“บิ๊ก ไพร์มเนเจอร์” วอนนักการเมืองทำเพื่อชาติ อย่าเห็นแก่ตัวกอบโกยแต่ผลประโยชน์จนชาติพัง หากธุรกิจเจ๊งจะไม่มีใครช่วยสนับสนุนพรรคการเมือง พร้อมเผยแม้ท่องเที่ยวซบเซา แต่หัวหินยังมีแรงหนุนจากนักท่องเที่ยวชาวสแกนดิเนเวียน ระบุนักธุรกิจต้องเร่งทุนทุนเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้บริโภค ล่าสุดดึงกลุ่ม อี.จี. คอนสตรัคชั่น ผุดคอนโดฯหรู
นางสุนัทที เนื่องจำนงค์ ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัท ไพร์ม เนเจอร์ จำกัด กล่าวว่า โผแสดงรายชื่อคณะรัฐบาลชุดใหม่จะไม่ขอแสดงความคิดเห็น แต่ก็เป็นโอกาสให้คนเหล่านั้นได้แสดงความรู้ความสามารถ เพราะที่ผ่านมาทุกคนต่างได้รับบทเรียนทางการเมืองมากันหมดแล้ว ดังนั้นควรนำบทเรียนนั้นมาปรับปรุงแก้ไขให้ทุกอย่างดีขึ้น ที่สำคัญที่สุดนักการเมืองควรเลิกเห็นแก่ตัว อย่าเอาแต่กอบโกยผลประโยชน์ จนทำให้ประเทศชาติเสียหาย รวมไปถึงนักธุรกิจ เพราะหากนักธุรกิจอยู่ไม่ได้ เศรษฐกิจแย่ก็จะไม่มีใครสนับสนุนให้พรรค และพรรคก็ไม่สามารถอยู่ต่อไปได้
“นอกจากนี้ ในภาวะที่ทุกคนขาดความเชื่อมั่น โดยเฉพาะผู้บริโภค เอกชนต้องช่วยกันลงทุน พัฒนาสินค้าออกมาเพื่อให้เกิดการหมุนเวียน เพราะเอกชนมีรีเสิร์ชการตลาดอยู่ในมืออยู่แล้ว หากกำลังซื้อยังมีอยู่ ก็ควรเร่งลงทุนเพื่อเรียกความเชื่อมั่นให้กลับฟื้นขึ้นมา” นางสุนัทที กล่าว
สำหรับ ธุรกิจท่องเที่ยวในปัจจุบันในฐานะที่ตนเป็นนักลงทุนใน อ. หัวหิน ขณะนี้การท่องเที่ยวแม้จะชะลอลงไปบ้างแต่ก็ได้แรงหนุนมาจากนักท่องเที่ยวชาวสแกนดิเนเวียน ที่เริ่มเข้ามาอยู่ที่หัวหินเพิ่มมากขึ้น ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา รวมไปถึงนักชาวไทยเองที่หนีการเดินทางใกล้ที่ต้องนั่งเครื่องบินไปเที่ยวที่ต้องใช้ค่าเดินทางสูง หันมาเที่ยวในจังหวัดใกล้เคียงกรุงเทพฯ ซึ่งการเดินทางมาหัวหินใช้เวลาไม่มาก ทำให้มีคนไทยนิยมไปพักผ่อนที่หัวหินเพิ่มมากขึ้น
นางสุนัทที กล่าวต่อว่า สำหรับโครงการ ไพร์มเนเจอร์ วิลล่า หัวหินนั้น ปัจจุบันเหลือที่ดินที่ยังไม่ได้พัฒนาอีกหลายไร่ โดยเฉพาะแปลงที่ติดร้านพายุ ขนาด 15 ไร่ โดยมีแผนที่จะพัฒนาเป็นคอนโดมิเนียม โลว์ไรส์ และโรงแรมหรูในสไตล์พลูวิลล่า จำนวน 23 หลัง เกรด A++ ราคาที่พัก 25,000 บาท/คืน ซึ่งขณะนี้ได้ออกแบบเสร็จเรียบร้อยแล้ว
ส่วนการลงทุนนั้น คาดว่าจะใช้เงินลงทุนประมาณ 400 ล้านบาท และค่าที่ดินอีก 300 ล้านบาท โดยจะเป็นการหาพันธมิตรเข้ามาร่วมทุน ปัจจุบันเจรจาเรียบร้อยแล้ว แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ในขณะนี้ เพราะยังไม่สรุปว่าพันธมิตรรายใหม่ดังกล่าวจะถือหุ้นในสัดส่วนเท่าใด นอกจากนี้ยังรอให้เศรษฐกิจดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่เสียก่อน
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ ไพร์มเนเจอร์ได้ร่วมทุนกับบริษัท อี.จี.คอนสตรัคชั่น จำกัด บริษัทผู้รับเหมาก่อสร้างให้แก่โครงการขนาดใหญ่หลายโครงการโดยเฉพาะแนวสูง และซุปเปอร์สโตว์ขนาดใหญ่ ในการร่วมลงทุนพัฒนาคอนโดมิเนียม ภายใต้ชื่อ โลว์ ไรส์ ลักซูเรียส คอนโดมิเนียม (Low Rise Luxurious Condominium) พัฒนาภายใต้บริษัท อี.จ.พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ด้วยทุนจดทะเบียน 100 ล้านบาท โดยกลุ่มไพร์มเนเจอร์ถือหุ้นในสัดส่วน 20%
โครงการโลว์ ไรส์ ลักซูเรียส มีจำนวน 93 ยูนิต ระดับราคาห้องธรรมดา ราคา 85,000 บาท/ตร.ม. หรือเริ่มต้นที่ 4.9 ล้านบาท ส่วนเพนเฮาส์ ราคา 120,000 บาท/ตร.ม. ราคาประมาณ 32 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 700 ล้านบาท ปัจจุบันมียอดขายแล้ว 30% ทั้งนี้โครงการจะสร้างเสร็จและส่งมอบได้ในเดือนกรกฎาคม 2552
นางสุนัทที เนื่องจำนงค์ ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัท ไพร์ม เนเจอร์ จำกัด กล่าวว่า โผแสดงรายชื่อคณะรัฐบาลชุดใหม่จะไม่ขอแสดงความคิดเห็น แต่ก็เป็นโอกาสให้คนเหล่านั้นได้แสดงความรู้ความสามารถ เพราะที่ผ่านมาทุกคนต่างได้รับบทเรียนทางการเมืองมากันหมดแล้ว ดังนั้นควรนำบทเรียนนั้นมาปรับปรุงแก้ไขให้ทุกอย่างดีขึ้น ที่สำคัญที่สุดนักการเมืองควรเลิกเห็นแก่ตัว อย่าเอาแต่กอบโกยผลประโยชน์ จนทำให้ประเทศชาติเสียหาย รวมไปถึงนักธุรกิจ เพราะหากนักธุรกิจอยู่ไม่ได้ เศรษฐกิจแย่ก็จะไม่มีใครสนับสนุนให้พรรค และพรรคก็ไม่สามารถอยู่ต่อไปได้
“นอกจากนี้ ในภาวะที่ทุกคนขาดความเชื่อมั่น โดยเฉพาะผู้บริโภค เอกชนต้องช่วยกันลงทุน พัฒนาสินค้าออกมาเพื่อให้เกิดการหมุนเวียน เพราะเอกชนมีรีเสิร์ชการตลาดอยู่ในมืออยู่แล้ว หากกำลังซื้อยังมีอยู่ ก็ควรเร่งลงทุนเพื่อเรียกความเชื่อมั่นให้กลับฟื้นขึ้นมา” นางสุนัทที กล่าว
สำหรับ ธุรกิจท่องเที่ยวในปัจจุบันในฐานะที่ตนเป็นนักลงทุนใน อ. หัวหิน ขณะนี้การท่องเที่ยวแม้จะชะลอลงไปบ้างแต่ก็ได้แรงหนุนมาจากนักท่องเที่ยวชาวสแกนดิเนเวียน ที่เริ่มเข้ามาอยู่ที่หัวหินเพิ่มมากขึ้น ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา รวมไปถึงนักชาวไทยเองที่หนีการเดินทางใกล้ที่ต้องนั่งเครื่องบินไปเที่ยวที่ต้องใช้ค่าเดินทางสูง หันมาเที่ยวในจังหวัดใกล้เคียงกรุงเทพฯ ซึ่งการเดินทางมาหัวหินใช้เวลาไม่มาก ทำให้มีคนไทยนิยมไปพักผ่อนที่หัวหินเพิ่มมากขึ้น
นางสุนัทที กล่าวต่อว่า สำหรับโครงการ ไพร์มเนเจอร์ วิลล่า หัวหินนั้น ปัจจุบันเหลือที่ดินที่ยังไม่ได้พัฒนาอีกหลายไร่ โดยเฉพาะแปลงที่ติดร้านพายุ ขนาด 15 ไร่ โดยมีแผนที่จะพัฒนาเป็นคอนโดมิเนียม โลว์ไรส์ และโรงแรมหรูในสไตล์พลูวิลล่า จำนวน 23 หลัง เกรด A++ ราคาที่พัก 25,000 บาท/คืน ซึ่งขณะนี้ได้ออกแบบเสร็จเรียบร้อยแล้ว
ส่วนการลงทุนนั้น คาดว่าจะใช้เงินลงทุนประมาณ 400 ล้านบาท และค่าที่ดินอีก 300 ล้านบาท โดยจะเป็นการหาพันธมิตรเข้ามาร่วมทุน ปัจจุบันเจรจาเรียบร้อยแล้ว แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ในขณะนี้ เพราะยังไม่สรุปว่าพันธมิตรรายใหม่ดังกล่าวจะถือหุ้นในสัดส่วนเท่าใด นอกจากนี้ยังรอให้เศรษฐกิจดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่เสียก่อน
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ ไพร์มเนเจอร์ได้ร่วมทุนกับบริษัท อี.จี.คอนสตรัคชั่น จำกัด บริษัทผู้รับเหมาก่อสร้างให้แก่โครงการขนาดใหญ่หลายโครงการโดยเฉพาะแนวสูง และซุปเปอร์สโตว์ขนาดใหญ่ ในการร่วมลงทุนพัฒนาคอนโดมิเนียม ภายใต้ชื่อ โลว์ ไรส์ ลักซูเรียส คอนโดมิเนียม (Low Rise Luxurious Condominium) พัฒนาภายใต้บริษัท อี.จ.พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ด้วยทุนจดทะเบียน 100 ล้านบาท โดยกลุ่มไพร์มเนเจอร์ถือหุ้นในสัดส่วน 20%
โครงการโลว์ ไรส์ ลักซูเรียส มีจำนวน 93 ยูนิต ระดับราคาห้องธรรมดา ราคา 85,000 บาท/ตร.ม. หรือเริ่มต้นที่ 4.9 ล้านบาท ส่วนเพนเฮาส์ ราคา 120,000 บาท/ตร.ม. ราคาประมาณ 32 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 700 ล้านบาท ปัจจุบันมียอดขายแล้ว 30% ทั้งนี้โครงการจะสร้างเสร็จและส่งมอบได้ในเดือนกรกฎาคม 2552