ตลท.เผยผลสำรวจความเห็น CEO Survey บจ. 163 แห่ง กังวลสถานการณ์การเมืองปะทุหนัก หากนายกฯ-รัฐบาลชุดเดิม ยังกลับเข้ามาบริหารประเทศ คาดจะมีอายุไม่เกิน 3 เดือน พร้อมระบุ นโยบายเศรษฐกิจในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา 41% เห็นว่าไม่น่าพอใจ 43% รู้สึกเฉยๆ และพอใจแค่ 8%
วันนี้ (11 ก.ย.) นายกอบศักดิ์ ภู่ตระกูล ผู้บริหารสถาบันวิจัยเพื่อตลาดทุน สายงานวิจัยและข้อมูลสารสนเทศ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ฝ่ายวิจัยได้สำรวจความคิดเห็นผู้บริหารบริษัทจดทะเบียน 162 แห่งหรือคิดเป็น 63% ของมูลค่าตลาดรวม พบว่าส่วนใหญ่ยังกังวลสถานการณ์ทางการเมืองมากกว่าปัจจัยเสี่ยงด้านราคาวัตถุดิบ และมองว่าหากได้รัฐมนตรีชุดเดิมกลับมาบริหารประเทศก็จะมีอายุไม่เกิน 3 เดือน
"ผู้บริหาร บจ.คาดว่า ในวันศุกร์นี้หาก นายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรี ถูกพิจารณาให้กลับเข้ามาดำรงตำแหน่งทางการเมืองในฐานะนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง ตามผลสำรวจความคิดเห็นของผู้บริหารมองว่า อาจจะดำรงตำแหน่งได้อีกประมาณ 3 เดือน เพราะผลงานในช่วงที่ผ่านมายังไม่โดดเด่น ซึ่งผลสำรวจเมื่อเปรียบเทียบพบว่า นโยบายเศรษฐกิจในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาประมาณ 41% ให้ความคิดเห็นว่าไม่น่าพอใจ 43% รู้สึกเฉยๆ และมองว่าน่าพอใจแค่ 8%
ทั้งนี้ ผลสำรวจพบว่า บจ.ยังให้ความสำคัญต่อความกังวลเรื่องการเมืองที่อาจจะลากยาว และทำให้กระทบต่อการบริโภคชะลอตัวลงใน 6 เดือนข้างหน้า ซึ่งเป็นปัญหาหลักในตอนนี้เมื่อเทียบกับปัจจัยเสี่ยงในเรื่องของราคาวัตถุดิบและราคาน้ำมัน ส่วนการเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ยไม่มีใครมองว่าเป็นปัญหา หรือกังวลต่อการเติบโตของบริษัทและเศรษฐกิจ
สำหรับทางออกทางการเมืองนั้นคงจะต้องติดตามดูในวันศุกร์นี้ว่าจะออกมาในรูปแบบใด และจะสามารถทำให้คนส่วนใหญ่คลายความกังวลหรืออาจจะทำให้เศรษฐกิจมีเสถียรภาพเพิ่มขึ้นหรือไม่ แต่อย่างไรก็ตาม จะเห็นได้ว่าบทบาทของการเมืองไทยเริ่มปรับเปลี่ยนมาให้ความสำคัญกับรัฐสภามากขึ้นจากเดิมที่ใช้รัฐประหารเป็นตัวแก้ปัญหา
นายกอบศักดิ์ กล่าวต่อว่า ปัญหาทางการเมืองส่งผลให้ตลาดหุ้นปรับตัวลดลงมากในช่วงที่ผ่านมา โดยวอลุ่มตลาดหดเหลือเพียง 6,000-10,000 ล้านบาท/วัน จากต้นปีที่อยู่ในระดับเฉลี่ย 1.9 หมื่นล้านบาท/วัน และหากไม่มีคำตอบในเรื่องการเมืองก็เป็นไปได้ยากที่ดัชนีตลาดหุ้นจะปรับตัวดีขึ้น
ทั้งนี้ บจ.ส่วนใหญ่แม้จะมีปัญหาทางการเมือง แต่ก็คงยังให้ความสำคัญในเรื่องการลงทุน แต่รูปแบบในการระดมทุนเปลี่ยนไปเป็นรูปแบบอื่นนอกเหนือจากการเพิ่มทุนผ่านตลาดหุ้น บริษัทที่มีแผนจะออกขายหุ้น IPO ก็จะชะลอลงไปด้วย โดยหันมาใช้กำไรสะสมหรือขอสินเชื่อภายในประเทศแทน
นายกอบศักดิ์ กล่าวว่า การสำรวจในประเด็นเสถียรภาพทางการเมืองและนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาลส่วนใหญ่มองว่ายังไม่น่าพอใจ และอยากให้แก้ไขในเรื่องการเมืองเป็นหลัก รองลงมาคือการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการลงทุนในโครงการเมกะโปรเจ็คต์ ส่วนปัญหาเงินเฟ้อใน 12 เดือนข้างหน้า บจ.ส่วนใหญ่มองว่าเงินเฟ้อจะอยู่ที่ระดับ 7-8% ส่วนในเรื่องของต้นทุนราคาวัตถุดิบมองว่ายังมีแนวโน้มปรับขึ้นบ้าง แต่คงจะไม่รุนแรงเมื่อเทียบกับก่อนหน้านี้