xs
xsm
sm
md
lg

เกียรตินาคินรับครึ่งปีหลังหืดจับ เศรษฐกิจซบ-ยอดซื้อรถยนต์วูบ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เกียรตินาคินรับสินเชื่อครึ่งปีหลังโตต่ำกว่าเป้า เหตุเศรษฐกิจชะลอกระทบยอดซื้อรถ แต่ยังคงเป้าสินเชื่อทั้งปีโต 30%หวังยอดครึ่งปีแรกช่วยพยุงได้ ขณะที่หนี้เอ็นพีแอลเริ่มขยับตัวเพิ่ม แต่จะพยายามกดไว้ให้อยู่ในระดับต่ำกว่า 10% ด้านนวลีสซิ่งสบช่องตั้งบริษัทรับบริหารหนี้ เผยล่าสุดมียอด 2.5 พันล้าน

นายชวลิต จินดาวณิค ประธานสายการเงินและงบประมาณ ธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด(มหาชน)หรือ KK เปิดเผยถึงการปล่อยสินเชื่อของธนาคารในช่วงครึ่งปีหลังว่า คงจะมีการขยายตัวได้ต่ำกว่าในช่วงครึ่งปีแรกที่สามารถปล่อยสินเชื่อได้เกินกว่าครึ่งของเป้าหมายที่ตั้งไว้ เนื่องจากได้รับผลกระทบจากยอดขายรถยนต์ที่ปรับลดลงตามภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ซึ่งส่งผลกระทบต่อพอร์ตสินเชื่อของธนาคารที่มีสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ถึง 2 ใน 3 ของสินเชื่อรวม แต่อย่างไรก็ตาม ธนาคารยังคงเป้าหมายการขยายตัวของสินเชื่อในปี 2551 ไว้ในระดับเดิมที่ 30% แม้ในครึ่งปีหลังสินเชื่ออาจจะลดลงก็ไม่น่าจะฉุดให้การปล่อยสินเชื่อทั้งปีลดลงจากเป้าหมายมากนัก

"ธนาคารจะพยายามปล่อยสินเชื่อให้ตามเป้าหมายเดิมที่ตั้งไว้ 30% แม้ปริมาณการขายรถยนต์ที่ลดลงมีผลกระทบต่อยอดสินเชื่อ แต่ในครึ่งปีแรกการปล่อยสินเชื่อถือว่าโตดีเกินเป้า แม้ในครึ่งปีหลังสินเชื่อปล่อยได้ยากขึ้นก็อาจจะทำให้การปล่อยสินเชื่อทั้งปีต่ำกว่าเป้าไปเล็กน้อย"นายชวลิตกล่าว

ส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(เอ็นพีแอล)ขณะนี้ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงมากนัก แต่ก็เริ่มมีลูกค้าบางส่วนเข้ามาปรึกษาในด้านการปรับโครงสร้างหนี้ เนื่องจากลูกค้าบางส่วนได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจและค่าครองชีพที่สูงขึ้น โดยทางธนาคารก็มีแนวทางในการการปัญหา โดยการยืดระยะเวลาการชำระหนี้ออกไป ซึ่งส่งผลให้ NPLของธนาคารไม่เพิ่มสูงขึ้นจากในช่วงกลางปี NPL ของธนารคารอยู่ที่ 9% และภาพรวมทั้งปีของปีนี้จะพยายามรักษาไว้ให้อยู่ในระดับต่ำกว่าปีก่อนที่อยู่ระดับที่ต่ำกว่า 10%

"จากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอลงและค่าครองชีพที่เพิ่มสูงขึ้น ธนาคารได้มีการปรับเงื่อนไขในการปล่อยสินเชื่อที่เข้มงวดขึ้นและมีการระมัดระวังมากขึ้นเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดหนี้เสีย แม้ว่าปัจจุบันสัญญาณการเพิ่มขึ้นของหนี้เสียทั้งระบบจะเริ่มมีให้เห็น แต่ธนาคารก็จะระมัดระวังและล่าสุดก็ยังไม่มีการเพิ่มขึ้นที่ชัดเจน"นายชวลิต กล่าว

สำหรับทิศทางดอกเบี้ยในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ธนาคารจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับภาพรวมของระบบ หากธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ ธนาคารก็จะปรับขึ้นตามแต่ยอมรับว่าในภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ทำได้ค่อนข้างยาก แม้ว่าในช่วงที่ผ่านมาอัตราดอกเบี้ยเงินฝากจะปรับเพิ่มขึ้นไปค่อนข้างมาก ส่งผลให้ต้นทุนทางการเงินของธนาคารต่างๆสูงขึ้น แต่ปัจจุบันจะต้องดูสถานการณ์ทางเศรษฐกิจต่อไป

นายชวลิตกล่าวอีกว่า หากธนาคารพาณิชย์ต่างๆไม่มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในครึ่งปีหลัง ธนาคารก็จะไม่ได้รับผลกระทบจากต้นทุนทางการเงินที่เพิ่มขึ้นมากนัก เพราะสินเชื่อ ส่วนใหญ่ของธนาคารเป็นสินเชื่อเช่าซื้อ ซึ่งสินเชื่อเช่าซื้อได้มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยไปตั้งแต่เดือนมิ.ย.-ก.ค.แล้ว โดยล่าสุดส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิของธนาคารอยู่ที่ระดับ 4% ส่วนสิ้นปีจะรักษาได้หรือไม่นั้นก็ต้องดูต่อไป แต่เชื่อว่าโอกาสปรับขึ้นของอัตราดอกเบี้ยเงินกู้น่าจะมีอยู่และธนาคารก็น่าจะรักษาส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 4% ได้
**NVLสบช่องตั้งบริษัทรับบริหารหนี้**

นายรัตนชัย นันทปราโมทย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทนวลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน)หรือ NVL กล่าวว่า แนวโน้มของหนี้เอ็นพีแอลในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ มีทิศทางจะปรับเพิ่มขึ้น จากสถานการณ์เมืองที่ส่งผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันได้เริ่มกระทบต่อความสามารถในการชำระหนี้ของลูกค้าในสถาบันการเงินต่างๆ ทำให้ลูกหนี้เริ่มมีการชำระหนี้น้อยลง

ทั้งนี้ จากกรณีดังกล่าวได้ส่งผลดีต่อบริษัท เนื่องจากบริษัทได้ตั้งบริษัทลูก คือ Bassing Asset Service เพื่อรับบริหารหนี้ให้กับสถาบันการเงิน โดยล่าสุดมีสถาบันการเงินที่มาใช้บริการแล้ว 5 ราย และ 1 ในนั้นมีธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่รวมอยู่ด้วย รวมมูลหนี้ที่รับบริหารทั้งหมด 2,500 ล้านบาท และหากลูกค้ามีความต้องการที่จะมาใช้บริการมากขึ้น บริษัทก็จะต้องมีการขยายกิจการและเพิ่มทุนเพื่อรองรับงานที่เข้ามา
กำลังโหลดความคิดเห็น