xs
xsm
sm
md
lg

รื้อโครงสร้างภาษีสรรพสามิต "รมช.พิชัย" คึกชงขุนคลังใหม่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

"พิชัย" โชว์ผลงาน รมช.รักษาการ เตรียมปรับโครงสร้างภาษีสรรพสามิตใหม่ เสนอ ครม.เน้นสินค้าฟุ่มเฟือยและมอมเมาเยาวชนรวมทั้งภาษีสิ่งแวดล้อม ขณะที่โครงการขายสินค้าใต้ทางด่วนต้องเลื่อนออกไปหลังเกิดสุญญากาศทางการเมือง แต่จะพยายามผลักดันให้เปิดขายชั่วคราวทันเทศกาลปีใหม่

นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รักษาการ รมช.คลัง เปิดเผยว่า กรมสรรพสามิตได้จัดทำแผนการปรับโครงสร้างภาษีสรรพสามิตแล้วเสร็จซึ่งอยู่ระหว่างรอเสนอ รมว.คลังคนใหม่และคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อประกาศใช้ต่อไป โดยจะมีการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตในหลายสินค้าที่เป็นสินค้าฟุ่มเฟือยและก่อมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป้าหมายในการปรับโครงสร้างภาษีครั้งนี้มุ่งเน้นให้ส่งผลต่อเยาวชนวัยรุ่นไทยเป็นสำคัญ

เนื่องจากปัจจุบันมีสินค้าหลายประเภทที่ผลิตขึ้นเพื่อยั่วยุและตอบสนองความต้องการที่เกินพอดีของวัยรุ่น กระทั่งมีการหลอกลวงให้วัยรุ่นหลงผิดหรือใช้จ่ายฟุ่มเฟือยเพื่อซื้อสินค้าเหล่านี้ นอกจากนี้จากสถานการณ์โลกที่ได้รับผลจากภาวะโลกร้อนก็ส่งผลต่อความเป็นอยู่ของคนในประเทศไทย จึงจำเป็นต้องใช้มาตรการทางภาษีเข้ามาเพื่อดูแลสภาพแวดล้อมให้ดีขึ้น

"ขณะนี้ไม่อยากเปิดเผยรายละเอียดของสินค้าที่จะต้องจัดเก็บภาษีเพิ่มซึ่งจะมีกว่า 10 ประเภทด้วยกัน ยอมรับอาจมีทั้งคนเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย แต่ยืนยันการจะเก็บภาษีใหม่อยู่บนพื้นฐานเพื่อลดความฟุ่มเฟือยของประชาน โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่น นักศึกษา"นายพิชัยกล่าว

รายงานข่าวจากกรมสรรพสามิตแจ้งว่า ภาษีสรรพสามิตที่จะจัดเก็บใหม่ส่วนมากจะจัดเก็บจากสินค้าที่กระทบกับวัยรุ่น อาทิ เกมออนไลน์ บุหรี่หรือเหล้าปรุงรส รวมถึงเครื่องดื่มปรุงรสซึ่งมีการผลิตและซื้อขายกันแพร่หลายมาก โดยสินค้าเหล่านี้ใช้การโฆษณาประชาสัมพันธ์เพื่อให้วัยรุ่นติดภาพความโก้เก๋ หรือใช้แล้วเป็นผู้นำสมัย ก้าวตามโลกยุคไซเบอร์ โดยขณะนี้รอเพียงจัดตั้งคณะรัฐมนตรีจากนั้นกรมสรรพสามิตก็จะสามารถเสนอเพื่อพิจารณาต่อไป คาดจะได้รายได้เพิ่มจากสินค้าประเภทเป็นหลักพันล้านบาท

นายพิชัยกล่าวว่า บริษัทธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด (ธพส.) อาจต้องเลื่อนการเปิดตัวโครงการเปิดพื้นที่ขายสินค้าใต้ทางด่วนออกไประยะหนึ่ง ทั้งแบบชั่วคราว ที่เดิมกำหนดไว้ช่วงเดือนพ.ย. ออกไปเป็นธ.ค. หรืออย่างช้าม.ค. 52 รวมถึงแบบถาวร ที่กำหนดเริ่มก่อสร้างช่วงต้นปีหน้าออกไปอีก แต่ทั้งนี้จะพยายามให้เกิดความล่าช้าให้น้อยที่สุด สืบเนื่องจากปัญหาสุญญาการทางการเมืองในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ไม่สามารถดำเนินงานใด ๆ ได้ เพราะจะต้องนำเสนอเรื่องดังกล่าวให้ครม.ชุดใหม่พิจารณาเห็นชอบด้วย เนื่องจากถือเป็นเรื่องนโยบายของรัฐบาล

ทั้งนี้หลังจากที่รัฐบาลได้ให้นโยบายเรื่องดังกล่าวลงไปแล้ว และได้กำหนดช่วงเวลาเปิดขายแบบชั่วคราว เพื่อทดลองตลาดนั้น ปรากฏว่ามีประชาชนติดต่อสอบถามเข้ามาอย่างมาก แต่ขณะนี้ ธพส.ยังไม่สามารถเข้าพื้นที่ได้ เนื่องจากการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ที่จะต้องโอนพื้นที่ใต้ทางด่วนทั้ง 14 แห่ง ให้ธพส.เข้าไปปรับปรุงพื้นที่นั้น ยังไม่ได้โอนมาให้ เพราะติดขัดด้านงานเอกสาร จากปัญหาสูญญากาศทางการเมือง ซึ่งต้องรอให้มีครม.ชุดใหม่เข้ามารับช่วงงานต่อเนื่องก่อน และเมื่อกระทรวงคมนาคมได้อนุมัติให้กทพ.โอนพื้นที่มาให้ธพส.เช่า 10 ปี ในอัตราตารางวาละ 35 บาท แล้ว ธพส.จึงจะเข้าไปปรับปรุงพื้นที่ พร้อมทั้งเดินหน้างานด้านการจัดซื้อจัดจ้าง และปรับปรุงพื้นที่ตามแผนงานที่วางไว้ต่อไปได้

“ส่วนที่จะเปิดทดลองขายของชั่วคราว ที่กำหนดไว้ 3 สัปดาห์ในเดือนพ.ย.นี้ คงต้องเลื่อนออกไปก่อน แต่ทั้งนี้ผมจะพยายามเร่งให้สามารถเปิดขายได้ในช่วงธ.ค.เป็นอย่างเร็ว เพราะถือเป็นช่วงเทศกาล ที่ควรจะส่งเสริมให้มีพื้นที่ซื้อขายสินค้ากัน ซึ่งเมื่อมีครม.ชุดใหม่แล้ว จะเร่งนำเสนอเรื่องโดยเร็ว แต่สำหรับการเปิดพื้นที่ขายของแบบถาวรนั้น ต้องเลื่อนออกไปอย่างแน่นอน เพราะต้องรอนำเรื่องส่งครม. และเมื่ออนุมัติแล้วก็ใช้เวลาอีก 1 เดือนในการเข้าไปตกแต่งพื้นที่อีก”

สำหรับเงื่อนไขที่จะเปิดให้ประชาชนและเอสเอ็มอีต่าง ๆ เข้ามาขายของใต้ทางด่วนนั้น เบื้องต้นได้กำหนดว่า ในแต่ละพื้นที่จะมีผู้ประกอบการรายใหญ่ ร้านค้าสะดวกซื้อ สถาบันการเงินต่าง ๆ 50% ซึ่งจะกำหนดค่าเช่าในราคาท้องตลาด เพื่อนำรายได้ในส่วนนี้มาถัวเฉลี่ยให้แก่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ที่จะคิดค่าเช่าราคาถูก เพื่อให้ธพส.เลี้ยงตัวเองได้ ไม่เป็นภาระด้านงบประมาณของรัฐ อีกทั้งเพื่อเป็นจุดดึงดูดให้มีประชาชนเข้ามาเดินด้วย เนื่องจากหากมีแต่เอสเอ็มอี อาจไม่น่าสนใจ และจะไม่ให้ขายอาหารที่ต้องใช้แก๊สด้วย เพราะอาจเกิดอันตรายได้ เนื่องจากเป็นพื้นที่ใต้ทางด่วน มีรถสัญจรไปมาตลอดเวลา

ด้านค่าเช่าแต่ละพื้นที่นั้น จะแตกต่างกันไป เช่นพื้นที่ใต้ทางด่วนสีลม สุขุมวิท จะสูงกว่า ย่านรามอินทรา อีกทั้งจะเลือกผู้ที่มีศักยภาพ สามารถเปิดร้านได้ทุกวันก่อน เพราะต้องการให้โครงการเกิดอย่างสมบูรณ์ ไม่ใช่มีร้านว่าง ๆ ที่ปิดไว้ ทำให้ภาพโดยรวมร้านค้าเหล่านี้ดูไม่น่าเดิน และหากปิดไว้นาน ก็จะตัดสิทธิ์เรียกพื้นที่คืนเพื่อให้รายอื่นมาขายแทน

“ที่สำคัญ คนที่ขายจะได้คนละ 1 สิทธิ์เท่านั้น โดยจะต้องมีรูปติดบริเวณในร้านด้วย เพื่อให้เห็นชัดเจนว่า เป็นบุคคลเดียวกับที่มาขอสิทธิ์ในการขายสินค้า โดยธพส.ไม่เปิดให้มีการเช่าช่วง เปลี่ยนมือ หรือคนหนึ่งเช่าได้หลายพื้นที่ หากผู้ขายมีรูปไม่ตรงกับที่ติดไว้ ก็จะตัดสิทธิ์ และหากมีผู้สนใจขายสินค้ามากกว่าจำนวนคูหาที่จัดไว้เบื้องต้น 2,000 แห่งจากเป้าหมายทั้งหมด 20,000 คูหา ก็จะใช้วิธีการจับสลาก โดยจะทำสัญญาเช่าพื้นที่แบบปีต่อปี หากร้านใดทำดี ก็ต่อสัญญาให้โดยไม่ต้องจับสลากใหม่ และพิจารณาปรับขึ้นค่าเช่าตามศักยภาพร้านค้าด้วย โดยเมื่อธพส.พร้อมก็จะเปิดรับสมัครอย่างเป็นทางการต่อไป”
กำลังโหลดความคิดเห็น