นเพิ่มขึ้น หลังจากตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวลดลงในช่วงที่ผ่านมา โดยเฉพาะหุ้นในสหรัฐอเมริกา เพราะมองว่าน่าจะเป็นโอกาสที่ดีในระยะยาว ถึงแม้หลังจากนี้ ตลาดหุ้นอาจจะปรับตัวลงอีก แต่ในระยะยาวเชื่อว่าจะรีบาวน์กลับขึ้นมาได้อีก ในขณะเดียวกัน ด้วยขนาดของกองทุนที่ค่อนข้างใหญ่ และมีเงินสำรองอยู่ประมาณ 5% ของพอร์ต จึงไม่มีความกังวล แม้ตลาดจะปรับลงอีกก็ตาม
ทั้งนี้ พอร์ตการลงทุนของกองทุนดังกล่าว ส่วนใหญ่เน้นลงทุนในสหรัฐ อังกฤษ และยุโรป โดยมีสัดส่วนการลงทุนในเอเชียรวมทั้งหมด 2%ประมาณ 3,460 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 120,000 ล้านบาท ของพอร์ตการลงทุนทั้งหมด ซึ่งรวมถึงการลงทุนในประเทศไทยที่เน้นลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่ด้วย โดยสาเหตุที่พอร์ตการลงทุนในเอเชียค่อนข้างน้อยเพียง 2%เนื่องจากเงินที่ระดมทุนเข้าามาส่วนใหญ่ เป็นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐและยูโรเป็นหลัก ดังนั้น หากซื้อหุ้นนอกเหนือจาก 2 ตลาดนี้ อาจจะมีความเสี่ยงเรื่องอัตราแลกเปลี่ยน อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับลดลงเช่นนี้ กองทุนก็มีแผนที่จะลงทุนเพิ่มในเอเชียด้วย
“ในช่วงที่ ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับลดลงไป เราได้ทยอยลงทุนเพิ่มไปบ้างแล้ว แต่เราก็รอดูว่าตลาดหุ้นจะปรับลงไปอีกหรือไม่ ซึ่งเราเองรอได้ เพราะด้วยขนาดของกองที่ใหญ่และมีเงินสำรองอยู่เป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม การที่ตลาดปรับลงไปค่อนข้างมาก เราเชื่อว่าในระยะยาวหลังจากนี้ น่าจะดีดกลับขึ้นมาได้แน่นอน”นายแอนดรูว์กล่าว
ส่วนมุมมองต่อตลาดหุ้นไทย นายแอนดรูว์กล่าวว่า การเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทยจะเกี่ยวข้องกับตลาดหุ้นสหรัฐด้วย ดังนั้น ในช่วงนี้จึงน่าจะยังผันผวนต่อไปอีกระยะเช่นเดียวกับตลาดหุ้นสหรัฐ อย่างไรก็ตาม การที่ตลาดหุ้นไทยเป็นตลาดที่ค่อนข้างเล็ก จึงเชื่อว่าน่าจะปรับตัวและฟื้นตัวได้เร็วกว่า ซึ่งต่างจากตลาดหุ้นสหรัฐที่น่าจะซึมยาวไปกว่านี้
ทั้งนี้ กองทุน With – Profits เป็นกองทุนที่เปิดโอกาสให้ลงทุนได้เฉพาะนักลงทุนในอังกฤษเท่านั้น แต่สำหรับนักลงทุนในประเทศอื่นๆ รวมถึงนักลงทุนในประเทศไทยที่ต้องการลงทุน สามารถลงทุนผ่านกองทุน Dominion X Fund เท่านั้น ซึ่งกองทุนดังกล่าว มีนโยบายการลงทุนให้เลือก 12 กองทุน ซึ่งจะแยกตามความเสี่ยง โดยผู้ลงทุนสามารถเลือกลงทุนได้ทั้งในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐหรือสกุลยูโร นอกจากนี้ ยังสามารถเลือกกองทุนที่มีการกู้ยืมเงินมาลงทุนเพิ่ม (Leverage) เพื่อเพิ่มผลตอบแทน นอกเหนือจากการลงทุนในกองทุน With – Profits ซึ่งเป็นกองทุนหลักด้วย
สำหรับกองทุน Dominion X Fund มีเงินลงทุนรวมประมาณ 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยผลการดำเนินงานในปีนี้ กองทุนติดลบไปประมาณ 8% ซึ่งดีกว่าการลงทุนในหุ้นทั่วโลกที่ติดลบไปแล้ว 20% ส่วนผลการดำเนินงานของกองทุนในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาให้ผลตอบแทนเฉลี่ยประมาณ 8-9% ต่อปี อย่างไรก็ตาม กองทุนดังกล่าวกำหนดการลงทุนไว้ 5 ปี และคาดการณ์ผลตอบแทนไว้ที่ 6-7%สำหรับกองทุนที่ไม่มีการทำ Leverage (X0) และ 9-11% สำหรับกองทุนที่ทำ Leverage 1 เท่า (X1) รวมถึง 12-15% สำหรับกองทุนที่ทำ Leverage 2 เท่า (X2)
ด้านนายวิวัฒน์ วินิจฉัยกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอส วี อี แอสเสท จำกัด ที่ปรึกษาด้านการลงทุนของ กองทุน Dominion X Fund ในประเทศไทย กล่าวว่า เราตั้งเป้าที่จะระดมทุนจากนักลงทุนไทยประมาณปีละ 1,000 ล้านบาท โดยผ่านกองทุนส่วนบุคคล ทั้งลูกค้าบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล รวมถึงกองทุนรวมที่ลงทุนในต่างประเทศ (เอฟไอเอฟ) ผ่านการลงทุนแบบ Feeder Fund ซึ่งขณะนี้ มีการเจารจากับบริษัทจัดการกองทุน (บลจ.) ไปแล้วประมาณ 7-8 ราย รวมถึงบริษัทหลักทรัพย์อีกประมาณ 4-5 ราย ขณะเดียวกัน ยังมีการพูดคุยธนาคารพาณิชย์และบริษัทประกัน มูลนิธิและสหกรณ์ต่างๆ เพื่อให้เข้ามาลงทุนในกองทุนดังกล่าวด้วย
โดยกองทุน Dominion X Fund ถือเป็นกองทุนที่น่าสนใจ ด้วยขนาดกองทุนที่ค่อนข้างใหญ่ และการลงทุนในหุ้นที่กระจายออกไปกว่า 5,000 บริษัททั่วโลก ทำให้ช่วยลดความเสี่ยงของกองทุนได้เป็นอย่างดี รวมถึงมีกลยุทธ์ในการกู้ยืมสร้างผลตอบแทนเพิ่มให้กับกองทุนด้วย นอกจากนี้ กองทุน “With-Profits” ซึ่งเป็นกองทุนหลักที่ Dominion X Fund เข้าไปลงทุนนั้น จัดตั้งมากว่า 100 ปี ทำให้มีกำไรสะสมจากการลงทุนอยู่เป็นจำนวนมาก คิดเป็นเงินประมาณ 4 หมื่นล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งสามารถจ่ายผลตอบแทนให้กับลูกค้าได้ แม้การลงทุนในปีนั้นจะติดลบก็ตาม ดังนั้น นักลงทุนที่ลงทุนผ่านกองทุนนี้
นายแอนดรูว์ วอลเลซ ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท พรูเด็นเชียล อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ในฐานะผู้บริหารกองทุน With – Profits ซึ่งเป็นกองทุนขนาดใหญ่ที่มีมูลค่าทรัพย์สินรวมกว่า 1.73 แสนล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐหรือประมาณ 6 ล้านล้านบาท เปิดเผยว่า กองทุนดังกล่าวได้รับผลกระทบจากวิกฤตสถาบันการเงินที่เกิดขึ้นในสหรัฐอเมริกาเพียง 0.05% ของพอร์ตการลงทุนเท่านั้น ซึ่งถือเป็นผลกระทบโดยตรงที่น้อยมาก แต่การล้มละลายของเลห์แมน บราเธอร์สก็ส่งผลกระทบทางอ้อมอยู่บ้าง เนื่องจากการลงทุนส่วนใหญ่ของกองทุนไม่มีการลงทุนในเครดิตสวอปเลย ซึ่งแตกต่างจาก AIG ที่ลงทุนในเครดิตสวอปค่อนข้างมาก
อย่างไรก็ตาม พอร์ตการลงทุนของกองทุน With – Profits ในปัจจุบัน ได้เข้าไปลงทุนในหุ้นเพิ่มขึ้น หลังจากตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวลดลงในช่วงที่ผ่านมา โดยเฉพาะหุ้นในสหรัฐอเมริกา เพราะมองว่าน่าจะเป็นโอกาสที่ดีในระยะยาว ถึงแม้หลังจากนี้ ตลาดหุ้นอาจจะปรับตัวลงอีก แต่ในระยะยาวเชื่อว่าจะรีบาวน์กลับขึ้นมาได้อีก ในขณะเดียวกัน ด้วยขนาดของกองทุนที่ค่อนข้างใหญ่ และมีเงินสำรองอยู่ประมาณ 5% ของพอร์ต จึงไม่มีความกังวล แม้ตลาดจะปรับลงอีกก็ตาม
ทั้งนี้ พอร์ตการลงทุนของกองทุนดังกล่าว ส่วนใหญ่เน้นลงทุนในสหรัฐ อังกฤษ และยุโรป โดยมีสัดส่วนการลงทุนในเอเชียรวมทั้งหมด 2%ประมาณ 3,460 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 120,000 ล้านบาท ของพอร์ตการลงทุนทั้งหมด ซึ่งรวมถึงการลงทุนในประเทศไทยที่เน้นลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่ด้วย โดยสาเหตุที่พอร์ตการลงทุนในเอเชียค่อนข้างน้อยเพียง 2%เนื่องจากเงินที่ระดมทุนเข้าามาส่วนใหญ่ เป็นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐและยูโรเป็นหลัก ดังนั้น หากซื้อหุ้นนอกเหนือจาก 2 ตลาดนี้ อาจจะมีความเสี่ยงเรื่องอัตราแลกเปลี่ยน อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับลดลงเช่นนี้ กองทุนก็มีแผนที่จะลงทุนเพิ่มในเอเชียด้วย
“ในช่วงที่ ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับลดลงไป เราได้ทยอยลงทุนเพิ่มไปบ้างแล้ว แต่เราก็รอดูว่าตลาดหุ้นจะปรับลงไปอีกหรือไม่ ซึ่งเราเองรอได้ เพราะด้วยขนาดของกองที่ใหญ่และมีเงินสำรองอยู่เป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม การที่ตลาดปรับลงไปค่อนข้างมาก เราเชื่อว่าในระยะยาวหลังจากนี้ น่าจะดีดกลับขึ้นมาได้แน่นอน”นายแอนดรูว์กล่าว
ส่วนมุมมองต่อตลาดหุ้นไทย นายแอนดรูว์กล่าวว่า การเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทยจะเกี่ยวข้องกับตลาดหุ้นสหรัฐด้วย ดังนั้น ในช่วงนี้จึงน่าจะยังผันผวนต่อไปอีกระยะเช่นเดียวกับตลาดหุ้นสหรัฐ อย่างไรก็ตาม การที่ตลาดหุ้นไทยเป็นตลาดที่ค่อนข้างเล็ก จึงเชื่อว่าน่าจะปรับตัวและฟื้นตัวได้เร็วกว่า ซึ่งต่างจากตลาดหุ้นสหรัฐที่น่าจะซึมยาวไปกว่านี้
ทั้งนี้ กองทุน With – Profits เป็นกองทุนที่เปิดโอกาสให้ลงทุนได้เฉพาะนักลงทุนในอังกฤษเท่านั้น แต่สำหรับนักลงทุนในประเทศอื่นๆ รวมถึงนักลงทุนในประเทศไทยที่ต้องการลงทุน สามารถลงทุนผ่านกองทุน Dominion X Fund เท่านั้น ซึ่งกองทุนดังกล่าว มีนโยบายการลงทุนให้เลือก 12 กองทุน ซึ่งจะแยกตามความเสี่ยง โดยผู้ลงทุนสามารถเลือกลงทุนได้ทั้งในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐหรือสกุลยูโร นอกจากนี้ ยังสามารถเลือกกองทุนที่มีการกู้ยืมเงินมาลงทุนเพิ่ม (Leverage) เพื่อเพิ่มผลตอบแทน นอกเหนือจากการลงทุนในกองทุน With – Profits ซึ่งเป็นกองทุนหลักด้วย
สำหรับกองทุน Dominion X Fund มีเงินลงทุนรวมประมาณ 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยผลการดำเนินงานในปีนี้ กองทุนติดลบไปประมาณ 8% ซึ่งดีกว่าการลงทุนในหุ้นทั่วโลกที่ติดลบไปแล้ว 20% ส่วนผลการดำเนินงานของกองทุนในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาให้ผลตอบแทนเฉลี่ยประมาณ 8-9% ต่อปี อย่างไรก็ตาม กองทุนดังกล่าวกำหนดการลงทุนไว้ 5 ปี และคาดการณ์ผลตอบแทนไว้ที่ 6-7%สำหรับกองทุนที่ไม่มีการทำ Leverage (X0) และ 9-11% สำหรับกองทุนที่ทำ Leverage 1 เท่า (X1) รวมถึง 12-15% สำหรับกองทุนที่ทำ Leverage 2 เท่า (X2)
ด้านนายวิวัฒน์ วินิจฉัยกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอส วี อี แอสเสท จำกัด ที่ปรึกษาด้านการลงทุนของ กองทุน Dominion X Fund ในประเทศไทย กล่าวว่า เราตั้งเป้าที่จะระดมทุนจากนักลงทุนไทยประมาณปีละ 1,000 ล้านบาท โดยผ่านกองทุนส่วนบุคคล ทั้งลูกค้าบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล รวมถึงกองทุนรวมที่ลงทุนในต่างประเทศ (เอฟไอเอฟ) ผ่านการลงทุนแบบ Feeder Fund ซึ่งขณะนี้ มีการเจารจากับบริษัทจัดการกองทุน (บลจ.) ไปแล้วประมาณ 7-8 ราย รวมถึงบริษัทหลักทรัพย์อีกประมาณ 4-5 ราย ขณะเดียวกัน ยังมีการพูดคุยธนาคารพาณิชย์และบริษัทประกัน มูลนิธิและสหกรณ์ต่างๆ เพื่อให้เข้ามาลงทุนในกองทุนดังกล่าวด้วย
โดยกองทุน Dominion X Fund ถือเป็นกองทุนที่น่าสนใจ ด้วยขนาดกองทุนที่ค่อนข้างใหญ่ และการลงทุนในหุ้นที่กระจายออกไปกว่า 5,000 บริษัททั่วโลก ทำให้ช่วยลดความเสี่ยงของกองทุนได้เป็นอย่างดี รวมถึงมีกลยุทธ์ในการกู้ยืมสร้างผลตอบแทนเพิ่มให้กับกองทุนด้วย นอกจากนี้ กองทุน “With-Profits” ซึ่งเป็นกองทุนหลักที่ Dominion X Fund เข้าไปลงทุนนั้น จัดตั้งมากว่า 100 ปี ทำให้มีกำไรสะสมจากการลงทุนอยู่เป็นจำนวนมาก คิดเป็นเงินประมาณ 4 หมื่นล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งสามารถจ่ายผลตอบแทนให้กับลูกค้าได้ แม้การลงทุนในปีนั้นจะติดลบก็ตาม ดังนั้น นักลงทุนที่ลงทุนผ่านกองทุนนี้
