งานมหกรรมบ้านธอส. 55 ปี คึกคัก ประชาชนแห่ชมงานเพียบ โดยเฉพาะบูธฝากเงินธอส. อัดดอกเบี้ยนสูงสุด 5% ประจำ 3 ปี บิ๊กธอส.-เอกชนประสานเสียงชี้โอกาศสุดท้ายคนซื้อบ้านต้นทุนเดิม ธอส.ตั้งเป้าปล่อยกู้ในงานกว่า 5,000 ล้านบาท
วานนี้ (18 ก.ย.51) ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดงานมหกรรมบ้าน 55 ปี ธอส.และมหกรรมบ้านมือสองแห่งชาติครั้งที่ 4 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิตติ์ โดยบรรยากาศภายในงานมีประชาชนเข้าชมงานจำนวนมาก ภายในงานนอกจากสถานบันการเงินจะนำบ้านมือสองออกมาขายแล้ว ยังมีผั้ประกอบการนำบ้านมือหนึ่งมาเสนอขายในอัตราพิเศษต้นทุนเดิม พร้อมโปรโมชั่นมากมาย อีกทั้ง ธอส.ยังมีสินเชื่อซื้อบ้านในอัตราดอกเบี้ยพิเศษอีกด้วย นอกจากนี้ธอส.ยังเปิดรับเงินฝากอัตราดอกเบี้ยสูงสุด 5% สำหรับผู้ที่ฝากประจำ 3 ปี
นายขรรค์ ประจวบเหมาะ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส. ) กล่าวว่า งานดังกล่าวเป็นโอกาสดีที่ผู้บริโภคจะเลือกซื้อที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง เนื่องจากทรัพย์สินที่นำมาขายในงาน มีทั้งบ้านใหม่และบ้านมือสอง จำหน่ายในราคาต้นทุนเดิม ก่อนที่จะปรับขึ้นราคาในช่วงต้นปีหน้า หลังจากต้นทุนราคาวัสดุก่อสร้างได้ปรับเพิ่มขึ้นมาประมาณ 20% ในปีนี้ นอกจากนี้ ภายในงานยังมีการเสนอสินเชื่อ และเงินกู้อัตราดอกเบี้ยพิเศษ ซึ่งเชื่อว่าจะได้รับความสนใจมีผู้ขอสินเชื้อประมาณ 5,000 ล้านบาท ส่วนเงินฝากประจำ 3 ปี อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 5% สามารถรับได้ไม่จำกัดจำนวน
ด้านนายทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ ประธานและกรรมการผู้จัดการ บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน)กล่าวว่า การตัดสินใจซื้อบ้านในช่วงนี้เป็นจังหวะที่เหมาะสมของผู้บริโภคมากที่สุด เพราะนอกจากจะได้สิทธิจากมาตรการกระตุ้นภาษีแล้ว ยังได้ซื้อบ้านในราคาลดมากถึง 3 - 5%
ขณะที่ นายอธิป พีชานนท์ กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) และนายกสมาคมอาคารชุดไทย กล่าวเสริมว่า ผู้บริโภคควรตัดสินใจซื้อบ้านพร้อมโอนหรือสั่งสร้างที่กำลังจะสร้างเสร็จภายในเดือนก.พ.เพื่อให้ทันกับมาตรการภาษีและช่วงเวลาที่สถาบันการเงินจะอนุมัติสินเชื่อได้ทัน
“ ไทม์มิ่งที่ดีที่สุดในการซื้อบ้านและยื่นขอสินเชื่อคือต้องทำทุกอย่างให้จบภายในสิ้นปีนี้ อย่าไปรอเวลาหรือไปลุ้นซื้อบ้านที่สร้างเสร็จในเดือนมีนาคมปี 2552 เพราะมันเสี่ยงเกินไป”
ด้าน นายไพโรจน์ สุขจั่น ประธานกรรมการ กลุ่ม บัวทอง กรุ๊ป กล่าวว่า ลูกค้าที่ตัดสินใจซื้อบ้านในช่วงนี้จะได้ซื้อในราคาลด เนื่องจากผู้ประกอบการต้องการที่จะระบายสินค้าในสต๊อกให้ทันกับมาตรการกระตุ้นของรัฐบาล และมีความเป็นไปได้ว่าปีนี้จะเป็นปีสุดท้ายที่รัฐบาลจะต่ออายุมาตรการออกไปอีก และจะส่งผลให้ในปี 2552 เป็นต้นไป ผู้บริโภคจะซื้อบ้านในราคาที่แพงมากขึ้น
**ลดดอกเบี้ยช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม
สำหรับกรณีที่ไทยประสบภาวะน้ำท่วมในหลายจังหวหัดทั่วประเทศ ซึ่งทำให้ลูกค้าบางส่วนของธอส.ได้รับผลกระทบไปด้วย ดังนั้นธอส.จึงมีนโยบายช่วยเหลือลูกค้าที่ประสบปัญหาน้ำท่วม โดยให้ลูกค้าจ่ายเฉพาะดอกเบี้ย งดเว้นเงินต้น ในอัตรา 1% เป็นระยะเวลา 6 เดือน และกรณีที่น้ำลดแล้วสามารถขอกู้เงินเพื่อซ่อมแซมบ้านในอัตราดอกเบี้ยพิเศษ ปีแรก 4.50 % หรือ เอ็มอาร์อาร์ ( 7.50 % ) -3 % โดยลูกค้าธอส. สามารถขอสินเชื่ออัตราพิเศษดังกล่าวได้ที่สาขาของ ธอส. ทั่วประเทศ ล่าสุดยอดเงินฝาก ณ.15.30 มีลูกค้านำเงินมาฝากแล้ว1,700ล้านบาท
วานนี้ (18 ก.ย.51) ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดงานมหกรรมบ้าน 55 ปี ธอส.และมหกรรมบ้านมือสองแห่งชาติครั้งที่ 4 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิตติ์ โดยบรรยากาศภายในงานมีประชาชนเข้าชมงานจำนวนมาก ภายในงานนอกจากสถานบันการเงินจะนำบ้านมือสองออกมาขายแล้ว ยังมีผั้ประกอบการนำบ้านมือหนึ่งมาเสนอขายในอัตราพิเศษต้นทุนเดิม พร้อมโปรโมชั่นมากมาย อีกทั้ง ธอส.ยังมีสินเชื่อซื้อบ้านในอัตราดอกเบี้ยพิเศษอีกด้วย นอกจากนี้ธอส.ยังเปิดรับเงินฝากอัตราดอกเบี้ยสูงสุด 5% สำหรับผู้ที่ฝากประจำ 3 ปี
นายขรรค์ ประจวบเหมาะ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส. ) กล่าวว่า งานดังกล่าวเป็นโอกาสดีที่ผู้บริโภคจะเลือกซื้อที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง เนื่องจากทรัพย์สินที่นำมาขายในงาน มีทั้งบ้านใหม่และบ้านมือสอง จำหน่ายในราคาต้นทุนเดิม ก่อนที่จะปรับขึ้นราคาในช่วงต้นปีหน้า หลังจากต้นทุนราคาวัสดุก่อสร้างได้ปรับเพิ่มขึ้นมาประมาณ 20% ในปีนี้ นอกจากนี้ ภายในงานยังมีการเสนอสินเชื่อ และเงินกู้อัตราดอกเบี้ยพิเศษ ซึ่งเชื่อว่าจะได้รับความสนใจมีผู้ขอสินเชื้อประมาณ 5,000 ล้านบาท ส่วนเงินฝากประจำ 3 ปี อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 5% สามารถรับได้ไม่จำกัดจำนวน
ด้านนายทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ ประธานและกรรมการผู้จัดการ บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน)กล่าวว่า การตัดสินใจซื้อบ้านในช่วงนี้เป็นจังหวะที่เหมาะสมของผู้บริโภคมากที่สุด เพราะนอกจากจะได้สิทธิจากมาตรการกระตุ้นภาษีแล้ว ยังได้ซื้อบ้านในราคาลดมากถึง 3 - 5%
ขณะที่ นายอธิป พีชานนท์ กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) และนายกสมาคมอาคารชุดไทย กล่าวเสริมว่า ผู้บริโภคควรตัดสินใจซื้อบ้านพร้อมโอนหรือสั่งสร้างที่กำลังจะสร้างเสร็จภายในเดือนก.พ.เพื่อให้ทันกับมาตรการภาษีและช่วงเวลาที่สถาบันการเงินจะอนุมัติสินเชื่อได้ทัน
“ ไทม์มิ่งที่ดีที่สุดในการซื้อบ้านและยื่นขอสินเชื่อคือต้องทำทุกอย่างให้จบภายในสิ้นปีนี้ อย่าไปรอเวลาหรือไปลุ้นซื้อบ้านที่สร้างเสร็จในเดือนมีนาคมปี 2552 เพราะมันเสี่ยงเกินไป”
ด้าน นายไพโรจน์ สุขจั่น ประธานกรรมการ กลุ่ม บัวทอง กรุ๊ป กล่าวว่า ลูกค้าที่ตัดสินใจซื้อบ้านในช่วงนี้จะได้ซื้อในราคาลด เนื่องจากผู้ประกอบการต้องการที่จะระบายสินค้าในสต๊อกให้ทันกับมาตรการกระตุ้นของรัฐบาล และมีความเป็นไปได้ว่าปีนี้จะเป็นปีสุดท้ายที่รัฐบาลจะต่ออายุมาตรการออกไปอีก และจะส่งผลให้ในปี 2552 เป็นต้นไป ผู้บริโภคจะซื้อบ้านในราคาที่แพงมากขึ้น
**ลดดอกเบี้ยช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม
สำหรับกรณีที่ไทยประสบภาวะน้ำท่วมในหลายจังหวหัดทั่วประเทศ ซึ่งทำให้ลูกค้าบางส่วนของธอส.ได้รับผลกระทบไปด้วย ดังนั้นธอส.จึงมีนโยบายช่วยเหลือลูกค้าที่ประสบปัญหาน้ำท่วม โดยให้ลูกค้าจ่ายเฉพาะดอกเบี้ย งดเว้นเงินต้น ในอัตรา 1% เป็นระยะเวลา 6 เดือน และกรณีที่น้ำลดแล้วสามารถขอกู้เงินเพื่อซ่อมแซมบ้านในอัตราดอกเบี้ยพิเศษ ปีแรก 4.50 % หรือ เอ็มอาร์อาร์ ( 7.50 % ) -3 % โดยลูกค้าธอส. สามารถขอสินเชื่ออัตราพิเศษดังกล่าวได้ที่สาขาของ ธอส. ทั่วประเทศ ล่าสุดยอดเงินฝาก ณ.15.30 มีลูกค้านำเงินมาฝากแล้ว1,700ล้านบาท