บสย. ออกมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ คิดค่าธรรมเนียมปีแรก 0.5% ให้กับผู้ที่ส่งคำขอค้ำประกันระหว่าง 1 ก.ค.51 - 31 ธ.ค. 53
นายทวีศักดิ์ ฟุ้งเกียรติเจริญ กรรมการและผู้จัดการทั่วไป บสย. กล่าวว่า คณะกรรมการ บสย. มีมติเห็นชอบให้ต่ออายุมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ (ปัตตานี ยะลา นราธิวาส) โดยผู้ประกอบการ SMEs รายใหม่ ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่สถาบันการเงินส่งคำขอให้ บสย. ระหว่างวันที่ 1 กรกฎาคม 2551 – 31 ธันวาคม 2553 และผู้ประกอบการที่มีภาระค้ำประกันกับ บสย. และต้องต่ออายุการค้ำประกัน ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2551 – 30 มิถุนายน 2552 บสย. จะคิดค่าธรรมเนียมอัตราพิเศษ ปีแรกร้อยละ 0.5 ของวงเงินค้ำประกัน ปีที่สองในอัตราร้อยละ 1.0 ของวงเงินค้ำประกันและ ปีที่สามเป็นต้นไป คิดค่าธรรมเนียมอัตราปกติร้อยละ 1.75 ต่อปี
บสย. กำหนดวงเงินค้ำประกันสูงสุดไม่เกิน 2 ล้านบาท ต่อราย และมีเป้าหมายในการค้ำประกันให้กับผู้ประกอบการ SMEs 3 จังหวัดชายแดนใต้ จำนวน 500 ล้านบาท เพื่อตอบสนองนโยบายรัฐบาลในการกระตุ้นเศรษฐกิจใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ สร้างความมั่นใจให้ผู้ประกอบการในการลงทุนและ จูงใจให้ผู้ประกอบการหันมาลงทุนเพิ่มขึ้นหลังจากเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบ ประกอบกับธนาคาร แห่งประเทศไทยได้ขยายเวลาการให้สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำของสถาบันการเงินเฉพาะกิจถึงปี 2553
นายทวีศักดิ์ ฟุ้งเกียรติเจริญ กรรมการและผู้จัดการทั่วไป บสย. กล่าวว่า คณะกรรมการ บสย. มีมติเห็นชอบให้ต่ออายุมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ (ปัตตานี ยะลา นราธิวาส) โดยผู้ประกอบการ SMEs รายใหม่ ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่สถาบันการเงินส่งคำขอให้ บสย. ระหว่างวันที่ 1 กรกฎาคม 2551 – 31 ธันวาคม 2553 และผู้ประกอบการที่มีภาระค้ำประกันกับ บสย. และต้องต่ออายุการค้ำประกัน ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2551 – 30 มิถุนายน 2552 บสย. จะคิดค่าธรรมเนียมอัตราพิเศษ ปีแรกร้อยละ 0.5 ของวงเงินค้ำประกัน ปีที่สองในอัตราร้อยละ 1.0 ของวงเงินค้ำประกันและ ปีที่สามเป็นต้นไป คิดค่าธรรมเนียมอัตราปกติร้อยละ 1.75 ต่อปี
บสย. กำหนดวงเงินค้ำประกันสูงสุดไม่เกิน 2 ล้านบาท ต่อราย และมีเป้าหมายในการค้ำประกันให้กับผู้ประกอบการ SMEs 3 จังหวัดชายแดนใต้ จำนวน 500 ล้านบาท เพื่อตอบสนองนโยบายรัฐบาลในการกระตุ้นเศรษฐกิจใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ สร้างความมั่นใจให้ผู้ประกอบการในการลงทุนและ จูงใจให้ผู้ประกอบการหันมาลงทุนเพิ่มขึ้นหลังจากเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบ ประกอบกับธนาคาร แห่งประเทศไทยได้ขยายเวลาการให้สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำของสถาบันการเงินเฉพาะกิจถึงปี 2553
