KMC แจงผลงานไตรมาส 2 ฟื้นกำไรกว่า 164% เหตุยอดขายอสังหาฯ เพิ่ม รวมทั้งมีกำไรจากการขายเงินลงทุนในบริษัทย่อยและกำไรจากการปรับโครงสร้างหนี้ ขณะที่ ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปลดป้าย SP หลังจากแขวนมาตั้งแต่ 15 ส.ค.เพราะบริษัทไม่ส่งงบการเงินตามกำหนด
นายสง่า ชูตระกูล กรรมการ บริษัท กฤษดามหานคร จำกัด (มหาชน) ( KMC ) แจ้งมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 7/2551วันที่ 18 สิงหาคม 2551 ว่าบอร์ดรับทราบผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ว่าบริษัทมีกำไรสุทธิ 66.92 ล้านบาท ขณะที่งวดเดียวกันของปีก่อนบริษัทขาดทุนสุทธิ 104.34 ล้านบาท หรือฟื้นกำไร 164.13%
เนื่องจากรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ของบริษัทฯ มียอดเพิ่มขึ้นจากเมื่อปี 2550 จำนวน 492 ล้านบาท คิดเป็น 263.76% ผลมาจากความสำเร็จในการขาย ที่อยู่อาศัยแนวสูงคือโครงการ เดอะคริส ในปี 2550 และได้รับรู้รายได้ในปี 2551 ขณะที่ต้นทุนอสังหาริมทรัพย์ในไตรมาสของบริษัทฯ มียอดเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 432ล้านบาท โดยเพิ่มขึ้นเป็น 326.44 % อันสืบเนื่องมาจากรายได้ทีเพิ่มขึ้นตลอดจนราคาของวัสดุอุปกรณ์ที่เพิ่มขึ้นรวมทั้งดอกเบี้ยจ่ายที่ถือเป็นต้นทุนของบริษัทฯ เพิ่มขึ้น
สำหรับไตรมาส 2 ปีนี้ บริษัท ได้ขายเงินลงทุนในบริษัทย่อยออกไป 2 บริษัทฯ ทำให้เกิดกำไรจากการขายเงินลงทุนในบริษัทย่อยจำนวน 70 ล้านบาท (ตามงบการเงินแสดงยอดกำไร 215 ล้านบาท และมีสำรองซึ่งแสดงรวมอยู่ในค่าใช้จ่าย บริหารงานขาย 145 ล้านบาท ) และดอกเบี้ยจ่ายเพิ่ม ขณะที่มีกำไรจากการปรับโครงสร้างหนี้กับเจ้าหนี้หุ้นกู้ของบริษัทฯ 18 ล้านบาท
ขณะที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ปลดเครื่องหมาย "SP" (Suspension) หลักทรัพย์ของ KMC ตั้งแต่การซื้อขายหลักทรัพย์รอบเช้าของวันที่19สิงหาคม 2551 เนื่องจาก KMC นำส่งการเงินแล้ว หลังจากที่แขวนป้ายดังกล่าวมาตั้งแต่รอบการซื้อขายช่วงเช้าวันที่ 15 สิงหาคมที่ผ่านมาเพราะไม่ส่งงบการเงินตามกำหนด
นายสง่า ชูตระกูล กรรมการ บริษัท กฤษดามหานคร จำกัด (มหาชน) ( KMC ) แจ้งมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 7/2551วันที่ 18 สิงหาคม 2551 ว่าบอร์ดรับทราบผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ว่าบริษัทมีกำไรสุทธิ 66.92 ล้านบาท ขณะที่งวดเดียวกันของปีก่อนบริษัทขาดทุนสุทธิ 104.34 ล้านบาท หรือฟื้นกำไร 164.13%
เนื่องจากรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ของบริษัทฯ มียอดเพิ่มขึ้นจากเมื่อปี 2550 จำนวน 492 ล้านบาท คิดเป็น 263.76% ผลมาจากความสำเร็จในการขาย ที่อยู่อาศัยแนวสูงคือโครงการ เดอะคริส ในปี 2550 และได้รับรู้รายได้ในปี 2551 ขณะที่ต้นทุนอสังหาริมทรัพย์ในไตรมาสของบริษัทฯ มียอดเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 432ล้านบาท โดยเพิ่มขึ้นเป็น 326.44 % อันสืบเนื่องมาจากรายได้ทีเพิ่มขึ้นตลอดจนราคาของวัสดุอุปกรณ์ที่เพิ่มขึ้นรวมทั้งดอกเบี้ยจ่ายที่ถือเป็นต้นทุนของบริษัทฯ เพิ่มขึ้น
สำหรับไตรมาส 2 ปีนี้ บริษัท ได้ขายเงินลงทุนในบริษัทย่อยออกไป 2 บริษัทฯ ทำให้เกิดกำไรจากการขายเงินลงทุนในบริษัทย่อยจำนวน 70 ล้านบาท (ตามงบการเงินแสดงยอดกำไร 215 ล้านบาท และมีสำรองซึ่งแสดงรวมอยู่ในค่าใช้จ่าย บริหารงานขาย 145 ล้านบาท ) และดอกเบี้ยจ่ายเพิ่ม ขณะที่มีกำไรจากการปรับโครงสร้างหนี้กับเจ้าหนี้หุ้นกู้ของบริษัทฯ 18 ล้านบาท
ขณะที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ปลดเครื่องหมาย "SP" (Suspension) หลักทรัพย์ของ KMC ตั้งแต่การซื้อขายหลักทรัพย์รอบเช้าของวันที่19สิงหาคม 2551 เนื่องจาก KMC นำส่งการเงินแล้ว หลังจากที่แขวนป้ายดังกล่าวมาตั้งแต่รอบการซื้อขายช่วงเช้าวันที่ 15 สิงหาคมที่ผ่านมาเพราะไม่ส่งงบการเงินตามกำหนด
