RICH เผยพอใจกับการเข้าศึกษาความเป็นไปได้เพื่อลงทุนในบริษัทแห่งหนึ่ง แต่อยู่ระหว่างการเจรจาต่อรองในเรื่องอื่น ๆ พร้อมขอขยายกรอบเวลาศึกษาความเป็นไปได้ถึงสิ้นปีนี้ หากผู้ขายไม่ขัดข้องบริษัทใช้สิทธิบอกเลิกและรับเงินมัดจำ 200 ล้านคืนเต็มจำนวน
นายสมเกียรติ วงศาโรจน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ริช เอเชีย สตีล จำกัด (มหาชน)(RICH ) แจ้งว่าเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2551 บริษัทได้จ่ายเงินมัดจำจ่ายเพื่อการลงทุน 200 ล้านบาท เพื่อเข้าศึกษาความเป็นไปได้ในการลงทุนในบริษัทแห่งหนึ่ง
โดยความคืบหน้าเงินมัดจำจ่ายเพื่อการลงทุนดังกล่าว คือ บริษัทได้ทำบันทึกความเข้าใจในการเข้าลงทุนในบริษัทแห่งหนึ่งจากผู้จะขาย ที่มีระยะเวลาในการดำเนินการศึกษาความเป็นไปได้ ตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม 2551 - 30 กันยายน 2551 โดยความสมบูรณ์ของการลงทุนดังกล่าวขึ้นอยู่กับ ผลการตรวจสอบ Due Diligence ทางด้านกฎหมายและด้านบัญชีการเงิน การเข้าทำสัญญาการลงทุน และการอนุมัติการลงทุนจากผู้ถือหุ้นของบริษัท (ขึ้นอยู่กับขนาดรายการของการได้มาซึ่งสินทรัพย์ว่าอยู่ในเกณฑ์ที่จะต้องขออนุมัติจากผู้ถือหุ้นหรือไม่ โดยที่รายการดังกล่าวไม่เข้าข่ายเป็นรายการที่เกี่ยวโยงกัน) ทั้งนี้ บริษัทได้ว่าจ้างที่ปรึกษากฎหมาย และผู้สอบบัญชีอิสระ ในการเข้าตรวจสอบข้อมูลทางด้านกฎหมายและด้านบัญชีการเงิน ตามลำดับ
บริษัทได้รับผลการตรวจสอบ Due Diligence ด้านบัญชีและการเงิน รวมทั้งผลการตรวจสอบทางด้านกฎหมายแล้ว ซึ่งผลเบื้องต้นอยู่ในเกณฑ์น่าพอใจ อย่างไรก็ดี ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการเจรจาต่อรองในเรื่องอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนในบริษัทดังกล่าว เนื่องจากกรอบเวลาการศึกษาความเป็นไปได้ในการเข้าลงทุนดังกล่าวตามบันทึกความเข้าใจที่ทำกับผู้จะขาย จะสิ้นสุดลงในวันที่ 30 กันยายน 2551 ซึ่งเวลาที่เหลืออยู่ตามบันทึกความเข้าใจดังกล่าวอาจไม่เพียงพอต่อการพิจารณาอนุมัติการลงทุน
ดังนั้น เพื่อให้การพิจารณาการลงทุนในบริษัทแห่งนั้น เป็นไปอย่างรอบคอบ มีความถูกต้องเหมาะสม และให้บริษัทได้รับผลประโยชน์สูงสุด บอร์ดจึงขยายระยะเวลาในการเข้าลงทุนออกไปจนถึงภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2551 ซึ่งผู้จะขายได้ยินยอมและไม่ขัดข้องในการขยายระยะเวลาดังกล่าวออกไป และจะยังคงเงื่อนไขเดิมในกรณีที่บริษัทใช้สิทธิบอกเลิกบันทึกความเข้าใจฉบับนี้ ผู้จะขายจะชำระคืนเงินมัดจำเต็มจำนวนให้แก่บริษัทภายใน 30 วัน นับจากวันที่บริษัทได้แจ้งบอกเลิกพร้อมดอกเบี้ย ในเงิน มัดจําดัง กล่าวในอัตราเฉลี่ยของดอกเบี้ย เงินกู้ชั้นดีของธนาคารกรุง เทพ จํากั ด (มหาชน) และธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) นับตั้งแต่วันที่ผู้จะขายได้รับเงินมัดจำจนถึงวันที่จ่ายชำระเงินมัดจำคืนเต็มจำนวน
นายสมเกียรติ วงศาโรจน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ริช เอเชีย สตีล จำกัด (มหาชน)(RICH ) แจ้งว่าเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2551 บริษัทได้จ่ายเงินมัดจำจ่ายเพื่อการลงทุน 200 ล้านบาท เพื่อเข้าศึกษาความเป็นไปได้ในการลงทุนในบริษัทแห่งหนึ่ง
โดยความคืบหน้าเงินมัดจำจ่ายเพื่อการลงทุนดังกล่าว คือ บริษัทได้ทำบันทึกความเข้าใจในการเข้าลงทุนในบริษัทแห่งหนึ่งจากผู้จะขาย ที่มีระยะเวลาในการดำเนินการศึกษาความเป็นไปได้ ตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม 2551 - 30 กันยายน 2551 โดยความสมบูรณ์ของการลงทุนดังกล่าวขึ้นอยู่กับ ผลการตรวจสอบ Due Diligence ทางด้านกฎหมายและด้านบัญชีการเงิน การเข้าทำสัญญาการลงทุน และการอนุมัติการลงทุนจากผู้ถือหุ้นของบริษัท (ขึ้นอยู่กับขนาดรายการของการได้มาซึ่งสินทรัพย์ว่าอยู่ในเกณฑ์ที่จะต้องขออนุมัติจากผู้ถือหุ้นหรือไม่ โดยที่รายการดังกล่าวไม่เข้าข่ายเป็นรายการที่เกี่ยวโยงกัน) ทั้งนี้ บริษัทได้ว่าจ้างที่ปรึกษากฎหมาย และผู้สอบบัญชีอิสระ ในการเข้าตรวจสอบข้อมูลทางด้านกฎหมายและด้านบัญชีการเงิน ตามลำดับ
บริษัทได้รับผลการตรวจสอบ Due Diligence ด้านบัญชีและการเงิน รวมทั้งผลการตรวจสอบทางด้านกฎหมายแล้ว ซึ่งผลเบื้องต้นอยู่ในเกณฑ์น่าพอใจ อย่างไรก็ดี ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการเจรจาต่อรองในเรื่องอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนในบริษัทดังกล่าว เนื่องจากกรอบเวลาการศึกษาความเป็นไปได้ในการเข้าลงทุนดังกล่าวตามบันทึกความเข้าใจที่ทำกับผู้จะขาย จะสิ้นสุดลงในวันที่ 30 กันยายน 2551 ซึ่งเวลาที่เหลืออยู่ตามบันทึกความเข้าใจดังกล่าวอาจไม่เพียงพอต่อการพิจารณาอนุมัติการลงทุน
ดังนั้น เพื่อให้การพิจารณาการลงทุนในบริษัทแห่งนั้น เป็นไปอย่างรอบคอบ มีความถูกต้องเหมาะสม และให้บริษัทได้รับผลประโยชน์สูงสุด บอร์ดจึงขยายระยะเวลาในการเข้าลงทุนออกไปจนถึงภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2551 ซึ่งผู้จะขายได้ยินยอมและไม่ขัดข้องในการขยายระยะเวลาดังกล่าวออกไป และจะยังคงเงื่อนไขเดิมในกรณีที่บริษัทใช้สิทธิบอกเลิกบันทึกความเข้าใจฉบับนี้ ผู้จะขายจะชำระคืนเงินมัดจำเต็มจำนวนให้แก่บริษัทภายใน 30 วัน นับจากวันที่บริษัทได้แจ้งบอกเลิกพร้อมดอกเบี้ย ในเงิน มัดจําดัง กล่าวในอัตราเฉลี่ยของดอกเบี้ย เงินกู้ชั้นดีของธนาคารกรุง เทพ จํากั ด (มหาชน) และธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) นับตั้งแต่วันที่ผู้จะขายได้รับเงินมัดจำจนถึงวันที่จ่ายชำระเงินมัดจำคืนเต็มจำนวน
